มาแล้วตอนที่ 5 ม็อบเสื้อแดง'เทเลือด-เผาบ้านเผาเมือง'


เพิ่มเพื่อน    

22 มิ.ย.64-  รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ บทความตอนที่ 5 รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ บริหารประเทศได้ไม่นาน กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช)หรือคนเสื้อแดง มีคุณวีระกานต์ มุสิกพงศ์ เป็นประธาน ก็เริ่มชุมนุมตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2552 เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ด้วยข้อกล่าวหาว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ทั้งที่คุณอภิสิทธิ์ได้รับเลือกในสภาผู้แทนราษฎรโดยไม่มีสมาชิกวุฒิสภาเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นที่ทราบกันว่า ผู้ที่เดินเกมการเมืองจนได้ชัยชนะครั้งนี้ก็คือ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่นเอง

วันที่ 11 เมษายน 2552 กลุ่มนปช นำโดยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง บุกฝ่าแนวป้องกันของตำรวจ ไปที่โรงแรม
รอยัลคลิฟบิชรีสอร์ท เพื่อล้มการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอาเซียน และไล่ล่าจับตัวนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 

มีการทุบทำลายประตูกระจกเข้าไปในสถานที่จัดประชุม ทำให้ผู้นำประเทศอาเซียนที่มาประชุมต้องหนีกันจ้าละหวั่น เป็นข่าวใหญ่เผยแพร่ไปทั่วโลก

ในวันที่ 12 เมษายน กลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าไปในกาะทรวงมหาดไทย เพื่อไล่ล่าล้อมจับคุณอภิสิทธิ์ มีการล้อมทุบทำลายรถคุณอภิสิทธิ์ และรถคุณนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี อย่างบ้าคลั่ง จนคุณนิพนธ์ได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ดี การประท้วงของคนเสื้อแดงครั้งนี้จบลงด้วยการใช้กำลังทหารเข้าสลาย แกนนำนปช ประกาศสายการชุมนุม โดยไม่มีการปะทะกันจนถึงชีวิตแต่อย่างใด 

วันที่ 12 มีนาคม 2553 คนเสื้อแดงกลับมาชุมนุมอีกครั้ง ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากกว่าครั้งที่แล้ว ครั้งนี้เปลี่ยนข้อเรียกร้องจากให้นายกรัฐมนตรีลาออกมาเป็น ให้ยุบสภาภายใน 15 วัน และให้มีการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
วาทกรรม ไพร่ อำมาตย์ เกิดขึ้นในช่วงปี 2552 - 2553 นี้เอง

วันที่ 17 มีนาคม คนเสื้อแดงบุกไปที่บ้านคุณอภิสิทธิ์ เพื่อนำเลือดไปเทที่ประตูบ้าน ตำรวจยอมเปิดทางให้ผู้ชุมนุมผ่านไปตามที่ต้องการ จากนั้นผู้ชุมนุมจึงกลับไปยังที่ตั้งที่สพานผ่านฟ้าฯ ถนนราชดำเนิน

ตลอดเวลาของการประท้วงทั้งในปี 2552 และ 2553 ทักษิณ ชินวัตร แสดงตัวอย่างชัดเจนว่า สนับสนุนการประท้วงด้วยการ video call เข้ามาสั่งการ และให้กำลังใจผู้ประท้วงหลายครั้ง

ทั้งมีการสั่งการให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดต่างๆ หากมีการสลายการขุมนุม และยังประกาศว่าหากมีการใช้อาวุธสลายการชุมนุม จะออกมานำการชุมนุมด้วยตัวเอง 

รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ ยอมเปิดทางให้มีการนั่งโต๊ะเจรจา ในวันที่ 28 มีนาคม ที่สถาบันพระปกเกล้า โดยมีคุณอภิสิทธิ์และตัวแทนฝ่ายรัฐบาลอีก 2 คน ฝ่ายนปช มีคุณวีระกานต์ มุสิกพงศ์ คุณจตุพร พรหมพันธ์ และหมอเหวง โตจิราการ
คุณอภิสิทธิ์ขอเวลาอีก 9 เดือน เพื่อทำงานที่ค้างอยู่ และจะยอมยุบสภา บรรยากาศดูเหมือนจะตกลงกันได้ แต่นปช ขอเวลากลับไปหารือกันก่อน ในวันรุ่งขึ้น 29 มีนาคม กลับมาเจรจากันอีกครั้ง โดย ฝ่ายนปช มีท่าทีที่เปลี่ยนไป ยืนกระต่ายขาเดียวว่า ต้องยุบสภาภายใน 15 วันเท่านั้น 

เป็นที่น่าสังเกตุว่า ท่าทีของตัวแทนฝ่าย นปช แข็งกร้าวขึ้นในการเจรจาวันที่ 2 เหมือนกับได้รับคำสั่งใครมาว่า ห้ามยอมให้เวลารัฐบาลอีก 9เดือนเป็นอันขาด กระนั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้การชุมนุมจึงดำเนินต่อไป และเกิดความรุนแรงขึ้นเมื่อรัฐบาลใช้กำลังทหารเข้ากระชับพื้นที่ที่สี่แยกคอกวัว ปรากฏมีกองกำลังชุดดำ ติดอาวุธสงคราม ออกปฏิบัติการยิงต่อสู้กับทหาร เป็นเหตุให้พันเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิต และมีนายทหารบาดเจ็บอีกหลายคน ในวันที่ 10 เมษายน 2553

มีการถกเถียงกันว่า กองกำลังชุดดำมีจริงหรือไม่ ฝ่ายทหารพยายามสร้างสถานการณ์เองหรือไม่ แน่นอนว่าฝ่ายที่เขียร์นปช เชียร์ทักษิณ ไม่เชื่อว่ามีจริง แต่จากคลิปส์วีดิโอหลายคลิปส์ เห็นชัดเจนว่า มีชายชุดดำที่ใช้ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ฝ่ายทหารจริง

แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือแห่งหนึ่ง ยืนยันว่า มีการว่าจ้าง นายทหารเก่า 3 คน คนละ 2 ล้านบาท ให้จัดกองกำลังติดอาวุธออกมา แต่เมื่อถึงวันนัด มีการนำกองกำลังออกมาจริงมีเพียง 2 กลุ่ม นายทหารเก่าอีกคนหนึ่งรับเงินแล้วกลับไม่ออกมาตามนัด และไม่มีการทวงเงินคืนแต่อย่างใด

จากสี่แยกคอกวัว และอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย นปช ยึดที่มั่นที่สี่แยกราชประสงค์ และสวนลุมพินี ชุมนุมยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม จึงมีการนำกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมเป็นผลสำเร็จ หลังการสลายการขุมนุม ปรากฏมีการเผาสถานที่ต่างๆในกทม หลายแห่ง และเผาศาลากลางหลายจังหวัด 

สรุปมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดรวมฝ่ายผู้ชุมนุมและฝ่ายทหาร 99 คน บาดเจ็บมากกว่า 2,000 คน

หลังจากนั้นรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ก็บริหารประเทศต่อไปอีกปีเศษอย่างปลอดโปร่ง มีความพยายามที่จะเกิดการปรองดองด้วยการตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง แต่ไม่เป็นผลอย่างใด นอกจากมีรายงานหนาๆ 1 เล่ม

เมื่องานที่คั่งค้างเสร็จสิ้น คุณอภิสิทธิ์ก็ทำตามสัญญา ประกาศยุบสภาในวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 และกำหนดให้เลือกตั้งใหม่ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554

หากย้อนเวลากลับไป และนปช ยอมผ่อนปรนตามข้อเสนอของคุณอภิสิทธิ์เสียแต่แรก การยุบสภาก็จะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 

ที่สำคัญคือ จะไม่มีใครต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก บ้านเมืองไม่ต้องถูกเผาจนเสียหาย แต่เพราะการดึงดันของใครก็ตามที่มีอำนาจเหนือแกนนำ นปช จึงทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงเช่นนี้ต่อประเทศ.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"