มีวิถีชีวิตแบบใหม่ๆ แปลกๆ ออกมาแชร์มาโพสต์กันแทบจะเรียกว่าทั่วโลกเลยก็ได้ สำหรับทุกสังคมที่ต้องเดินต่อไปให้ได้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เด็กก็ต้องฝึกเรียนออนไลน์ ผู้ใหญ่ก็ต้องฝีกใช้แอปเพื่้อจับจ่ายใช้สอย จนถึงการลงทะเบียนเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ วัยรุ่นวัยทำงานก็ต้องรู้จักเวิร์กฟรอมโฮม และการประชุมด้วยระบบ Zoom ระบบไลน์ และอื่นๆ อีกมากมาย
แน่นอน เรื่องของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้องถูกเก็บกักตัว หรือว่าบ้านเมืองมีปัญหาล็อกดาวน์ กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่มีการถกกันเยอะมาก เพราะระหว่างโต๊ะทำงานที่บ้านกับห้องครัวนั้นเดินไม่กี่ก้าวก็ถึง ในขณะที่การออกกำลังกายนอกบ้าน ตามสวนสาธารณะต่างๆ เป็นเรื่องต้องห้าม
มีผลสำรวจของชาวอเมริกันพบว่า ความเครียดและกดดันที่เพิ่มเป็นเงาตามตัวระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดนั้น คือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น โดยมีคนตอบถึง 42% ระบุว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-15 กิโลกรัมในรอบ 1 ปี
ผลที่ตามมาของประเด็นปัญหานี้คือ เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วพบว่า ชุดที่เคยใส่ได้นั้นคับติ้ว
แต่ในวิกฤติมีโอกาส...ปรากฏว่ามีห้างแห่งหนึ่งเปิดช่องทางที่เรียกว่า Fit Liberty program ให้ลูกค้าได้นำเสื้อผ้าของตัวเองเข้าไปแลกเปลี่ยนในโปรแกรมระหว่างลูกค้าด้วยกันเอง โดยร้านเป็นสื่อกลางให้
ไปเห็นและอ่านเจอไอเดียแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกว่า เป็นการแลกเปลี่ยนกันอย่างสร้างสรรค์ และมีความรักษ์โลก ช่วยเหลือกันและกันได้อย่างน่าชื่นชม เพราะคนอ้วนที่ใส่ชุดเดิมไม่ได้ก็ไม่ต้องควักเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ เป็นการร่วมมือกันประหยัด และไม่ต้องทิ้งเสื้อผ้าที่ใส่ไปแค่หนสองหนให้กลายเป็นขยะ
อยากเห็นบ้านเราทำแบบนี้บ้างค่ะ เพราะมนุษย์ป้าเปล่งปลั่งน้ำหนักเกินพิกัดแล้วในการระบาดรอบที่สามนี้ ...อิอิ.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |