25 มิ.ย.64 - นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก 25 มิถุนายน 2564 มีรายละเอียดดังนี้
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 386,294 คน รวมแล้วตอนนี้ 180,739,561 คน ตายเพิ่มอีก 7,592 คน ยอดตายรวม 3,915,122 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังเป็นเช่นเดิม คือ บราซิล อินเดีย โคลอมเบีย อาร์เจนติน่า และอินโดนีเซีย
อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 12,125 คน รวม 34,463,719 คน ตายเพิ่ม 308 คน ยอดเสียชีวิตรวม 618,616 คน อัตราตาย 1.8%
อินเดีย ติดเพิ่ม 51,248 คน รวม 30,133,417 คน ตายเพิ่ม 965 คน ยอดเสียชีวิตรวม 393,338 คน อัตราตาย 1.3%
บราซิล ติดเพิ่ม 72,705 คน รวม 18,243,483 คน ตายเพิ่มถึง 1,901 คน ยอดเสียชีวิตรวม 509,141 คน อัตราตาย 2.8%
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 2,007 คน ยอดรวม 5,764,329 คน ตายเพิ่ม 44 คน ยอดเสียชีวิตรวม 110,906 คน อัตราตาย 1.9%
ตุรกี ติดเพิ่ม 5,703 คน รวม 5,393,248 คน ตายเพิ่ม 59 คน ยอดเสียชีวิตรวม 49,417 คน อัตราตาย 0.9%
อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อาร์เจนติน่า อิตาลี และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลักหมื่น
รัสเซียตอนนี้กำลังเจอระลอกสาม จำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดครั้งนี้สูงกว่าระลอกแรก 2 เท่า เมื่อวานขึ้นมาถึง 20,182 คนแล้ว มีโอกาสแรงพอๆ กับระลอกสอง ตายวันละกว่าห้าร้อยคน
สหราชอาณาจักรนั้นยังมีจำนวนการติดเชื้อต่อวันเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มถึง 16,703 คน
ส่วนโคลอมเบียอั้นไม่อยู่ ทะลุสามหมื่นต่อวันไปแล้ว 32,997 คน เป็นนิวไฮตั้งแต่มีการระบาดมาในประเทศ ตายเกือบเจ็ดร้อยในวันเดียว
แถบอเมริกาใต้ แอฟริกา เอเชีย อย่างชิลี โบลิเวีย แอฟริกาใต้ แซมเบีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกา บังคลาเทศ เนปาล ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพัน
อินโดนีเซียเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดเพิ่มสูงถึง 20,574 คน เป็นนิวไฮเช่นกัน สูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่ม ส่วนใหญ่อยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน และมองโกเลียที่ยังหลักพัน
แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ส่วนอิหร่านตอนนี้ยังเกินหมื่น
เกาหลีใต้ เวียดนาม ไต้หวัน และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ลาว และฮ่องกง ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
...ภาพรวมทั่วโลกนั้นชัดเจนมาก ในแต่ละวันจำนวนการติดเชื้อใหม่ และจำนวนการเสียชีวิตจะมาจากทวีปเอเชีย อเมริกาใต้ และแอฟริกา ถึง 80% และเป็นเช่นนี้มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ทวีปเอเชียและอเมริกาใต้จะมีจำนวนติดเชื้อใหม่และจำนวนการเสียชีวิตในสัดส่วนพอๆ กัน และรวมแล้วเป็นสัดส่วนสูงถึง 72% ของยอดรวมทั่วโลก
คงเป็นข้อมูลที่ยืนยันความรุนแรงของการระบาดที่ไทยเราเผชิญอยู่ได้เป็นอย่างดี
กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างแถบอเมริกาเหนือและยุโรป กำลังอยู่ในช่วงค่อยๆ หาทางฟื้นฟูสังคมและเศรษฐกิจ เพราะใช้แท็คติกเพลย์เซฟจากประสบการณ์ที่เจอการระบาดหนักหน่วงและยาวนาน จึงไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดระบาดซ้ำขึ้นมาง่ายๆ อีก
