"ซิโนฟาร์ม" ซิโนฟาร์มใช้เวลาตรวจรับรอง 2 วัน ก่อนปูพรมซิโนฟาร์มเผยล็อตสองอีก 1 ล้านโดสมาต้นเดือน ก.ค.  "หมอนิธิ" ยันไม่เทใคร จัดสรรวัคซีนให้ครบทุกบริษัท ส่วนรายบุคคลรออีก 2-3 สัปดาห์ ไทยร่วมใจนัดคิวเดิม 15-18 มิ.ย. ได้ฉีดใหม่ 23-25 มิ.ย. ฝ่ายค้านรุมถล่ม มท.สั่งผู้ว่าฯ เอื้อวัคซีนเอกชนยักษ์ใหญ่ "ฉัตรชัย" แก้เกี้ยวแค่สำรวจความต้องการไม่ใช่จัดให้
    เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด 19 ว่า วันที่ 19 มิ.ย. ฉีดได้ 104,095 โดส เป็นเข็มแรก 51,973 โดส และเข็มสอง 52,122 โดส ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-19 มิ.ย. ฉีดแล้ว 7,587,178 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 5,486,092 ราย คิดเป็น 7.62% ของประชากร และเข็มสอง 2,101,086 ราย คิดเป็น 2.92% ของประชากร โดย กทม.และปริมณฑลฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครอบคลุม 16.65% และเข็มสอง 5.6% ส่วนภูเก็ตฉีดเข็มแรกครอบคลุมสูงสุด 63.22% เกาะสมุยเข็มแรก 45.99% 
    ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นตัวแทนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รับมอบวัคซีนตัวเลือกวัคซีนซิโนฟาร์มล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดส
    สำหรับวัคซีนถูกขนส่งโดยเที่ยวบินขนส่งสินค้า TG8669 เที่ยวที่ 1 จำนวน 5 แสนโดส ออกจากเมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เวลา 05.30 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงประเทศไทย เวลา 09.03 น. และเที่ยวที่ 2 ขนส่งโดยเที่ยวบินขนส่งสินค้า TG675 จำนวน 5 แสนโดส ออกจากเมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เวลา 06.30 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงประเทศไทย เวลา 10.04 น. รวมจัดส่งถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้วจำนวน 1 ล้านโดส หลังจากนั้นวัคซีนถูกลำเลียงโดยตู้ควบคุมอุณหภูมิบรรจุวัคซีน 12 คัน/คันละ 83,000 โดส ไปจัดเก็บยังคลังวัคซีน บริษัท ไบโอเจเนเทค จำกัด บางนา เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิตโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากนั้นในวันที่ 23-24 มิ.ย. จะกระจายจัดส่งสู่โรงพยาบาลต่างๆ ที่องค์กรได้รับจัดสรรวัคซีน เลือกให้เป็นสถานที่บริการฉีดวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มทั่วประเทศ และฉีดพร้อมกัน 25 มิ.ย.
    ทั้งนี้ ทีมประชาสัมพันธ์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เปิดเผยว่า วัคซีนล็อตแรกที่ได้รับแล้วจะเป็นวัคซีนปูพรมเข็ม 1 ก่อน จากนั้นวัคซีนซิโนฟาร์มเข็มที่ 2 จะทยอยมาในเดือน ก.ค. จำนวน 2 ล็อต ล็อตละ 1 ล้านโดส คาดว่าวัคซีนจะมาช่วงต้นเดือน ก.ค. โดยระยะระหว่างเข็ม 1 และ 2 ของวัคซีนอยู่ที่ 20-30 วัน (2-4 สัปดาห์) 
    ส่วนยอดองค์กรที่ยื่นความประสงค์รับวัคซีนซิโนฟาร์ม ตั้งแต่วันที่ 14-18 มิ.ย. รวม 17,070 แห่ง มีจำนวนบุคคลขององค์กรที่จะได้รับฉีดรวม 4,873,659 คน
    ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แจ้งสมาชิกว่า ยอดการจัดสรรวัคซีนจากจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย อาจไม่ตรงตามจำนวนที่แจ้งความประสงค์ ซึ่งทาง ส.อ.ท.จะโอนเงินคืนให้นั้น ว่าเห็นพาดหัวสื่อในหลายๆ ข่าว ขอสรุปให้ใหม่ภาษาง่ายว่า ในการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มที่เพิ่งดูไป ให้ได้แค่คนที่ยื่นความประสงค์มาช่วงสองวันแรกเท่านั้น เมื่อดูครบคาดว่าจะได้หมดทุกบริษัท ในกลุ่มรายชื่อที่ ส.อ.ท.ส่งรวมๆ กันมาจะได้กันหมด เพียงแต่ว่าแต่ละนิติบุคคล (บริษัท) ต้องลงนามในข้อตกลงเอง และโอนเงินเอง เพื่อกำหนดโรงพยาบาลที่ฉีดให้เองด้วย รวมถึงกำหนดการบริจาคและกลุ่มที่ประสงค์จะบริจาคให้ และยังต้องโหลดชื่อพนักงาน พร้อมเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ติดต่อแต่ละคน ซึ่ง ส.อ.ท.ทำเองจะช้า พนักงานจะได้วัคซีนช้าตามไปด้วย
ยันจัดให้ครบทุกบริษัท
