ม็อบบุกทำเนียบนัดใหม่26มิ.ย.


เพิ่มเพื่อน    

ม็อบ 3 กลุ่มมาตามนัด 24 มิ.ย. "ราษฎร" ขนเครือข่าย 3 นิ้วไปรัฐสภา ยื่นหนังหนังสือชงแก้ รธน.ฉบับ ปชช. พร้อมตั้งโต๊ะล่า 5 หมื่นรายชื่อ "สิระ" ร่วมตัวแทนฝ่ายค้านรับหนังสือเจอปาขวดน้ำเพ่นกระเจิง "ทนายนกเขา" นำกลุ่มประชาชนคนไทยบุกทำเนียบฯ เจอ ตร.สกัดระทึกตลอดทาง "จตุพร" พากลุ่มคนไทยไม่ทนขนาบข้างไล่ประยุทธ์ ยันแค่เริ่มต้น ลั่นเป้าหมายนี้ไม่สำเร็จ ข้อเรียกร้องอื่นก็ไม่มีทาง ก่อนสลายตัว นัดใหม่ 26 มิ.ย.ที่เดิม ส่วน "บิ๊กตู่" หลบฉากออกจากทำเนียบฯ ตั้งแต่บ่าย  
    ที่อนุสาวรีย์​ประ​ชาธิปไตย​ วันที่ 24 มิถุนายน กลุ่มราษฎร พร้อมด้วยกลุ่มทะลุฟ้า, ศิลปะปลดแอก, เฟมินิสต์ปลดแอก, เดมโฮป, นักเรียนเลว, ราษฎรเอ้ย, เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และประชาชนประมาณ 250 คน รวมตัวทำกิจกรรม “ยืนยันดันเพดาน” เพื่อรำลึกถึงภารกิจเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร 2475 และร่วมแสดงพลังต่อต้านรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พระยาพหลพลพยุหเสนา นำโดยนายอานนท์ นำภา นายพรหมศร วีระธรรมะจารี หรือ ฟ้า นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ร่วมทำกิจกรรม อ่านประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ 1 เมื่อ 89 ปีก่อน ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
    โดยตั้งแต่เวลา 04.00 น. มีการผูกป้ายผ้า ที่เขียนข้อความ อาทิ “89 ปีอภิวัตน์สยาม”, “วันที่ 24 มิถุนา วันที่ทุกคนอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ”, “ราษฎรทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเสมอกัน”, “ประเทศนี้เป็นของราษฎร” ก่อนติดตั้งหมุดคณะราษฎรขนาดใหญ่ ระบุข้อความ “ณ ที่นี้ คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญเพื่อความเจริญของชาติ” และ 2 ป้ายแบ็กดร็อปขนาดใหญ่ต่อต้านรัฐธรรมนูญ 2560 เรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ใจความว่า “ผนึกกำลังทั้งแผ่นดิน ต่อต้านรัฐธรรมนูญเผด็จการ ปิดสวิตช์ ส.ว. รัฐธรรมนูญประชาชน”
    จากนั้นเวลา 05.30 น. ทั้งหมดร่วมกันจุดเทียน ที่เรียงเป็นข้อความ “89 ปี 2475” และต่อมาเวลา 05.43 น. มีการทำกิจกรรมเพอร์ฟอร์มานซ์อาร์ต โดยตัวแทน 3 คน จาก “กลุ่มนักเรียนเลว” ยืนเรียงแถว พร้อมนำผ้าปิดตา ระบุข้อความ อาทิ “ชิงสุกก่อนห่าม”, “เรายังไม่พร้อม” 
    นายธนพัฒน์ กาเป็ง หรือ ปูน ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว กล่าวว่า รัฐบาลที่พยายามปิดหูปิดตาประชาชน ปกปิดประวัติศาสตร์คณะราษฎร ให้ศึกษาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเขา ไม่ใช่ต่อเรา เราจะเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ คือประชาธิปไตย และเราจะไม่ให้ประวัติศาสตร์ลบเลือนไป 
    เวลา 05.50 น. นายอานนท์ นายพรหมศร และ น.ส.ปนัดดา สิริมาสกุล หรือ ‘ต๋ง ทะลุฟ้า’ อ่านประกาศคณะราษฎร ร่วมกับประชาชน
    กระทั่งเวลา 06.03 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ เข้าอ่านประกาศกรุงเทพมหานคร และขอให้ยุติการจัดกิจกรรมในทันที ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ ขับไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงวันชาติ 24 มิถุนา โดยมีนายอรรถพล หรือ ครูใหญ่ เป็นต้นเสียง และมีการจุดเทียนเค้กวันเกิดลายหมุดคณะราษฎร ระบุข้อความ “HBD คณะราษฎร” พร้อมเปล่งเสียง “ประยุทธ์ออกไป ระบอบประยุทธ์ออกไป รัฐธรรมนูญประยุทธ์ออกไป ส.ว. 250 ออกไป” 
    ต่อมาเวลา 10.37 น. กลุ่มราษฎรและแนวร่วม นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และนายภานุพงศ์ จาดนอก พร้อมผู้ชุมนุมจำนวนกว่า 200 กว่าคน เริ่มเดินขบวนจากอนุสาวรีย์​ประ​ชาธิปไตยไปยังรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือต่อพรรคการเมืองแสดงเจตนารมณ์แก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ใช้เวลาเดินราว 3 ชั่วโมง ระหว่างการเดินทางจะมีการพักเป็นระยะจุดละ 15 นาที 
    ทั้งนี้ ทางกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวนหนึ่งได้นำกำลังปิดกั้นการจราจรถนนราชดำเนินนอก มุ่งหน้าไปลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันใช้เส้นทางเดิม คือ มุ่งหน้าไปที่ถนนหลานหลวง ไม่ได้มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ราษฎรไปสภาฯ ยื่นแก้ รธน.
    ที่รัฐสภา เวลา 13.36 น. กลุ่มราษฎรได้เดินทางมาถึงหน้าอาคารรัฐสภา แยกเกียกกาย เพื่อยื่นจดหมายต่อพรรคการเมือง เสนอให้มีการร่างแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เดินทางมาก่อนล่วงหน้าได้มีการตั้งเวทีกิจกรรมปราศรัย และเล่นดนตรีขนาดย่อม รวมถึงตั้งเต็นท์เปิดให้ประชาชนลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญบริเวณฟุตบาท​หน้าอาคารรัฐสภา โดยมีกองร้อยควบคุมฝูงชนรักษาความปลอดภัยบริเวณดังกล่าว 
    จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ซึ่งได้รับการประสานจากผู้ชุมนุมได้ส่งนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นายรังสิมันต์ โรม นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนฝ่ายค้าน ขณะที่ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลมีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพ พรรคพลังประชารัฐ มาร่วมรับหนังสือจากแกนนำผู้ชุมนุมเพียงคนเดียว 
    นายพริษฐ์ได้มอบหมุดคณะราษฎรจำลอง พร้อมด้วยสำเนาธรรมนูญชั่วคราว 2475 แก่ตัวแทนวิปฝ่ายค้าน จากนั้น น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องการเคลื่อนไหวครั้งนี้
    นพ.ชลน่านกล่าวหลังรับหนังสือว่า ขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านพยายามแก้ไขมาโดยตลอด แต่ครั้งแรกก็ต้องถูกคว่ำไป พรรคฝ่ายค้านก็มีการยื่นเข้ามาซ้ำอีก ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างใหม่นั้น ก็ต้องยอมรับว่ามีข้อจำกัด เพราะบางฝ่ายที่ไม่ยอมให้แตะหมวด 1-2 ส่วนการแก้ไขมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ขึ้นไปรับหนังสือร้องเรียน ซึ่งนายสิระได้ขึ้นไปบนเวทีด้วย ผู้ชุมนุมได้ปาขวดน้ำเปล่าขึ้นไปบนเวที พร้อมตะโกนด่าทอด้วยคำหยาบคาย จากนั้นผู้ติดตามประจำตัวนายสิระได้พาวิ่งหลบเข้าไปในสภาฯ ฝั่งถนนทหาร 
    อย่างไรก็ตาม ภายหลังยื่นหนังสือเสร็จ ผู้ชุมนุมก็จะเคลื่อนย้ายขบวนไปชุมนุมที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน 
    เวลา 16.30 น. บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรประมาณ 400 คน เริ่มการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อจัดกิจกรรมเรียกร้อง 3 ข้อคือ รัฐธรรมนูญต้องมาจากประชาชน, แก้ระบบของ ส.ว. และรัฐธรรมนูญต้องแก้ได้ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะบางมาตรา รวมทั้งมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำ Re​-​Solution และเลขาธิการคณะก้าวหน้า​ มาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เข้าปฏิบัติภารกิจภายในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 08.45 น. จนเวลา 11.40 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ หันมาโบกมือให้สื่อมวลชน ทั้งนี้ คณะทำงานนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่านายกรัฐมนตรีมีภารกิจข้างนอก และยังไม่แน่ชัดว่าจะเดินทางกลับมายังทำเนียบรัฐบาลอีกหรือไม่
    ส่วนบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล มีการนำตู้คอนเทนเนอร์ที่สแตนด์บายไว้นำลงมาปิดการจราจรบริเวณถนนพระราม 5 ข้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ใกล้กับแยกพาณิชย์การ ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าในพื้นที่ 
"นกเขา-จตุพร" บุกทำเนียบฯ
    โดยเวลา 14.39 น. ที่แยกอุรุพงษ์ ถนนพระราม 6 นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย ได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีรถบรรทุก 6 ล้อขนาดใหญ่ขนเครื่องขยายเสียงพร้อมมวลชนประมาณ 50 คน เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ออกจากตำแหน่ง กระทั่งขบวนรถมาถึงบริเวณแยกยมราช พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.นางเลิ้ง พร้อมกำลังตำรวจได้ตั้งแผงเหล็กกั้นไม่ให้ขบวนผ่าน พร้อมแจ้งว่า ขณะนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ห้ามให้มีการจัดการชุมนุมและให้ยุติการชุมนุม แต่นายนิติธรยืนยันจะเดินทางผ่านไป และ ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้แจ้งว่าต้องรับผิดชอบในการกระทำก่อนที่จะยอมให้เคลื่อนขบวนต่อไป
    ต่อมาเมื่อขบวนมาถึงบริเวณแยกนางเลิ้ง ได้มีตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวน 2 กองร้อย ได้ตั้งแผงเหล็กกั้นไม่ยอมให้ขบวนของกลุ่มประชาชนคนไทยผ่าน ก่อนที่นายนิติธรจะเข้าเจรจาอีกครั้งเพื่อขอให้เปิดทางเพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาลตามที่กำหนด 
    ภายหลังจากรอคำตอบประมาณ 1 ชม. ยังไม่มีคำตอบ เวลา 16.00 น. นายนิติธรได้ขึ้นรถขยายเสียง ประกาศว่าจะนำขบวนรถเดินหน้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลบออกไป ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง จนมีการเจรจาอีกรอบ ทำให้ตำรวจยอมให้มีการเคลื่อนขบวนและเปิดการจราจร 1 ช่อง แต่การเคลื่อนขบวนมีการตั้งด่านสกัด จำนวน 3 ด่าน โดยด่านที่ 3 ก่อนถึงแยกพาณิชยการ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่กระบองและแผงเหล็กกั้นเสริมโซ่และลวดสลิงสกัดอยู่ สร้างความไม่พอใจให้กับมวลชน พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่มาเจรจา
    นายนิติธรยืนยันจะไปให้ถึงทำเนียบฯ และจะปักหลักค้างคืนจนกว่าจะได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ทราบว่านายกฯ ไปจังหวัดภูเก็ต เราก็จะรอต่อไปรอจนกว่าจะได้มีการพูดคุย
    กระทั่งเวลา 17.00 น. สถานการณ์เริ่มตึงเครียดเมื่อนายนิติธรขึ้นประกาศบนรถขยายเสียงให้ขับรถยนต์ฝ่าแนวกั้นของตำรวจหลังไม่ยอมให้เข้าพื้นที่ จนเกิดการเผชิญหน้ากระชั้นชิด โดยที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้เตรียมอาวุธปืนเล็งกระสุนยางไปที่นายนิติธรที่อยู่บนรถเครื่องขยายเสียง รวมทั้งมีตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ามาเสริมอีก 3 กองร้อย พร้อมรถฉีดน้ำแรงดันสูงหรือจีโน่ เข้าประจำการบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ
    เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กและลวดหนามหีบเพลงมาติดตั้งเสริมแนวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชั้น หลังกลุ่มประชาชนคนไทยยืนยันจะเข้าปักหลักใกล้บริเวณทำเนียบฯ และยังคงประกาศให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือผู้รับผิดชอบออกเจรจา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้น้ำจาก ภ.จว.สมุทรสาคร และ ภ.จว.ปทุมธานี 2 คัน มาจอดประจันหน้ากับรถเวทีของกลุ่มประชาชนคนไทย เพื่อไม่ให้มวลชนสามารถเคลื่อนขบวนไปได้ ขณะที่มวลชนมีอยู่ประมาณ 30 คน
    อีกด้านบริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ เวลา 16.30 น. มีการชุมนุมของกลุ่มคนไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ มีการใช้รถติดตั้งเครื่องขยายเสียงเป็นเวทีปราศรัย และได้มีการปิดช่องทางจราจรบริเวณแยกผ่านฟ้าฯ จากเส้นทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีแกนนำทยอยเข้าพื้นที่ เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายนันทพงษ์ ปานมาศ แกนนำเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นายณัทพัช อัคฮาด ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากเหตุการณ์พฤษภา 2553 นายไทกร พลสุวรรณ์ เลขาธิการแนวร่วมอีสานกู้ชาติ นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา '35 
    ต่อมาเวลา 18.00 น. นายจตุพรประกาศเคลื่อนขบวนการชุมนุมไปทางถนนนครสวรรค์ ผ่านหน้าตลาดนางเลิ้ง โดยได้สื่อสารไปยังตำรวจ และว่าการเคลื่อนขบวนไปปักหลักปราศรัยที่หน้าทำเนียบรัฐบาลวันนี้ เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น โหมโรง อุ่นเครื่อง แต่จะไม่พักค้างคืน และหากใช้กำลังหรือขัดขวางเราก็จะไม่กลับและจะมีการชุมนุมยืดเยื้อ ซึ่งเป้าหมายแรกคือการไล่ประยุทธ์ก่อนไปสู่ข้อเรียกร้องอื่น หากเป้าหมายนี้ไม่สำเร็จ ข้อเรียกร้องอื่นใดก็ไม่มีทางสำเร็จ
    "ในยามที่บ้านเมืองเกิดโควิด-19 ประชาชนเดือดร้อนแล้ว แต่ที่ร้ายกว่าคือ พล.อ.ประยุทธ์คือความอยุติธรรมทั้งปวง ไร้ประสิทธิภาพในการจัดการโควิด-19 ดังนั้นการลงถนนจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย รู้ว่าจะถูกดำเนินคดี และก็มีการวางแผนจะคุมขัง แต่เห็นว่าถ้าปล่อย พล.อ.ประยุทธ์ไปอย่างนี้ เพราะกลัวติดคุกหรือติดโควิดคนไทยเกิดหายนะ และวันนี้คิดถูกแล้วที่ต้องจัดการระบอบประยุทธ์ให้สิ้นซาก" นายจตุพรกล่าว 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเคลื่อนขบวน นายจตุพรได้เดินเท้านำขบวนมวลชน โดยตำรวจเปิดทางให้เดินผ่านเส้นทางที่ได้เจรจากันไว้  
    เวลา 19.40 น. ระหว่างที่แกนนำขึ้นอภิปรายบนรถปราศรัยขยายเสียงเคลื่อนที่ นายจตุพรพร้อมแกนนำคนอื่นได้ขึ้นมาสมทบและกล่าวกับมวลชนว่า มีสายข่าวรายงานว่ารัฐบาลกำลังใช้วิชามารเล่นสกปรก สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ต้องการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ในวันนี้เรามากันจำนวนมาก แต่ก็ไม่มากพอที่จะจัดการตามแผนฟ้าทะลายโจร จริงอยู่ว่าการต่อสู้ต้องการชัยชนะเพื่อการเปลี่ยนแปลง เพราะมองเห็นว่าประยุทธ์เป็นภัยคุกคามที่แท้จริงของประเทศชาติ แต่เมื่อมีการเล่นเล่ห์เพทุบาย เราต้องใช้สมองมากกว่าความรู้สึก ไม่ใช้ความสะใจ เราไม่ได้ชนะวันที่ 24 มิ.ย. แต่อีก 3 เดือน พล.อ.ประยุทธ์ต้องไปแน่ ในวันเสาร์ที่ 26 มิ.ย. เวลา 16.00 น. เราจะมาพบกันใหม่ที่เดิม โดยเราต้องมาให้มากกว่าเดิม มากพอที่จะล้มประยุทธ์ พร้อมกับเตรียมการในการป้องกันและจัดการกับพวกมือที่ 3 และเท้าที่ 4    
    จากนั้นแกนนำได้ประกาศยุติชุมนุม ให้มวลชนทยอยเดินทางกลับ โดยก่อนหน้าที่จะประกาศยุติการชุมนุม เกิดเหตุชุลมุนระหว่างกลุ่มของประชาชนคนไทย ในการขึงเชือกกั้นพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมจนเกิดความวุ่นวาย 
    ขณะเดียวกัน นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย ได้ประกาศถอยรถเวทีไปอยู่ที่แยกนางเลิ้ง โดยอ้างว่ามีมือที่สามพยายามที่จะเข้ามาก่อเหตุ ไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย พร้อมประกาศเดินหน้ายื่นยุบพรรคพลังประชารัฐ จากนั้นเวลา 20.00 น. ได้ประกาศยุติการชุมนุม โดยจะกลับมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ อีกครั้งวันเสาร์ที่ 26 มิ.ย. เวลา 15.00 น.
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้ทั้ง 2 กลุ่มจะประกาศยุติการชุมนุม กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังรักษาพื้นที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์. 


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"