ครม.ตีกลับแผนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินขอขึ้นค่าโดยสาร หลัง รฟม.ยื่นเรื่องช้าหวั่นทำรัฐผิดสัญญาจนเสียค่าปรับ ชี้ต้องรอประกาศใช้ในราชกิจจาฯอีก 30 ซึ่งจะเกินกำหนดในวันที่ 2 ก.ค.นี้ โยนคมนาคมไปเจรจากับผู้รับสัปทานหาทางยืดหยุ่น ขอขึ้นค่าโดยสารรถเมล์แอร์20บาท 

5 มิ.ย.. 61 - พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ครม.ยังไม่มีการอนุมัติในกรณีที่กระทรวงคมนาคมเสนอปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รวมถึงการลดหย่อยราคาและให้บริการรถไฟฟ้าฟรี เนื่องจากหากมีการอนุมัติให้ดำเนินการได้ จะต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาประมาณ 30 วัน ซึ่งจะทำให้เลยเวลาครบกำหนดในวันที่ 2 ก.ค. 2561 ที่จะต้องมีการปรับราคาใหม่ ส่งผลให้รัฐบาลจะเป็นฝ่ายผิดสัญญาและอาจจะต้องเสียค่าปรับให้กับผู้รับสัมปทาน 

"ครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงกลับไปพิจารณากับผู้รับเหมาสัมปทานว่าจะมีแนวทางไหนที่จะทำให้รัฐบาลไม่ผิดสัญญาจนต้องเสียค่าปรับดังกล่าว ก่อนที่จะนำมาเสนอใหม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ล่าช้า เนื่องจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) มีการทำเรื่องผ่านทางกระทรวงและเสนอเข้า ครม.ล่าช้า ซึ่งเสนอมาในวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่การปรับชุมครม. มีในวันที่ 5 มิ.ย. เป็นครั้งแรกของเดือน แต่ขอยืนยันว่าข้อเสนอปรับขึ้นราคายังไม่มีการอนุมัติ "พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

ทั้งนี้ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอมามีอยู่ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 1 บาท ในกรณีที่ผู้โดยสายเดินทางในระยะที่ 5 , 8 และ 11 สถานี จากเดิมสถานีที่ 5 อยู่ที่อัตรา 25 บาท จะขึ้นเป็น 26 บาท สถานีที่ 8 อัตรา 32 บาทจะขึ้นเป็น 33 บาทและสถานีที่ 11 อัตรา 39 จะขึ้นเป็น 40 บาท ไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่สถานีใดก็ตาม แต่กรอบยังคงเดิมที่ราคาถูกสุด 16 - 42 บาท 

2.การลดหย่อนราคาค่าโดยสารครึ่งราคา จากเดิมที่ให้เฉพาะเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร เพิ่มมาเป็นให้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และจะให้บริการฟรีสำหรับเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร รวมถึงผู้โดยสารหลุ้มคนพิการที่ถือบัตรคนพิการด้วย และ 3.หากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่มีการสร้างเพิ่ม และส่วนต่อขยายที่กำลังสร้างอยู่นั้นแล้วเสร็จ จะขอให้ใช้หลักการเดียวกันทั้งหมดทั้งอัตราค่าบริการ และการลดหย่อนราคา 

 "การปรับอัตราค่าโดยสารครั้งต่อไปในวันที่ 3 ก.ค. นี้ จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาของกระทรวงคมนาคม โดย ครม.จะยำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อถึงเวลาค่าโดยสารอาจจะปรับขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ได้"พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ  ได้ขอปรับราคาค่าดดยสารเพิ่มขึ้นเช่นกัน  เนื่องจากได้รับภาระจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดย นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคม ผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนร่วมบริการ (รถร่วม) ขสมก. เห็นว่าราคาที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 20 บาทตลอดสาย จากปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 13 บาท ขณะที่หนี้สินสะสมทางสมาคมยืนยันว่า หนี้ที่เกิดในปี 2548-2550 จำนวน 400-500 ล้านบาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนสูง แต่กระทรวงคมนาคมไม่ให้ปรับค่าโดยสาร จึงถือว่าหนี้ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากเจตนาทำให้เอกชนไม่สามารถชำระได้