    "ในข้อตกลงมีรายละเอียดมากที่ต้องทำกันเอง ที่สำคัญๆ คือทุกบริษัทต้องสัญญาว่าไม่นำไปขายต่อหากำไร โดนปรับเกือบ 20 เท่า และบุคคลที่รับการฉีดต้องยืนยันเป็นรายบุคคลว่าไม่ได้เสียเงินใคร เพื่อมารับวัคซีนในที่สุดจะได้รับการจัดสรรวัคซีนทุกบริษัทที่ยื่นขอรับการจัดสรรมาที่เอกสารครบถ้วนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ย้ำว่าไม่เทใคร แต่อาจเรียงลำดับตามความสำคัญเพราะวัคซีนทยอยมา แต่มาตามนัดรวมแล้วในสองเดือนเศษๆ ต่อไปไม่ต่ำกว่า  6 ล้านโดส หรือ 3 ล้านคน ตามนโยบายที่ได้ประกาศไป เข้าใจและเห็นใจว่าทุกบริษัทก็คิดว่าบริษัทตัวเองมีความสำคัญซึ่งใช่ เพราะทุกบริษัทได้หมดตามขอมาไม่เทใครครับ มีแต่ผมเองโดนเทเป็นพักๆ" ศ.นพ.นิธิระบุ
    สำหรับรายบุคคลรอกันสักสองสามสัปดาห์ และบริษัทที่ติดขัดการเข้ามาลงทะเบียนขอให้ใจเย็นๆ เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์หูพองไปหมดแล้ว จากการที่มีหลายๆ คนโทร.มาเพื่อขอแก้ไขรายละเอียดตัวเลขเดิม อันนี้เสียเวลามากกว่าครึ่งจริงๆ และในส่วนการระบุจำนวนบริจาคกับจำนวนที่ขอจัดสรรช่วยดูให้มั่นใจก่อนส่งด้วย เพราะมากกว่าสิบรายใส่สลับกัน ซึ่งจะให้ปรับลดจำนวนบริจาคได้ แต่ไปเพิ่มจำนวนที่ขอจัดสรรไม่ได้ เพราะกระทบยอดรวมคนอื่นๆ และการขนส่งวัคซีน
    ศ.นพ.นิธิยังได้ชี้แจงรายละเอียดของขั้นตอนการเข้าใช้งานระบบสำหรับองค์กร/บริษัทที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ระยะที่ 1 นอกจากนี้ยังเตือนอย่าหลงเชื่อเฟกนิวส์ในเรื่องการจัดสรรวัคซีนด้วย โดยย้ำว่า 1.ประชาชนรายบุคคลที่ต้องการรับวัคซีนต้องทำผ่านนิติบุคคล/องค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และองค์กรหรือนิติบุคคลนั้นจะเรียกเก็บเงินทั้งทางตรงหรือทางอ้อมจากประชาชนรายบุคคลไม่ได้ 2.องค์กรหรือนิติบุคคลที่ได้รับจัดสรรไปจะนำไปขายต่อ หากำไร หรือมอบช่วงไม่ได้เป็นเด็ดขาด และ 3.ทั้งสองฝ่ายคือประชาชนรายบุคคลและองค์กรนิติบุคคลจะต้องลงนามข้อตกลงยืนยันตามข้อ 1 และ 2 ก่อนรับการฉีดวัคซีนหากผิดไปจากนี้ และมีการเปิดเผยว่ามีการฝ่าฝืนตามข้อตกลง จะถูกปรับมากกว่าสิบห้าเท่า และอาจโดนคดีอาญาฐานฉ้อโกงด้วย
    เพจ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย Safe Bangkok" ประกาศแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ โดยระบุว่า ไทยร่วมใจได้รับการจัดสรรวัคซีนจำนวน 1 แสนโดส จึงขอแจ้งให้กับผู้ที่มีคิวนัดฉีดวัคซีนวันที่ 15-18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เข้ารับการฉีดวัคซีนตามวันนัดใหม่ ดังนี้ คิวฉีดเดิมวันอังคารที่ 15 มิ.ย. คิวฉีดใหม่วันอังคารที่ 22 มิ.ย. คิวฉีดเดิม วันพุธที่ 16 มิ.ย. คิวฉีดใหม่วันพุธที่ 23 มิ.ย. คิวฉีดเดิมวันพฤหัสฯ ที่ 17 มิ.ย. คิวฉีดใหม่วันพฤหัสฯ ที่ 24 มิ.ย.  คิวฉีดเดิม วันศุกร์ที่ 18 มิ.ย. คิวฉีดใหม่ วันศุกร์ที่ 25 มิ.ย. โดยเวลาและสถานที่ยังคงเป็นตามคิวฉีดวัคซีนเดิม
        สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาฉีดในวันนัดใหม่ข้างต้น กรุณาติดต่อที่สายด่วนวัคซีน 1516 ส่วนผู้ที่เคยยกเลิกคิวฉีดวันที่ 15-18 มิ.ย. สามารถใช้สิทธิ์คิวฉีดเดิมได้ ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีคิวฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.เป็นต้นไป ไทยร่วมใจฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีน
    ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับการสนับสนุนวัคซีนสำหรับฉีดให้กับบุคลากรในสังกัดจากหลายองค์กร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ส่วนราชการหลายหน่วยงาน ส.อ.ท. สมาคมตลาดสดไทย สมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย บริษัทและสถานประกอบการขนาดใหญ่ ซึ่ง ศบค.มท. ได้แจ้งข้อมูลการขอรับการสนับสนุนวัคซีนข้างต้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผน 
สั่งผู้ว่าฯ ไม่เลือกปฏิบัติ
         เพื่อให้การบริหารจัดการการฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าฯ ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหารือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อวางระบบการบริหารการฉีดวัคซีนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุมทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ เป็นไปตามมติ ศบค. และแนวทางที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย 
    ทั้งนี้ ในกรณีองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความประสงค์จะขอรับวัคซีนให้กับบุคลากร สามารถแจ้งความประสงค์ไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และกรณีองค์กรขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรอยู่ในหลายจังหวัด หรือองค์กรระหว่างประเทศ/หน่วยงานต่างชาติ ที่ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ สามารถแจ้งหนังสือไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อขอรับวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรในสังกัด โดยหาสถานพยาบาลรองรับการฉีดเอง และสำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม เป็นหน่วยงานที่รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อบริหารจัดการและจัดแผนการฉีดวัคซีนได้โดยตรง และรวบรวมข้อมูลจากสถานประกอบการเพื่อกำหนดสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน ทั้งในสถานพยาบาลตามสิทธิ และเชิงรุกนอกสถานพยาบาล เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและให้ผู้ประกันตนได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว  
         นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน บริษัท สถานประกอบการ แคมป์คนงาน ที่มีบุคลากรจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จัดทำข้อมูล สถานที่ จำนวนบุคลากร และแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมการกรณีเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถานประกอบการใช้ปฏิบัติในการควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ไปยังพื้นที่อื่นๆ พร้อมมอบหมายนายอำเภอดำเนินการแนวทางดังกล่าวในระดับอำเภอด้วย 
    ทางด้านนายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ส.ส.หนองบัวลำภู และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ท้วงหนังสือคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่มีถึงผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เพื่อจัดหาวัคซีนให้กับพนักงานของบริษัทเอกชนรายหนึ่งทั่วประเทศเกือบ 7 หมื่นคนที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ว่า บริษัทเอกชนรายนั้นมีขีดความสามารถในการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับพนักงานของตนเองได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเบียดบังวัคซีนในส่วนที่จัดไว้เพื่อบริการประชาชนเลย ในขณะที่กำนันผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นด่านหน้าในพื้นที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย ซึ่งคำสั่งกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวจึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง และจะถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายเดียว
    นายณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางปรับปรุงระบบราชการเพื่อปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกร้องให้ปลัด มท. ควรยกเลิกหนังสือเวียนดังกล่าว เพราะจะก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนในหมู่มาก
    นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลให้ข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้ 1.สต๊อกวัคซีน ที่ปลัด มท.ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้จัดสรรให้บริษัทเอกชนนั้น เป็นสต๊อกวัคซีนที่กันเอาไว้ต่างหาก หรือเอาวัคซีนจากหน้างาน 2.พนักงานของบริษัทเอกชนและครอบครัวของพนักงานของบริษัทเอกชนหลายแห่งน่าจะมีการจองคิวลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หรือช่องทางอื่นๆ ได้มีการจัดฐานข้อมูลเพื่อไม่ให้รายชื่อซ้ำซ้อนกันหรือไม่ 3.มีบริษัทที่ขอสนับสนุนรูปแบบนี้อีกกี่บริษัท และมีปริมาณเท่าไหร่ จึงขอเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการ ศบค. ชี้แจงเรื่องนี้ เพราะอาจให้การจัดการสต๊อกและการฉีดวัคซีนสะดุด ทำให้บุคลากรการแพทย์และประชาชนเองก็เดือดร้อน
      ขณะที่นายฉัตรชัย ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ข่าวที่ออกไปไม่ใช่การจัดสรรวัคซีน แต่เป็นเพียงการสำรวจความต้องการวัคซีนขององค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะนี้มีแสดงความประสงค์มาแล้วหลายหน่วยงาน องค์กร ตามที่กล่าวไป ซึ่งยืนยันเป็นการสำรวจไม่ใช่การจัดสรร เมื่อสำรวจแล้วจะดำเนินการกระจายวัคซีนตามแผนของ ศบค. ดังนั้น หน่วยงานไหนบริษัทใดต้องการวัคซีน สามารถแจ้งเข้ามาได้เพื่อที่ภาครัฐจะได้นำข้อมูลไปบริหารจัดการวัคซีนอย่างทั่วถึงโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด.