24 มิ.ย.64 - เวลา 20.50 น. วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า การแก้ไขอำนาจ ส.ว. ตามมาตรา 272 ไม่ต้องมาอ้างว่าทำประชามติมาแล้ว วันนั้นทำประชามติ หลังจากประชามติผ่านก็มีการแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราอีก เป็นการแก้โดยพล.อ.ประยุทธ์ ในคำถามพ่วงระหว่างทำประชามติ มีคำถามนำ และสร้างคำกำกวม ทำไมไม่ถามตรงๆเลย ให้ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ การที่สมาชิกบางคนบอกว่า ทำไมไม่พูดถึงการแก้ไขโควิดก่อน แล้วค่อยพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องถามกลับว่า ถ้าห่วงใยจริง ต้องลงในรายละเอียด เพราะประชาชนหลายคนที่จะฉีดวัคซีนถูกลอยแพ บุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีนซิโนแวคสองเข็มไปแล้วยังติดเชื้อโควิดได้อีก หลายคนห่วงใย เปรียบเทียบประเทศเรากับอินเดีย อเมริกา ติดเชื้อมากกว่า แต่ต้องไปเทียบผู้ติดเชื้อต่อประชากร ประเทศเรามีผู้ติดเชื้อแซงหน้าไปแล้ว

“สถานการณ์แบบนี้ ถ้าส.ว.ห่วงใยจริง ต้องถาม ใครเลือกนายกฯคนนี้มา เราบอกปิดสวิตช์ 250 ส.ว. ที่เลือกคนๆนี้มาก่อกรรมทำเข็ญ ประชาชนถูกเลื่อนฉีดวัคซีน บุคลากรทางการแพทย์ ฉีดวัคซีนไปแล้วเหมือนฉีดน้ำเกลือ อาบน้ำมนต์ เมื่อเลือกคนผิดมาแล้ว ยังจะเลือกอีกหรือ จึงเป็นเหตุผลเราบอก ทำไมต้องปิดสวิตช์สว.

ท้ายที่สุด อ่านข่าวแล้วไม่สบายใจ มีสว.บางคนบอก ส.ส.ลุแก่อำนาจ จะปิดสวิตช์ ส.ว. ก็ต้องถาม ใครกันแน่ ลุแก่อำนาจ เมื่อส.ส.ยึดโยงกับประชาชน อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ขณะที่ส.ว.มาจากกลไกลคสช. พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนเลือกมา ดังนั้น อย่าใช้คำนี้ ผมเห็นว่าต้องทำประชามติ เพื่อให้อำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนไปสู่ประชาชน อำนาจอธิปเตยสถาปนารัฐธรรมนูญอยู่ที่ประชาชน ไม่ใช่แค่ปิดสวิตช์ส.ว. ถ้าส.ว.ไม่คุมกันเอง มีท่าทีเป็นปรปักษ์กับประชาชนแบบนี้ วันนี้ต้องรื้อสวิตช์ เหลือแต่สภาผู้แทนที่ยึดโยงกับประชาชน”นายวิโรจน์กล่าว