2 ม็อบไล่ "บิ๊กตู่" ชุมนุมแบบเหงาๆ มวลชนบางตา แต่ยังขู่ฮึ่ม! ต้องออกไป ทนายนกเขายัน 7 ปีมากพอแล้ว ก่อนเก็บลำโพงในช่วงเย็นหวั่นมือที่สามแทรก ส่วน "จตุพร" รับช่วงต่อถึงค่ำ  ประกาศลั่นเตรียมหานายกฯ คนใหม่ 
    เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564 กลุ่มมวลชน 2 กลุ่มคือ กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา และกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกครั้งหลังชุมนุมไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และมีผู้ร่วมชุมนุมบางตา 
    เวลา 14.00 น. กลุ่มนายนิติธรนำรถขยายเสียงปักหลักชุมนุมด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลเขตพระนคร บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดควบคุมฝูงชนได้นำแผงเหล็กมากั้นพร้อมลวดหนาม และรถฉีดน้ำแรงดันสูง รถควบคุมผู้ต้องหา จอดเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยนายนิติธรได้สักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
       นายนิติธรเผยว่า มาเตือนรัฐบาลนักการเมือง ข้าราชการทุกฝ่าย ว่าควรจะหยุดทุจริตได้แล้ว โดยกิจกรรมหลังจากนี้จะมีการปราศรัยพูดถึงปัญหาเรื่องการดำรงอยู่ของรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากปัจจุบันสถานะรัฐวิสาหกิจต่างๆ ตลอดเกือบ 7 ปีรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์  ใช้งบประมาณของรัฐวิสาหกิจมาใช้มากที่สุด โดยที่ไม่เห็นประโยชน์ของการใช้
     เขากล่าวว่า หากกลุ่มไทยไม่ทนของนายจตุพร พรหมพันธุ์ จะเคลื่อนมารวมกัน กลุ่มของตนก็จะหยุดกิจกรรมเพื่อให้นายจตุพรดำเนินกิจกรรมต่อ ยืนยันว่าตนและนายจตุพรไม่ได้มีการพูดคุยกันมาก่อน อย่างไรก็ตาม ตนจะจัดการชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างนี้ต่อไป โดยการชุมนุมของตนไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะมีคนมาชุมนุมแค่ 30 คน ไม่ได้มีการจัดตั้ง เพราะการชุมนุมมุ่งที่จะสื่อสารรัฐบาลเป็นหลัก และในสัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และตรวจสอบข้อมูลว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะหรือไม่ โดยเฉพาะคะแนนปัดเศษ เพราะดูแล้วไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
    ทั้งนี้ เรากังวลทุกครั้งว่าการจัดกิจกรรมจะมีกลุ่มมือที่สาม และการจัดกิจกรรมของเราเห็นกลุ่มที่มีการแต่งกายเฉพาะมีการส่งสัญญาณมือกัน มีลักษณะวัตถุคล้ายระเบิดเพลิง มีคนหยิบขวดต่างๆ ฉะนั้นตนเห็นว่าเกิดจากฝั่งของตำรวจ จึงต้องไปถามตำรวจว่าเรื่องแบบนี้เกิดได้อย่างไร ตนไม่อยากให้ประชาชนจะต้องมาบาดเจ็บ ฝากไปถึงทุกคน ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำ ขอให้เลิกคิดเรื่องดังกล่าว อย่าทำให้ประชาชนต้องฆ่ากันเอง และหากจะใช้ความรุนแรงกับตน ตนก็จะใช้ความรุนแรงเช่นเดียวกัน
    "เป้าหมายของกลุ่มผม ต้องการมาสื่อสารกับรัฐบาล ไม่ได้ต้องการทะเลาะกับตำรวจ จะมาชุมนุมอย่างสันติวิธี โดยยึดหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ย้ำเจตนารมณ์เดิม และเมื่อกลุ่มไทยไม่ทนของคุณจตุพรเคลื่อนขบวนมาถึง พวกผมจึงยุติการชุมนุมส่งต่อพื้นที่ให้กลุ่มของคุณจตุพร เพื่อป้องกันความสับสนและมือที่ 3" นายนิติธรกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปราศรัยที่สะพานชมัยม​รุ​เช​ฐ​เสร็จสิ้น นายนิติธรได้เตรียมเคลื่อนย้ายรถขยายเสียงไปยังแยกนางเลิ้งเพื่อปราศรัยต่อ โดยผู้ชุมนุมที่เข้าร่วมมีจำนวนประมาณ 30 คน
    ส่วนที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา กลุ่มเครือข่าย 30 องค์กรประชาธิปไตย  แถลงข่าวขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดยนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่าย 30 องค์กรประชาธิปไตย กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนร่วมลงชื่อเพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จำนวนกว่า 8 หมื่นรายชื่อ และจากนี้ไปขอให้ประชาชนมาลงชื่อเพิ่มให้มากที่สุด เพราะรัฐบาลนี้บริหารงานหลายด้านล้มเหลว และรวบอำนาจรวมศูนย์กลางไว้กับตัวเองหลายเรื่อง แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ จึงสมควรที่จะลาออกจากตำแหน่งทันที
    “เครือข่าย 30 องค์กรประชาธิปไตย จะสนับสนุนการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ร่วมกับขบวนการประชาชนทุกกลุ่มที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย กลุ่มประชาชนคนไทย หรือเครือข่ายราษฎร” นายเมธากล่าว
    นายเมธากล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ถ้าเราไม่หยุดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราจะจมปลักอยู่กับรัฐธรรมนูญนี้ และระบบเผด็จการแบบนี้ไปอีก 6 ปี และเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว. กำลังดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ เพื่อผลประโยชน์ในการจะสืบทอดอำนาจ และแก้ไขในส่วนที่ตนเองได้ประโยชน์เท่านั้น ดังนั้นทางกลุ่มจึงขอคัดค้าน
    นายเมธากล่าวด้วยว่า ทางเครือข่ายฯ ขอสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรื้อระบอบ คสช.ของกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้าและไอลอว์ และเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการจัดทำประชามติเพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนว่าสมควรจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเราจะมีการจัดตั้งสภาประชาชน เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เสนอประชามติคู่ขนานกับ ส.ส.ร.ต่อไป รวมถึงขอให้ ส.ว.ทบทวนบทบาทของตัวเองแล้วออกมาจากความขัดแย้ง
    นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากจะขอวิงวอนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม ขอให้หยุดการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ไว้ก่อน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในม็อบ อาจจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ยิ่งจะทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขอให้นึกถึงบุคลากรทางการแพทย์ และความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยทุกคนด้วย ตนเชื่อว่าแกนนำม็อบต่างๆ จะเข้าใจ 
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เคารพและคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ ไม่เคยห้ามการชุมนุมที่เป็นไปตามกฎหมาย แต่ท่านนายกฯ เป็นห่วงคนไทยทุกคนหากเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมาในม็อบ จึงอยากจะให้ทุกฝ่ายทบทวนการเคลื่อนไหวในช่วงนี้
    เวลา 16.00 น. ที่สะพานผ่านฟ้า ลีลาศ ถนนราชดำเนินกลาง กลุ่มไทยไม่ทนนำโดยนายจตุพร ตั้งขบวนเตรียมมุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ มีการปราศรัยโจมตี พล.อ.ประยุทธ์เป็นระยะๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมรั้วลวดหนามและยืนประจำการบริเวณแยกผ่านฟ้าฯ
    จากนั้นเวลา 18.10 น. ได้เริ่มเคลื่อนขบวนไปทางถนนนครสวรรค์ ผ่านแยกนางเลิ้ง เพื่อไปปักหลักที่บริเวณแยกพาณิชยการ แทนที่กลุ่มทนายนกเขา 
    นายจตุพรกล่าวว่า จะปราศรัยขับไล่พล.อ.ประยุทธ์อย่างเป็นระบบ 7 ปีที่ผ่านมานี้ พล.อ.ประยุทธ์สมควรที่จะเพียงพอแล้ว แล้วต้องเปลี่ยนให้คนใหม่เข้ามาบริหาร คนใหม่จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน และต้องมีเงื่อนไขสัญญาประชาชน ไม่ว่าเรื่องโควิด-19 เรื่องรัฐธรรมนูญ และเรื่องเศรษฐกิจ ยืนยันว่าภารกิจของคณะสามัคคีประชาชนเป็นไปเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีความสัมพันธ์กับใครหรือเพื่อประโยชน์ของใคร
    เขากล่าวว่า จะเลิกเร็ว คาดว่าในเวลา 21.00-22.00 น. แต่ถ้าเล่นตุกติกก็ต้องตัดสินใจกันใหม่ อย่างที่ตนบอกว่าการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์จะใช้ระยะเวลา 3 เดือน เพราะตนเชื่อว่าอย่างไรก็อยู่ไม่ได้
         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมไม่คึกคักมากนัก มวลชนค่อนข้างบางตามาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะที่มวลชนบางส่วนได้ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วด้วย.