โครงการ Eco Digiclean Klongtoei การจัดการพลาสติกในชุมชนคลองเตย
ขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นปีละ 2 ล้านตัน แต่มีการนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่เพียง 5 แสนตัน สะท้อนภาพชัดเจนว่า ไทยสอบตกในการจัดการปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งการเร่งรีไซเคิลพลาสติกใช้แล้ว ให้นำกลับมาใช้ใหม่ ถือเป็นแนวทางสำคัญ ที่จะช่วยลดปริมาณขยะประเภทนี้ ที่กำจัดย่อยสลายยาก และการนำขยะเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ ยังทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ"เศรษฐกิจสีเขียว"ที่เป็นเทรนด์กระแสโลก ผลพลอยได้ที่สำคัญอีกประการคือ เป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศ ลดปัญหาโลกร้อนไปในตัว
การขับเคลื่อนสร้างระบบบจัดการพลาสติก จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมในประเทศเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่สำคัญ ล่าสุด สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ PPP Plastics และ Alliance to End Plastic Waste (AEPW) เปิดตัว “โครงการ ALL_Thailand เพื่อการจัดการพลาสติกอย่างยั่งยืน” มีเป้าหมายพัฒนาต้นแบบและนวัตกรรมในการนำพลาสติกที่ใช้งานแล้วกลับมาใช้ประโยชน์และป้องกันพลาสติกเหล่านั้นหลุดรอดไปสู่สิ่งแวดล้อม ผ่านการพัฒนา 3 โครงการย่อยในประเทศไทย ได้แก่โครงการ Eco Digiclean Klongtoei , โครงการ Rayong Less-Waste (ระยองลดขยะ) และโครงการ Paving Green Roads ระยะเวลารวม 2 ปี
ทั้ง 3 โปรเจ็ค จะผลักดันเป็นต้นแบบการจัดการขยะพลาสติกตั้งแต่ต้น และครอบคลุมเรื่องระบบและนวัตกรรมที่จะช่วยนำพลาสติกเหล่านั้นกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนก่อนขยายผลระดับประเทศ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการในครั้งนี้สอดคล้องกับโรดแมฟจัดการขยะพลาสติกของไทย จะทำให้เกิด Business Model ในการจัดการขยะ และสามารถนำไปขยายผล ในวงกว้าง เป็นประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งนี้ สภาฯ มี 45 กลุ่มอุตสาหกรรม มีสมาชิกทั่วประเทศ และมี 9 สถาบัน ในความรับผิดชอบ
“ เรามีความพร้อมดำเนินโครงการเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการขยะให้ครบวงจร และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพลาสติกใช้แล้วในรูปแบบต่างๆ เช่น นำพลาสติกใช้แล้วในงานสร้างถนนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โครงการนี้คาดหวังไทยมีแนวทางจัดการขยะพลาสติกตลอด Supply Chain สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Model และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย สอดคล้องกับทิศทางพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในอนาคต “ นายสุพันธุ์ กล่าว
ALL Thailand ลุย 3 โครงการย่อย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธาน PPP Plastics อธิบายจุดเด่นแต่ละโครงการว่า โครงการ Eco Digiclean Klongtoei นำเทคโนโลยีดิจิตอลช่วยบริหารจัดการขยะพลาสติกตั้งแต่ต้นทาง เช่น สร้าง Application ช่วยบริหารจัดการขยะ การพัฒนาถังขยะรูปแบบใหม่กึ่งอัตโนมัติช่วยแยกขยะประเภทพลาสติก เพิ่มมูลค่าของขยะพลาสติก
ส่วน Rayong Less-Waste จะเป็นการขยายโมเดลการจัดการขยะระดับชุมชนและท้องถิ่นด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียนไปให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดระยอง มีเป้าหมายที่จะสร้างชุมชนตัวอย่างใน 68 เทศบาลของจ.ระยอง ทำให้เกิดรายได้ อาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ที่สำคัญลดปริมาณขยะพลาสติกที่ไปหลุมฝังกลบในระยองที่นับวันจะมีพื้นที่ลดน้อยลง
ถนนสีเขียว Paving Green Roads
ถัดมาโครงการศึกษาวิจัยถนนสีเขียว Paving Green Roads ดร.วิจารย์ บอกว่า โครงการนี้นำพลาสติกใช้แล้วมาเป็นส่วนผสมในถนนยางมะตอยอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้ยางมะตอย และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยร่วมกับหลายประเทศ
“ ในไทยเราได้ร่วมทำงานกับคณะอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมของการทำถนนที่มีส่วนประกอบของพลาสติกใช้แล้ว ทั้งด้านอากาศและน้ำ รวมทั้งคุณสมบัติความแข็งแรงทนทาน และศักยภาพในการนำถนนพลาสติกที่ถูกรื้อถอนกลับมารีไซเคิล เพื่อสร้างเป็นถนนใหม่ ซึ่งจะมีการทดสอบ ถอดบทเรียน และติดตามความก้าวหน้างานวิจัย นวัตกรรมนี้จะเป็นอีกทางเลือกสร้างถนนของบ้านเราในอนาคต “ ประธาน PPP Plastics เผย
เจค็อบ ดูเออร์ ซีอีโอ AEPW กล่าวว่า ทั้ง 3 โครงการเป็นตัวอย่างของกิจกรรมในพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ต่างกันเมื่อมารวมกันภายใต้โครงการ ALL_Thailand จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อม ช่วยกระจายความรู้ สร้างความเข้าใจ ขับเคลื่อนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกในชุมชน เพราะหลักการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและหยุดขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมต้องได้เกิดจากกระบวนการมีส่วนร่วม
หลายบริษัทเห็นความสำคัญของปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจากพลาสติกใช้แล้ว พยายามค้นหานวัตกรรมลดขยะ นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ตระหนักถึงผลกระทบของพลาสติกใช้แล้วที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้ามาขับเคลื่อนการทำธุรกิจ เน้นบริหารจัดการพลาสติกตลอดทั้งวงจรอย่างรับผิดชอบผ่าน 3 ด้านหลัก คือ การสร้างความรู้และความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน, การประยุกต์หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ให้ครอบคลุมทุกมิติของการทำธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความร่วมมือระหว่างองค์กรและกับทุกภาคส่วน ร่วมสร้างการเติบโตให้กับชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน
ดร.ชญาน์ จันทวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร AEPW แก้ปัญหาเพื่อลดปริมาณพลาสติกที่ใช้แล้วบนฐานของการจัดการขยะอย่างยั่งยืน เรานำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาปรับใช้ สร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคในรูปแบบที่หลากหลาย และพร้อมให้ความร่วมมือศึกษา พัฒนาการวิจัย และนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะพลาสติกให้สอดคล้องกับแนวทาง BCG บริษัทจะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการจัดการพลาสติกที่ใช้แล้วอย่างเป็นระบบ และส่งผลให้โครงการนี้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ในการลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายใน ปี 2570