28 มิ.ย. 64 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีภาคเอกชนบางที่เสนอให้ตัดเงินเดือนส.ส. 10% ไปช่วยสถานการณ์โควิด-19ว่า ไม่ติดใจอะไร เพราะทุกวันนี้ ออกฉีดพ่นยาแจกหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ มอบถุงยังชีพ ก็ใช้เงินเดือนส.ส.เดือนๆ หนึ่งก็ไม่เหลืออยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องตีฆ้องร้องป่าวอะไร ที่สำคัญไม่เคยเห็นมีคนในรัฐบาลหน้าไหนจะมาช่วยผู้แทนที่ลงพื้นที่ หรือคิดจะมาตั้งหน่วยให้การช่วยเหลือ รายอำเภอ รายตำบล ถ้ามีวิธีอื่นที่ทำแล้วดีกว่านี้ควรจะทำหรือไม่ เนื่องจากเงินเดือนส.ส.ตัดคนละ 10% แค่ 8,000 บาท รัฐบาลนักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากู้เงินเป็นล้านล้านบาทไปแก้โควิด ผลเป็นอย่างไร
อย่างนี้ถ้าคนเป็นผู้นำเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกที่ไหนที่ทำคนตายได้มากขนาดนี้ ควรจะตัดเงิน ครม. ไปซื้อวิตามินบี และเบตาแคโรทีน เพื่อให้ผู้นำประเทศและคณะรัฐมนตรี ให้มีปัญญาเป็นเลิศในการแก้ไขที่เป็นผลสำเร็จมากกว่า ที่จะแก้ไขปัญหาแบบเช้าบอกอย่างเย็น อย่างศุกร์บอกอย่างจันทร์ประกาศอีกอย่าง นอกจากนี้ควรจะตัดเงินเดือนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีคนละ 50% และข้าราชการ ตั้งแต่ปลัดกระทรวงรองปลัด อธิบดี รองอธิบดี และ ส.ว. 250 คน ก็จะเป็นประโยชน์มากกว่าเพราะต้องรับผิดชอบร่วมกันในฐานะผู้บริหารประเทศ
"วิธีการเสนอตัดเงิน ไม่ว่าจะหน่วยงานใดเช่นนี้ หาใช่ทางออกที่เป็นปัญญาในการแก้ไขไม่ ต่อให้รัฐบาลมีเงินมากมายขนาดไหนหากรัฐบาลไม่มีปัญญา ไม่มีความรู้ในการแก้ไข ในสถานการณ์ ที่ผู้นำยังติดตลกยังนะจ๊ะๆ สุดท้ายก็รังแต่จะทำให้ประชาชนคนไทยตายแบบนะจ๊ะทุกวัน คิดว่า เงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาก็คือ คนบริหาร ควรจะมีปัญญาแก้ไขอย่างนักบริหารที่ดีมีเหตุผล รู้จักกาละ และวางระบบอย่างเป็นขั้นเป็นตอน นำพาประชาชนและประเทศชาติรอดตายได้อย่างไรมากกว่า" นายจิรายุ ระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |