‘ดร.เขียน’เฉ่งนักควํ่ารธน. ใครเป็นต้นเหตุรัฐประหาร


เพิ่มเพื่อน    

 "เขียน ธีระวิทย์" เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนักคว่ำรัฐธรรมนูญ คนที่แอนตี้ รธน.ฉบับนี้ เพราะเหตุมีที่มาจากคนทำรัฐประหาร ก็จงถามตัวเองด้วยว่าแล้วใครเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดการทำรัฐประหาร และถ้าคิดว่า ส.ว.ชุดนี้เป็นศัตรูของท่าน ก็ต้องสืบต้นตอให้เห็นว่าใครเป็นต้นเหตุให้คณะรัฐประหารแต่งตั้งพวกเขามา โปรดหยุดทำร้ายชาติของเราเสียทีเถิด 
     เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564  ศ.ดร.เขียน ธีระวิทย์ ศาสตราจารย์กิตติคุณ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนักเคลื่อนไหวคว่ำหรือแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 มีรายละเอียดว่า รัฐธรรมนูญมีที่มา ที่อยู่ และที่ไป เราเป็นมนุษย์ ต้องรู้ต้นสายปลายเหตุของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นแม่บทของกติกาการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม
    ผมเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสอ่านรัฐธรรมนูญที่เรามีมาทั้ง 19 ฉบับ จำได้ว่าไม่มีฉบับใดเลยที่ผมเห็นชอบด้วยทุกประเด็น
    ผมซื่อหรือเซ่อพอที่จะยอมรับว่ามีบางอย่างที่ผมว่าดีเมื่อ 50 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้ผมว่าไม่ดีเสียแล้ว และผมเชื่อว่าบางอย่างที่ตอนนี้ผมว่าไม่ดี อีก 10 ปีข้างหน้าถ้าผมยังไม่ตาย ผมอาจเห็นว่ามันดีก็ได้
    ผมสังเกตว่าเมื่อตอนมีอายุ 30-40 ผมเป็นนักอุดมคติ เทิดทูนทฤษฎีรัฐศาสตร์ที่คนดังของโลกว่าไว้อย่างไร ต่างประเทศมีการปกครองกันอย่างไร ตามที่อ่านและฟังจากที่คนอื่นว่าไว้ ผมอยากเห็นบ้านเมืองเราก็เป็นเช่นนั้น
    ถึงเวลาที่ผมมีอายุ 80 กว่า ผมเริ่มรู้จักคิดว่า พื้นเพของเรา ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมการเมืองของเราเป็นอย่างไร สิ่งแวดล้อมทางการเมืองของเราเป็นอย่างไร เราจำต้องนำมาพิจารณาประกอบ เพื่อตัดสินว่ารัฐธรรมนูญหรือกติกาทางการเมืองของเราที่คนอื่นทำไว้ให้เรานั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่
    รัฐธรรมนูญปี 2560 มีที่มาอย่างไร ทุกคนที่เป็นคนไทยต้องรู้ ถ้าไม่รู้ก็ไม่ควรมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ และทุกคนถ้าไม่เป็นคนสมองเสื่อมก็คงไม่ลืม ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่ครบ 10 ปีก็ลืมหมดแล้ว ก็น่าที่จะสละสิทธิ์ที่จะบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีหรือไม่ดี
    สำหรับคนที่แอนตี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะเหตุมีที่มาจากคนทำรัฐประหาร ก็จงถามตัวเองด้วยว่าแล้วใครเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดการทำรัฐประหาร และถ้าท่านคิดว่า ส.ว.ชุดนี้เป็นศัตรูของท่าน ก็ต้องสืบต้นตอให้เห็นว่าใครเป็นต้นเหตุให้คณะรัฐประหารแต่งตั้งพวกเขามา
    ผมเห็นคนเคลื่อนไหวกันทั้งในสภาผู้แทนฯ และนอกสภา เพื่อโค่นล้มรัฐธรรมนูญปี 2560 ทั้งฉบับ หรือแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตรา ทำกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียเวลาทำงานที่สร้างสรรค์ และสร้างภาวะมลพิษเข้าไปทำร้ายจิตใจของคนถึงบ้านทุกวี่วันแล้วรู้สึกสลดใจ
    รัฐธรรมนูญเป็นแก้วสารพัดนึกให้คนทุกคนมีหรือ? รัฐธรรมนูญที่ถูกใจทุกคนในชาติมีหรือ? ส.ส.ที่ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องคว่ำรัฐธรรมนูญหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีงานทำหรือไร?
    ใครหนอที่ทำให้กติกาการอยู่ร่วมกันอย่างสงบของคนในสังคมกลายเป็นตัวถ่วงความเจริญของเรา? ทุกวันนี้คนเราเอาเวลาไปโต้เถียงทำร้ายกันเพราะยึดติดกับรัฐธรรมนูญมากเกินไปหรือเปล่า
    รัฐธรรมนูญทุกฉบับไม่เคยทำร้ายสังคมของเราหรอก แต่คนที่ทำร้ายพวกเราคือคนที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญต่างหาก เอาเวลาไปจ้องจับผิดคนที่ละเมิดรัฐธรรมนูญและคนบังคับใช้กฎหมายดีกว่าไหม?
อย่าชวนคนทั้งชาติหลงผิด 
    ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ดีพอที่จะป้องกันการเกิดรัฐสภาหรือรัฐบาลเผด็จการ ทำให้ผู้มีอำนาจเป็นเผด็จการปล้นชาติโกงแผ่นดิน ก็จงอุทิศเวลาร่วมมือกันคอยจับผิดคนบังคับใช้กฎหมายดีกว่า
    ถ้าท่านหวังดีต่อชาติจริง โปรดหยุดทำร้ายชาติของเราเสียทีเถิด อย่าชวนคนทั้งชาติให้หลงผิด ชี้รัฐธรรมนูญว่าเป็นตัวมารร้าย แม้การทำเช่นนั้นท่านอาจจะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นก็ตาม ฟ้ารู้ดินรู้ว่ากระแสแอนตี้รัฐธรรมนูญนั้นมาจากคนที่มีมิจฉาทิฐิสร้างขึ้น มันเป็นพลังมืดถ่วงความเจริญของชาติอย่างมหันต์ทีเดียวเชียวนะ
    ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาในการแปรญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนของระบบเลือกตั้ง ที่ผ่านมาเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา หลังมีข้อสังเกตว่ามีการแก้ไขแค่ 2 มาตรา จากบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีถึง 8 มาตรา ว่า “ต้องถามเรื่องนี้จากผู้เสนอกฎหมาย สภามีหน้าที่ประชุมและลงมติเท่านั้น”
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับข้อสงสัยที่ว่าแม้ร่างที่เสนอให้แก้ระบบเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบผ่านการพิจารณาของสภาในวาระรับหลักการ แต่ในรัฐธรรมนูญปี 60 ยังมีมาตราที่เกี่ยวกับเลือกตั้งมากกว่า 2 มาตรา จะเป็นอุปสรรคในการแปรญัตติหรือจะต้องยื่นร่างเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ตนไม่คิดว่าจะเป็นอุปสรรค ประกอบสอบถามฝ่ายกฎหมายเบื้องต้นแล้ว เมื่อเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 ในส่วนของการแก้ไข หากจะต้องไปกระทบกับมาตราใดบ้าง ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการที่รับมา เพราะฉะนั้นจะระบุกี่มาตราก็ไม่เป็นไร มาตราที่เหลือก็จะต้องปรับให้สอดคล้องกับมาตราที่รับหลักการไป
    “เพราะฉะนั้นคิดว่าเบื้องต้น เท่าที่คุยกับฝ่ายกฎหมายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วก็ไม่อยากให้ตีตนไปก่อนไข้ด้วย เพราะว่าเราก็ต้องจับมือกันกับทุกฝ่ายที่จะช่วยเข็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความสำเร็จ แม้ว่ามันจะเป็นการเข็นครกก็ตาม แต่ว่าถ้าช่วยกันหลายๆ แรง ทั้งในส่วนของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา ผมก็คิดว่า ครกมันก็ขึ้นไปถึงภูเขาได้ ขึ้นไปบนภูเขาได้ เพราะฉะนั้นสำคัญก็คือขอให้ร่วมมือร่วมใจกัน” 
    นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนระบบจากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบนั้น เท่ากับเป็นการขยายสิทธิเสรีภาพในการเลือกตัวแทนของประชาชนเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาลต่อไปในอนาคต ถ้าเราได้รัฐบาลที่ดี รัฐบาลที่เข้าใจปัญหาประชาชน รัฐบาลที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนได้ รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ประชาชนก็จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง
    เมื่อถามถึงพรรคจะเสนอชื่อเป็นประธานกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ในส่วนของพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน  หรือนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ก็มีศักยภาพ สามารถที่จะเป็นประธาน กมธ.ได้ โดยเฉพาะนายบัญญัติ ศักยภาพล้นเหลือ เพียงแต่ทั้งหมดก็คงจะต้องไปหารือกันในที่ประชุม กมธ. ว่าจะมีความเห็นหรือมติว่าอย่างไร ตนคิดว่าการหารือนั้นก็คงจะต้องแสวงหาจุดร่วม จุดที่เห็นพ้อง เพราะการทำหน้าที่ในวาระที่ 2 ก็สำคัญ ถ้าหากว่าเห็นพ้องต้องกัน ขับเคลื่อนทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างดี โอกาสที่จะผ่านวาระ 3 มันก็มี ไม่ใช่ไม่มี อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ สำหรับประชาธิปัตย์ก็จะมุ่งมั่นตั้งใจเดินหน้าสนับสนุนจนวาระสุดท้าย 
ผิดหวังมติแก้ รธน.
    นายวัฒนา เมืองสุข ประธานฝ่ายกฎหมายและการเมือง พรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 13 ที่เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอแก้ไขระบบเลือกตั้งเป็นบัตรสองใบเพื่อให้มี ส.ส. เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน แต่เสนอขอแก้เพียงมาตรา 83 และ 91 ซึ่งไม่ครบถ้วน เพราะไม่ได้แก้มาตราอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น มาตรา 85 ที่บอกว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนได้คนละหนึ่งคะแนน แต่ที่ขอแก้คือบัตรสองใบ หรือมาตรา 86 (1) และ (4) ที่กำหนดให้แบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 350 เขต เป็นต้น ผลที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือร่างของพรรคประชาธิปัตย์ จะขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติมาตราอื่นๆ ของรัฐธรรมนูญ ครั้นจะมาขอแก้ไขมาตราอื่นๆ ที่เหลือคือ 84 ถึง 90 เพื่อนำไปเสริมก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้ญัตติที่ขอแก้ไขใหม่ขัดกับมาตรา 83 และ 91 ที่ยังมีผลบังคับใช้ ครั้นจะขอแก้มาตรา 83 และ 91 มาด้วย ก็จะไปซ้ำกับญัตติเดิมที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบไปแล้ว ผลทางการเมืองคือรัฐสภาจะรับผิดชอบกับประชาชนอย่างไรต่อการลงมติให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขกฎหมายที่สำคัญที่สุดผิดพลาดขัดต่อรัฐธรรมนูญ
    "สำหรับ ส.ส. ยังพอมีข้อแก้ตัว เพราะ ส.ส.โหวตรับทั้งร่างของพรรค พปชร.และเพื่อไทย ที่ขอแก้ไขระบบเลือกตั้งด้วย จึงไม่ทำให้เสียหายเพราะร่างของเพื่อไทยยังคงใช้ได้ แต่สำหรับ ส.ว.ที่ลงมติไม่รับทั้งร่างของ พปชร.และเพื่อไทย แต่กลับลงมติให้ร่างของ ปชป.ที่ขัดกับรัฐธรรมนูญไม่อาจแก้ตัวเป็นอย่างอื่นได้ นอกจาก ส.ว.ชุดนี้ไม่ได้มีดุลพินิจอะไรเป็นของตัวเอง แต่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อทำทุกอย่างตามใบสั่งของคนมีอำนาจแม้สิ่งที่ทำลงไปนั้นจะผิดหลักการหรือขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ตาม นั่นคือเหตุผลที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ส.ว.มีไว้ทำไม” นายวัฒนาระบุ
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีผลการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ร่าง โดยผ่านเพียงร่างเดียวว่า ถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังกับการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านเพียงร่างเดียว คือการแก้ไขระบบเลือกตั้งไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบของพรรคประชาธิปัตย์ นอกนั้นอีก 12 ร่างตกหมด แม้แต่เรื่องที่ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ส.ว.ก็ตีตกหมด เช่น เรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชน ระบบประกันสุขภาพ ร่างที่เสนอให้ปิดสวิตช์ ส.ว. ทั้งสองฉบับถูกปัดตกทั้งหมด ทั้งๆ ที่ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ส.มากที่สุดและเกินกึ่งหนึ่งของเสียงในรัฐสภา แต่กลับต้องตกไปเพราะเสียงของ ส.ว.ไม่ถึงเกณฑ์ 1 ใน 3 ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับคสช.กำหนด ก่อนหน้านี้มี ส.ว.บางส่วนออกมาโยนหินถามทางพร้อมตัดอำนาจโหวตนายกฯ แต่ผลการโหวตที่ออกมาก็สะท้อนชัดว่า ส.ว.ชุดนี้ถูกตั้งมาเพื่อการใด โหวตตามพิมพ์เขียวของกลุ่มคนที่ตั้งมาหรือไม่ ส.ว.ส่วนใหญ่ยังคงลุแก่อำนาจที่ตนเองได้มาโดยคณะรัฐประหาร ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย
     “ส.ว.พลาดโอกาสที่จะคืนอำนาจในการโหวตนายกฯ ให้กับผู้แทนของประชาชน เบียดบังเอาอำนาจประชาชนมาเป็นของ ส.ว.เหมือนกลัวตกงาน เลยต้องกอดอำนาจโหวตนายกฯ ไว้ให้นานที่สุด” นายอนุสรณ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"