"ชุดความคิด"ในการจัดการการระบาด มักเป็นไปตามขั้นตอน คือ
หนึ่ง คุมการระบาดด้วยมาตรการเข้มงวดเคร่งครัด กดการระบาดให้ได้ และกดแล้วต้องไม่รีบร้อนปล่อยแบบทะเล่อทะล่า
สอง เร่งจัดหาอาวุธป้องกันคือ วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย ประเภททองแท้ ไม่ใช่ทองชุบ นำมาใช้ โดยอิงหลักฐานวิชาการแพทย์ที่ได้มาตรฐานถูกต้อง ไม่เอาประชาชนเป็นหนูทดลองมาไล่เจาะเลือดหลังฉีด เพราะวิกฤติการระบาดในสังคม จำเป็นต้องใช้ของที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีจริง นอกจากนี้หากระหว่างการใช้ มีปัญหาด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะมีจำนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้อย แต่หากรุนแรง เค้าก็จะไม่ลังเลใจเลยที่จะประกาศความจริงให้แก่สาธารณะได้รับทราบ และชะลอการใช้ไปจนกว่าจะมีหลักฐานยืนยันว่าปลอดภัยจริง ยิ่งไปกว่านั้นหากมีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันว่ามีความเสี่ยงต่อประชาชน ก็จะไม่ลังเลใจในการประกาศยุติการใช้ และหาตัวที่ดีกว่ามาทดแทน เพื่อปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนของตน
สาม เตรียมระบบบริการตรวจคัดกรองโรคที่มีศักยภาพในการทำจำนวนมาก กระจายจุดให้บริการอย่างครอบคลุม ให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้โดยไม่ติดเงื่อนไข และฟรี เพราะมีแนวคิดที่จะกระตุ้นให้คนตรวจยามที่สงสัย ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็ตาม ยิ่งตรวจได้ง่ายได้เร็วก็ยิ่งทำให้ป้องกันและควบคุมการระบาดซ้ำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
สี่ ไม่สร้างนโยบายรับความเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำ เช่น การเปิดประเทศรับการค้าการท่องเที่ยว จนกว่าจะแน่ใจว่าสามข้อแรกนั้นมีความพร้อมเรียบร้อยแล้ว
หากไทยเราใช้"ชุดความคิด"ดังกล่าวตามที่หลายประเทศได้ทำมาก่อน โอกาสสำเร็จย่อมมีสูง
แต่หากมองว่าติดวันละหลายพันมาหลายเดือนอย่างต่อเนื่องเป็นความสำเร็จในการควบคุมโรค ระบบการตรวจคัดกรองก็เข้าถึงได้ยาก มีศักยภาพการตรวจต่อวันจำกัดจำเขี่ย อาวุธป้องกันมีปัญหาทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ รวมถึงประกาศเปิดรับการค้าการท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งๆ ที่การระบาดยังรุนแรงและกระจายไปทั่ว...ก็คงจะเป็น"ชุดความคิด"ที่ผิดเพี้ยน ไม่สอดคล้องกับหลักความรู้ทางการแพทย์และสถานการณ์การระบาดจริง ขัดต่อหลักเหตุและผล และสะท้อนถึงการให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นลำดับรองจากเม็ดเงิน
เมื่อครบชุดเช่นนั้น ประชาชนในสังคมคงต้องตระหนักถึงความเสี่ยงต่อหายนะการระบาดซ้ำที่หนักหน่วงได้ในเวลาไม่นาน เพราะคุมไม่ได้ ป้องกันไม่ดี ระบบสนับสนุนไม่เข้มแข็ง
จึงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน"ชุดความคิด" และ"ชุดบริหารจัดการ"ด้านสุขภาพท่องเที่ยวเดินทาง
เป็นกำลังใจให้ประชาชนอย่างพวกเราทุกคนมีกำลังใจในการป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด และปลอดภัยจากโรคระบาดไปด้วยกัน
ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า...สำคัญมากครับ
ด้วยรักและห่วงใย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |