25 มิ.ย. 2564 จากกรณีที่ นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี  อดีตทหารเกณฑ์ที่จังหวัดลพบุรี ควงปืนบุกยิงโรงพยาบาลสนาม ที่รักษาผู้ป่วยโควิด 19 จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยเหตุเกิดภายใน สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 ที่ผ่านมา จนมีการไล่ล่าไปจนมุมที่ จ.ระนอง พร้อมอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก 

เวลา 12.30 น. พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยนันทวงศ์ รอง.ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พ.ต.ท.ชาติ แสงวงศ์ สว.สส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์  ได้ร่วมกันนำตัว นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายใน สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ทั้งหมด 6 จุด ได้แก่ 1 จุดประตูทางเข้า 2 จุดจอดรถที่หน้าบริเวณ ตึกอำนวยการ 3 จุดที่เดินเข้าไปยิงในโรงพยาบาลสนามจนมีผู้เสียชีวิต 4.จุดที่ยิงไล่ รปภ ที่บริเวณคอฟฟี่ช็อป 5 จุดที่ยิง รปภ. บริเวณตึกอำนวยการ และ 6 จุดที่ขับรถหลบหนีไป โดยมีเจ้าหน้าที่ สืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบไพรรี จังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 40 คนร่วมกันคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผน โดยหลังทำแผนเสร็จได้ควบคุมตัว ผู้ต้องหามาทำการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นบางอย่างที่ยังไม่ครอบคลุม

เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายกวิน แสงนิลกุล มาทำการสอบสวนเพิ่มเติมในห้องสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า3 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถห้องขังของ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำตัวไปส่งให้กับ สน.พหลโยธิน 

ทางด้าน พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเสร็จแล้วนั้น ทาง พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์  ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากเดิม 4 ข้อหาคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , 2.มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ , 3.พกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร , 4.ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร  โดยเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ 5.ทำให้เสียทรัพย์ และ 6.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากนั้นจะได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.พหลโยธิน เพื่อให้ดำเนินคดีของ สน.พหลโยธินก่อน เสร็จแล้ว ทางเราก็จะนำสำนวนส่งไป อายัติตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อส่งฟ้องศาล และดำเนินคดีตามกฎหมายของแต่ละโรงพักต่อไป