คุรุสภาประกาศนโยบาย 'คุรุสภา ONE' ให้บริการและทำงานรูปแบบ'ดิจิทัล'เต็มตัว  


เพิ่มเพื่อน    

 

 

24มิ.ย.64-นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา (เลขาฯ คุรุสภา) กล่าวว่า ขณะนี้คุรุสภาได้จัดทำระบบสารสนเทศเพื่อให้บริการผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (Teachers and Education Personnel Information System : TEPIS) พร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนเปิดให้บริการแอปพลิเคชัน "คุรุ On Mobile" อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะรวมทุกบริการของคุรุสภาไว้ในแอปพลิเคชันนี้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์งานของคุรุสภาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง เช่น ผ่านทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก LINE Official IG Twitter  เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ และเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 คุรุสภา ก็สามารถปรับตัวทำงานผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างราบรื่น ถือเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพราะทำให้เจ้าหน้าที่และผู้รับบริการได้ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง และสามารถใช้งานและขอรับบริการผ่านระบบออนไลน์ของคุรุสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบ TEPIS จะให้บริการทุกงานของคุรุสภา ตั้งแต่งานมาตรฐานวิชาชีพ  งานใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ งานพัฒนาวิชาชีพ งานยกย่องวิชาชีพ และงานจรรยาบรรณวิชาชีพ

นายดิศกุล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คุรุสภายังมีการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาระหว่างหน่วยงานผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ (Linkage Center) เช่น การขอใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียน ประวัติราษฎรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน เป็นต้น โดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในการตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและเพื่อเป็นปัจจุบัน รวมถึงการการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีผ่านบริการ Web Service กับหน่วยงานในสังกัด ศธ. ให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ 
เลขาธิการคุรุสภาฯ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาคุรุสภาได้ดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้เป็นไปตามแผนปฏิรูปประเทศ โดยกำหนดให้กำลังคนภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสม และมีสมรรถนะสูง พร้อมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ    ปัจจุบันคุรุสภามีเจ้าหน้าที่ประจำที่ส่วนกลาง 188 คน และเจ้าหน้าที่คุรุสภา ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด 166 คน โดยดูแลครูและบุคลากรทางการศึกษามากกว่า 1 ล้านคน     ซึ่งคณะกรรมการคุรุสภาที่มี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธาน ได้รับทราบและให้คุรุสภาดำเนินการวางแผนในการบริหารจัดการกำลังคน พัฒนาการทำงาน และใช้คนที่มีอยู่ทำงานให้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างสมรรถนะก่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด โดยทำงานออนไลน์ร่วมกันผ่านระบบ TEPIS ระบบ KSP e-Service และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (MIS) ซึ่งจะทำให้การทำงานทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยระบบเครือข่ายอินทราเน็ตของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (VPN.)

และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา คุรุสภาได้ปรับลดเวลาและวันทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยตามความเหมาะสมและส่งเสริมให้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคุรุสภาในการปฏิบัติงานทุกชนิด พบว่า มีผลเป็นที่น่าพอใจ และผมกำลังผลักดันให้มีการติดอาวุธให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคนภายใต้นโยบาย ‘คุรุสภา ONE’ หรือ One Network for Everyone  เพื่อให้สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา
" ผมเชื่อว่า ถ้าสามารถสร้างเครือข่ายของคุรุสภาได้อย่างเข้มแข็ง คุรุสภาจะสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว ทำให้การทำงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเป็นเนื้อเดียวกันได้ นอกจากนี้จะใช้หลักการทำงานเสริมอำนาจ หรือ Empowerment  ให้แก่เจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาคทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง เช่น จัดสรรอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาค ช่วยปฏิบัติงานตามภารกิจของส่วนกลาง แต่ยังปฏิบัติงาน ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด โดยมีการกำหนดแผนการมอบหมายงานอย่างชัดเจน และมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติงานเป็นหลัก การพัฒนาให้เจ้าหน้าที่คุรุสภาจังหวัดเป็นตัวแทนของคุรุสภาส่วนกลาง ทำงานด้านการสอบสวนทางจรรยาบรรณ  โดยจะมีการอบรมองค์ความรู้ เพิ่มเขี้ยวเล็บการทำงานด้านนี้ ซึ่งจะทำให้การดำเนินคดีต่างๆรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”เลขาฯ คุรุสภา กล่าว

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"