นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ร่วมหารือและรับฟังความคิดเห็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ผู้แทนจากสถานีโทรทัศน์ และผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จัดทำ ร่างแนวทางปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ นั้น ขณะนี้ทาง วธ. ได้จัดทำร่างเสร็จแล้วและนำเสนอต่อผู้เกี่ยวข้องพิจารณาตามลำดับ ประกอบด้วย ที่ประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
ปลัด วธ. กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการที่ ศปก.ศบค. เสนอ มีสาระสำคัญดังนี้ 1) ให้มีผู้เข้าร่วมถ่ายทำไม่เกิน 50 คน โดยจะต้องบริหารจัดการความหนาแน่น ของพื้นที่ในขณะถ่ายทำอย่างน้อย 4 ตารางเมตร ต่อ 1 คน 2) ให้ยกเว้นผู้ที่ไม่ต้องสวมหน้ากากบางช่วงเวลาเฉพาะนักแสดงที่เข้าฉาก 3) หากมีฉากกอด จูบ ต่อสู้ ให้ใช้เทคนิคพิเศษแทน และการถ่ายทำในที่สาธารณะให้ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ร่วมปฏิบัติงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
4) ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติในการถ่ายรายการโทรทัศน์ ละคร ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ อาทิ ช่วงเวลาก่อนถ่ายทำรายการ ต้องมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ โดยปฏิบัติตามาตรการของแต่ละระดับเขตพื้นที่การแพร่ระบาด มีมาตรการคัดกรอง ซักประวัติ ควรมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง มีการแจ้งประวัติฉีดวัคซีน ช่วงเวลาระหว่างการถ่ายทำรายการ จะต้องไม่เป็นการสัมผัสใกล้ชิดและเข้าถึงตัวกัน จัดให้มีอุปกรณ์เฉพาะบุคคลแยกจากกัน จัดให้มีการทำ Timeline ตลอดระยะเวลาถ่ายทำและหลังการถ่ายทำแล้วเสร็จไม่น้อยกว่า 14 วัน ช่วงเวลาพักการถ่ายทำรายการ จัดให้มีการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสร่วมทุกระยะอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารให้นั่งเดี่ยว เว้นระยะห่าง 2 เมตร จัดอาหารไว้เป็นชุดเฉพาะตัวบุคคล มาตรการหลังการถ่ายทำ เมื่อพบกลุ่มเสี่ยงให้คัดแยกบุคคลกลุ่มเสี่ยงเพื่อเข้ารับ การตรวจทันที เมื่อพบว่าติดเชื้อให้นำส่งบุคคลไปยังสถานพยาบาลที่มีความร่วมมือกัน และปิดพื้นที่การถ่ายทำทันทีเมื่อพบกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ติดเชื้อ เป็นต้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ กสทช. และ วธ. ทำหน้าที่กำกับ ติดตาม จัดทำแผนกำกับ ติดตามและประสานงานกับกรมควบคุมโรค และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่อไป สอบถามรายละเอียดได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม 1765