25 มิถุนายน 2564 ที่จังหวัดภูเก็ต นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมติดตามการเตรียมความพร้อมภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ว่า รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงที่ประชุมถึงการเตรียมความพร้อมระบบการแพทย์ และสาธารณสุข ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาล ซึ่งได้เตรียมการไว้อย่างพอเพียงทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับประชากรในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ฉีดเข็ม 1 ไปแล้วประมาณร้อยละ 70 เข็ม 2 ประมาณร้อยละ 50 และจะจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้ ตั้งเป้าฉีดครอบคลุมให้ได้ถึงร้อยละ 80-90 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และลดการติดเชื้อให้มากที่สุด โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะผู้ที่เดินเข้ามาทางสายการบินเท่านั้น และทุกคนทั้งชาวไทยและต่างชาติจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อน
นอกจากนี้ ได้มีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค โดยสุ่มตรวจประชาชนเพื่อค้นหาเชื้อในสถานที่ต่าง ๆ ทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจและวางระบบการป้องกันโรคได้รวดเร็วตามสถานการณ์
“สิ่งที่กังวลคือกลุ่มแรงงานที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ที่ไม่ได้เดินทางเข้ามายังช่องทางที่ภาครัฐจัดไว้ ต้องขอความร่วมมือภาคประชาชน ผู้ประกอบการ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ให้เข้มงวดเฝ้าระวังกลุ่มแรงงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากเกิดการแพร่ระบาดการดำเนินงานภูเก็ต แซนด์บอกซ์ อาจจะต้องเริ่มต้นใหม่ ขอให้คนไทยทุกคน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องอย่าเห็นแก่ประโยชน์เพียงเล็กน้อย การนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาอาจเกิดการแพร่เชื้อได้ ซึ่งรัฐบาลอยากให้ภูเก็ตเป็นต้นแบบในการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้กับจังหวัดอื่น ๆ ต่อไปได้”
ทั้งนี้มาตรการด้านสาธารณสุขในการเปิดพื้นที่นำร่อง สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต มีการกำหนดหลักเกณฑ์รับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก่อนเดินทางมาถึง ตามที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำหนด กรณีที่มาจากประเทศอื่นต้องอยู่ในประเทศที่กำหนดอย่างน้อย 21 วัน ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดและมีเอกสารรับรอง กรณีเด็กที่มากับผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทางพร้อมกันได้ กรณีเคยติดเชื้อต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดทั้ง 2 เข็มมาแล้วอย่างน้อย 14 วันหรือมีผลการตรวจโควิด 19 ภายใน 72 ชั่วโมง
เมื่อเดินทางถึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรของ ศบค. โดยรับการตรวจครั้งแรกที่สนามบินมีรถรับส่งจากสนามบินไปที่พักและเข้าพักโรงแรมที่ผ่าน SHA+ อย่างน้อย 14 วันและตรวจหาเชื้อ อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 6 - 7 และวันที่ 12-13 หรือตามข้อกำหนดของ ศบค.ขณะนั้น และต้องปฏิบัติตามมาตรการ อย่างเคร่งครัด และก่อนเดินทางออกไปจังหวัดอื่นๆ ต้องแสดงหลักฐานยืนยันการเดินทางและพำนักในสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ ในจังหวัดภูเก็ตตามระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และมีผลตรวจตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตกำหนด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |