22 มิ.ย.64- พลโทคงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงกรณีการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส ซี 295 ของกองทัพบกว่า กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติ ให้กองทัพบกจัดซื้อ ภายใต้การเสนอความต้องการของหน่วย และเป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง ใช้ในภารกิจบรรทุกกำลังพล โดยเฉพาะการฝึกกระโดดร่ม การเคลื่อนย้ายทางยุทธวิธี ของหน่วยรบพิเศษ และการส่งกำลังผัดเปลี่ยนชายแดน การกู้ภัย การอพยพประชาชนในพื้นที่เกิดภัยพิบัติ และการเคลื่อนย้ายเครื่องมือแพทย์และผู้ป่วย รวมถึงการชุดส่งชุดพลาดไปช่วยเหลือ ในโรงพยาบาลสนามและเรือนจำ ที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้โฆษกกระทรวงกลาโหมชี้แจงว่า อัตราที่ควรจะมี กำหนดไว้ 8 ลำ แต่ปัจจุบัน มีเพียง 4 ลำ ปัจจุบันใช้การได้เพียงลำเดียวเท่านั้น และใช้ในภารกิจฝนหลวง และเป็นรุ่นเก่าคาซ่า 212 ใช้มาตั้งแต่ปี 2537 จนถึงขณะนี้ 27 ปี โดยจะปลดระหว่างในปี 2566 หลังครบการใช้งาน 30 ปี

ดังนั้น พลโทคงชีพย้ำว่า การทยอยจัดซื้อเครื่องติดแอร์บัสซี 295 เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเป็นการจะซื้อมาแล้วหนึ่งลำและในปี 2561 อีกหนึ่งลำ และปี 2564 อีกหนึ่งลำ ซึ่งจะใช้เวลาในการจัดส่งได้อีกสองปีครึ่ง ซึ่งใช้งบประมาณของหน่วยกองทัพบก งบปี 2564

ส่วนการตั้งข้อสังเกตในการจัดซื้อท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 นั้น พลโทคงชีพ ระบุว่า อยากจะให้เข้าใจว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินสีพรางทางทหาร และเครื่องบินมีความจำเป็น โดยเฉพาะการบรรทุกกำลังพล 70 นาย เราไม่สามารถนำชีวิตทหารไปเสี่ยงได้ กับอุปกรณ์ที่เก่า ซึ่งจะต้องให้กำลังพลนั้นเชื่อมั่นในยุทโธปกรณ์ที่จะใช้ด้วย และปัจจุบันเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินที่ใช้อยู่ตามแนวใช้แดน ค่อนข้างที่จะเก่ามาก ซึ่งจะเห็นจากข่าวที่ตกกันอยู่ต่อเนื่อง มีชีวิตที่ต้องสูญเสียอยู่ตลอด

"อะไรที่เป็นเรื่องของความจำเป็นก็อยากจะให้เข้าใจ แหมเครื่องบินจะจัดซื้อในช่วงการแพทยระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เราก็จะนำมาใช้ในการลำเลียง คนเข้าไปช่วยในเรื่องโควิดในแต่ละพื้นที่ด้วยเช่นกัน เมื่อมีความเร่งด่วนต้องการใช้แพทย์ทหาร เครื่องมือแพทย์ ทหารก็พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุน ฉะนั้นอยากให้เห็นใจ จะเป็นยุคโควิดหรือยุคใดก็แล้วแต่ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ จึงอยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่า อาจจะไม่ใช่ว่าจะซื้อในยุคโควิด แล้วจะซื้อไม่ได้ ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ต้องใช้ ขออย่ามองว่าทุกอย่างเป็นการใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า"

ทั้งนี้ พลโทคงชีพย้ำว่ากองทัพบกได้จัดซื้อ เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นไปด้วยความโปร่งใส.