27 มิ.ย.2564 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้เปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นต้นแบบขยายไปสู่เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางน้ำ เพราะ จ.ภูเก็ตมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญและมีชื่อเสียงในระดับโลก ตนจึงสั่งให้กรมเจ้าท่าในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลภาคการคมนาคมทางน้ำ เร่งจัดทำแผนเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ) จ.ภูเก็ต วันที่ 1 ก.ค.64
ทั้งนี้ได้กำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้า-ออกทางน้ำ บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยกำหนดให้ท่าเทียบเรือโดยสาร จำนวน 3 ท่า เป็นด่านตรวจทางน้ำ ได้แก่ ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต, ท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต และ ท่าเทียบเรืออ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง 2.ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และพำนักอยู่ใน จ.ภูเก็ตตามกำหนด 14 คืน ที่ประสงค์จะเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ตทางเรือ ให้เดินทางผ่านท่าเรือที่กำหนดเป็นด่านตรวจทางน้ำเท่านั้น
อย่างไรก็ตามกรณีเดินทางโดยเรือยอร์ชให้เดินทางออกจากท่าเรือที่กำหนด ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือยอร์ช เฮเว่น มารีน่า, ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า, ท่าเทียบเรือภูเก็ต โบ๊ทลากูน, ท่าเทียบเรือรอยัล ภูเก็ต มารีน่า และ ท่าเทียบเรือมารีน่าอ่าวฉลอง โดยต้องแจ้งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต หรือศูนย์ปฏิบัติการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต (ศปก.ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ) ก่อนออกเดินทางไม่น้อยกว่า 6 ชม
สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางท่องเที่ยวในน่านน้ำ จ.ภูเก็ต ให้เดินทางผ่านเฉพาะท่าเรือที่กำหนด และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19, ติดตั้งระบบ Tracing Application “Morchana” บนสมาร์ทโฟนและอนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่ง, เรือโดยสารต้องติดตั้งระบบแสดงตนอัตโนมัติตามระเบียบของกรมเจ้าท่า และติดตั้งวิทยุสื่อสาร VHF, เจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือต้องแจ้งเรือเข้า-ออกท่าเรือ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนปล่อยเรือออกจากท่าหรือ เมื่อเรือเข้าเทียบท่าเสร็จเรียบร้อย และให้ผู้ประกอบการท่าเรือหรือผู้บริหารท่าเรือสรุปรายงานข้อมูลเรือและข้อมูลผู้โดยสารเข้า-ออกทุกวันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ทั้งนี้ในส่วนของคนไทยจากต่างจังหวัด หรือคนต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยที่ประสงค์เดินทางเข้า จ.ภูเก็ตผ่านช่องทางทางน้ำ(ท่าเรือ) ทุกท่าใน จ.ภูเก็ต ให้ผู้เดินทางยกเว้นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด และต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิดแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 1 เข็ม มาแล้วอย่างน้อย 15 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน หรือได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจ รวมทั้งต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชัน "หมอชนะ" บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง ตลอดระยะเวลาที่อยู่ใน จ.ภูเก็ต
นอกจากนี้ไดคุมเข้มให้ผู้ประกอบการท่าเรือ นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ลูกเรือ พนักงานในเรือและผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามประกาศของกรมเจ้าท่าเรื่องมาตรการควบคุมควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งให้ใส่ใจในการดูแลเพื่อให้เกิดความประทับใจในการต้อนรับที่ดีของประเทศไทย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |