"มันชินี่"ชมออสเตรียเล่นอิตาลีหืดจับ


เพิ่มเพื่อน    


โรแบร์โต้ มันชินี่ บอสทีมชาติอิตาลี คิดว่า ออสเตรีย อาจเป็นบทดทดสอบที่หนักกว่าการเจอทีมอย่าง เบลเลยี่ยม หรือ โปรตุเกส ในรอบควอร์เตอร์ไฟนอล หลังขุนพลอัซซูร์รี่ ผ่านรอบ 16 ทีมมาได้แบบหืดขึ้นคอ
    อิตาลี ที่ผ่านรอบแรกมาด้วยผลงานสวยหรู ลงเตะเป็นคู่สองของ รอบ 16 ทีม ฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา กว่าจะคว่ำทีมรองบ่อนอย่าง ออสเตรีย ได้ ก็แทบแย่ โดยชนะไปได้แค่หวุดหวิด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เตะจบ 120 นาทีที่สนามเวมบลีย์ก่อนเข้ารอบไปด้วยสกอร์ 2-1
    อิตาลี มาได้ 2 ประตูในช่วงเอ็กซ์ตร้าไทม์ จาก 2 ตัวสำรอง เฟเดริโก คิเอซา น.95 และ มัตเตโอ เปสซินา น.105 ก่อนที่ ออสเตรีย จะมาได้คืนหนึ่งลูกจาก ซาซา คาลัดจ์ซิช น.114
    หากมองถึงรอบต่อไปที่ อิตาลี จะต้องเจอทีมใดทีมหนึ่งระหว่าง เบลเยี่ยม หรือ โปรตุเกส ที่ มิวนิค แต่ มันชินี่ คิดว่าทีมของตน ที่เพิ่งยืดสถิติไร้พ่ายออกไปเป็น 31 นัด อาจเพิ่งผ่านบททดสอบที่หนักที่สุดไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
    "เรารู้ว่ามันอาจเป็นเปลือกกล้วยสำหรับทีมของเราในแมทช์นี้ และเราคิดว่านี่น่าจะเป็นเกมที่หนักกว่าในรอบควอร์เตอร์ไฟนอล พวกเขาไม่ได้ดีเท่ากับทีมที่เราจะต้องเจอในรอบต่อไป แต่พวกเขาทำให้เราเจองานยาก และสร้างปัญหากับเรามากทีเดียว"
    "เรารู้ว่าถ้าเรายิงได้ในครึ่งแรก เกมมันจะไม่ออกมาแบบนี้ เราคุยกันแล้วว่ามันจะเป็นแมทช์ที่เราจะต้องหืดจับแน่กว่าจะชนะ เราต้องพยายามอย่างมากด้วยทุกอย่างที่มี"
    "ผู้เล่นของเราต้องการเอาชนะให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม และจากตัวสำรองที่ส่งลงไป พวกเขาทำหน้าที่ได้เยี่ยม และช่วยให้เราสามารถเอาชนะเกมนี้จนได้"
    อิตาลี แสดงให้เห็นถึงระดับความฟิตที่ยอดเยี่ยมากเกมรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 3 นัด แต่เกมนี้เหมือนจะแผ่วไปกระทั่ง มีการส่ง มานูเอล โลกาเตลลี่, เปสซินา และ คิเอซา ลงไปเปลี่ยนเกม
    มันชินี่ กล่าวเพิ่มเติม "พกเขาสุดยอดมากต้องยอมรับ และนั่นน่าจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับเรา เราแสดงให้เห็นว่าเราไขแก้สถานการณ์ได้ เรามีผู้เล่นที่สามารถก้าวลงสู่สนาม และเปลี่ยนเกมได้ เพราะพวกเขาสดกว่า มันเป็นฟอร์มที่สุดยอดมากอีกนัด"
    แต่ผลการแข่งขันอาจเปลี่ยนไป ไม่ใช่ อิตาลี ที่เข้ารอบ หากไม่เพราะลูกยิงของ มาร์โก อาร์เนาโตวิช กองหน้าจากเวสต์แฮม ในนาทีที่ 65 อดได้ประตูเพราะล้ำหน้าจากที่ดู VAR แล้ว ช่วงนั้น ออสเตรีย เล่นดีกว่า และกำลังทำได้ดีกว่าทีมของ มันชินี่
    ส่วนทีมที่ได้เข้าไปยืนรอเป็นทีมแรกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย คือ เดนมาร์ก หลังลงเตะเป็นคู่แรก เมื่อคืนวันเสาร์ ไล่ถล่ม เวลส์ ตกรอบไปแบบหมดสภาพถึง 4-0 ได้จาก แคสเปอร์ โดลเบิร์ก น.27 และ 48 โจอาคิม แมเลอ น.88  และ มาร์ติน ไบรธ์เวท น.90+4 ขณะที่ ทีมมังกรแดง จบเกมด้วยผู้เล่น 10 คน หลัง แฮร์รี่ วิลสัน โดนใบแดง น.90 รอบต่อไป เดนมาร์ก จะเจอทีมชนะระหว่าง สาธารณรัฐเชก กับ เนเธอร์แลนด์
    แอขลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ อดีตผู้เล่นทีมชาติเวลส์ เชื่อว่า เดนมาร์ก ได้แรงกระตุ้นพิเศษที่จะต้องเอาชนะคู่แข่งให้ได้เพื่อเพื่อนร่วมทีม คือ คริสเตียน อีริคเซ่น ที่หัวใจหยุดเต้นฟุบคาสนามในนัดเปิดสนาม
    "ผมคิดว่าพวกเขาต้องการทำสิ่งนี้เพื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น บางครั้งการเล่นเป็นทีม ทุกสิ่งจะต้องมาพร้อมกันในเกม"

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"