โดนกันถ้วนหน้า 3 ม็อบ 24 มิถุนา ตำรวจเตรียมดำเนินคดี 4 ข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ความสะอาด ขณะที่ 6 แกนนำสามนิ้วจ่อกลับคุก "สนธิญา" ยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาให้วินิจฉัย ขัดต่อเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวหรือไม่
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงถึงการชุมนุมของ 3 กลุ่มคือ 1.หมู่บ้านทะลุฟ้าของนายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน กลุ่มคณะราษฎร นำโดยนายอานนท์ นำภา กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนาย พริษฐ์ ชิวารักษ์, กลุ่มที่ 2 กลุ่มไทยไม่ทน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์, กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มของประชาชนคนไทย ที่นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ว่า ทีมพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. จะได้ประชุมสรุปผลการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 3 กลุ่ม เบื้องต้นผู้ชุมนุมเป็นความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ, ความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ความสะอาด ที่ทาง นครบาลได้แจ้งเตือนไว้
ส่วนความผิดอื่นในการปราศรัย การจัดกิจกรรมหรือการดำเนินการ วันนี้ทีมพนักงานสอบสวนจะมีการแบ่งงานถอดเทปตรวจสอบภาพบันทึกทั้งหมดทั้ง 3 กลุ่มทุกๆ กิจกรรมว่าผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายอื่นหรือไม่ รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ว่ากลุ่มนั้นทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ หากมีข้อมูลปรากฏว่ากลุ่มที่กล่าวมามีการกระทำผิดเงื่อนไข เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของนครบาลจะรวบรวมส่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีส่งศาลพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมพื้นที่ต่างจังหวัดคู่ขนานกับกรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความเป็นห่วงใยต่อสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ท่านเห็นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล แต่สิทธิอยากให้คำนึงถึงคือการเข้าโหมดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่การฉีดวัคซีนป้องการการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ฐานะประชาชนคนไทยที่ช่วยกันขับเคลื่อนผ่านวิกฤติไปได้
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ก็บอกไปแล้วว่าระมัดระวังเรื่องโควิด-19 ให้มากๆ จึงไม่อยากให้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พปชร. รายงานต่อหัวหน้า พปชร.อย่างไรหรือไม่ กรณีไปรับหนังสือจากกลุ่มราษฎรที่บริเวณหน้ารัฐสภา และเกิดเหตุชุลมุนจนต้องวิ่งหนีกลับเข้ารัฐสภา พล.อ.ประวิตรตอบเพียงสั้นๆ ว่า ก็ไม่เห็นไป เป็นไร แล้วเขาจะมารายงานตนเพื่ออะไร
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือถึง นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีแกนนำม็อบคณะราษฎร ซึ่งเป็นจำเลยคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ที่อ.287/2564 ได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยกำหนดเงื่อนไขห้ามชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน, นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ขอนแก่น, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภา บริเวณแยกเกียกกาย ว่าการกระทำดังกล่าวของแกนนำคณะราษฎรทั้ง 6 คน ขัดต่อเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวหรือไม่
นายสนธิญากล่าวว่า มายื่นเรื่องให้ศาลอาญาวินิจฉัยผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ ที่ได้รับประกันตัวประมาณ 6 คน ที่ไปเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2564 ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนเคยมายื่นขอให้ถอนประกัน นายพริษฐ์ครั้งหนึ่งแล้ว และศาลได้เรียกแม่ของนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน กับอาจารย์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่ไปรับรองนายพริษฐ์มาไต่สวน เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 แล้วศาลมีคำสั่งกำชับให้ผู้ควบคุมดูแลนายพริษฐ์ ให้อยู่ในข้อบังคับหรือข้อกำหนดของศาลอาญา แต่จากการชุมนุมของม็อบคณะราษฎร เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งมีกฎหมายเฉพาะมาใช้บังคับ จะอ้างการชุมนุมตามสิทธิและเสรีภาพของรัฐธรรมนูญไม่ได้ ทั้งนี้ มีแกนนำม็อบคณะราษฎรจำนวน 3 รายคือ นายพริษฐ์ นายภาณุพงศ์ และ น.ส.ปนัสยา ที่เห็นชัดเจนว่าไปเป็นแกนนำในการชุมนุมดังกล่าวที่หน้ารัฐสภา
วันเดียวกันนี้ ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีที่ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ในฐานะโจทก์ กล่าวหานายพิสิฎฐ์กุล หรือกระเดื่อง ควรแถลง ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เม.ย.2564 จากกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ร่วมชุมนุมกับกลุ่มบุคคลบริเวณหน้าบันไดบริเวณทางขึ้น ด้านหน้าศาลอาญา ในลักษณะที่ก่อความวุ่นวาย อีกทั้งยังได้พูดตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ด้วย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหาตะโกนด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เป็นการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะกระทำในบริเวณศาล ในวันที่ศาลเปิดทำการ เวลาราชการอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาล หรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้ประชาชนที่ติดต่อราชการไม่ได้รับความสะดวก เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญา ที่อ้างว่าถ้อยคำที่ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีการกล่าวหาการชุมนุมทำให้เกิดการระเบิดของโรคไวรัสโควิด-19 ไม่ได้กล่าวพาดพิงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาและเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเห็นว่า ข้ออ้างดังกล่าวไม่อาจนำมาเป็นข้อแก้ตัวในการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอาญาได้ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล พิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตาม ป.วิแพ่ง มาตรา 30, 31 (1) 33 ประกอบ ป.วิอาญา มาตรา 15
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีพฤติการณ์หรือบทบาทสำคัญในการเตรียมวางแผนชุมนุมก่อความวุ่นวายไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ในลักษณะกดดันคุกคาม จงใจล่วงละเมิดกฎเกณฑ์สังคมและกฎหมายบ้านเมือง แต่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเพียงมาให้กำลังใจแนวร่วมที่ถูกดำเนินคดี นับว่ามีพฤติการณ์ไม่มากเท่าผู้อื่น ประกอบกับไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน มีอาชีพสุจริต ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงเห็นควรให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหากลับตัวเป็นพลเมืองดี ให้รอการกำหนดโทษ ไว้เป็นเวลา 2 ปี แต่เพื่อป้องปรามให้ตระหนักและระมัดระวังในการประพฤติตนจึงกำหนดเงื่อนไขคุมประพฤติ โดยห้ามประพฤติตนในทำนองที่จะเกิดความไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ภายในกำหนดเวลารอการกำหนดโทษ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะ โฆษก บช.น. กล่าวถึงคดีเผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า คดีดังกล่าวนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้แล้ว 3 คน ซึ่งยังเหลืออีก 1 คน คือ น.ส.ญาณิศา วรารักษพงศ์ หรือลูกไม้ สาวคนสนิทของนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ แอมมี่ the bottom blues ขณะนี้ความคืบหน้าของคดียังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี แต่จากทางการข่าว ทราบว่าผู้ต้องหาได้มีการหลบหนีโดยใช้ช่องทางธรรมชาติเส้นทางอื่นไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แล้วต่อไปยังประเทศอื่น ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ต.ปิยะยังกล่าวถึงคดีดังกล่าวนี้อีกว่า กำลังเฝ้าจับตามองอยู่ และในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ทางการข่าวมีข้อมูลในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ขอเปิดเผย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |