ศบค.รายงานผู้ป่วยทรงตัว 3,667 คน เสียชีวิต 32 ราย กทม.กดไม่ลงยังเกินพัน สมุทรปราการ-สมุทรสาครอ่วม ส่วนในคุกป่วยเพิ่มอีก 435 ราย คนกระบี่ผวา ผู้ติดโควิดจากยะลาเข้าในพื้นที่ สตูลงอมเด็กนักเรียนติดเชื้อ 33 คน
    เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,667 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อทั่วไปในประเทศ 3,232 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 32 ราย และติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขังเพิ่ม 435 ราย มีผู้เสียชีวิต 32 ราย
    โดยสถิติตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 185,586 ราย สะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 214,449 ราย หายป่วยเพิ่ม 4,948 ราย รวมหายป่วยสะสม 153,932 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 181,358 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 31,482 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 6,105 ราย โรงพยาบาลสนาม 25,377 ราย อาการหนัก 1,343 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 383 ราย
    สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,667 ราย ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1,218 ราย ปริมณฑล (5 จังหวัด) 991 ราย จังหวัดอื่นๆ (71 จังหวัด) 991 ราย และเรือนจำ/ที่ต้องขัง 435 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 32 ราย แบ่งเป็นชาย 15 ราย หญิง 17 ราย ค่ากลางอายุ 64.5 ปี (40-89 ปี) แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 19 ราย, นครปฐม สมุทรปราการ จังหวัดละ 3 ราย, เพชรบุรี ขอนแก่น จังหวัดละ 2 ราย
       สมุทรสาคร ชลบุรีและฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 1 ราย โดยส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวหรือปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค จำแนกได้เป็นความดันโลหิตสูง 22 ราย, เบาหวาน 15 ราย, ไขมันในเลือดสูง 9 ราย, ไต 6 ราย, หัวใจและหลอดเลือดสมอง อย่างละ 3 ราย, ปอด มะเร็ง โรคอ้วน อย่างละ 1 ราย, ไม่มีโรคประจำตัว 3 ราย ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ยังคงติดจากคนในครอบครัว คนอื่นๆ อาศัย/เดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด สถานที่แออัดพลุกพล่าน เช่น ตลาด และอาชีพเสี่ยง คือค้าขาย ขับรถรับจ้าง ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 32 ราย แบ่งเป็นเอธิโอเปีย 3 ราย, บาเรนห์ แอฟริกาใต้ อย่างละ 1 ราย และกัมพูชา 27 ราย
    10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศรายใหม่สูงสุด ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 19 มิถุนายน เวลา 01.00 น. อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร 1,218 ราย ยอดสะสม 58,906 ราย 2.สมุทรปราการ 495 ราย ยอดสะสม 12,249 ราย 3.สมุทรสาคร 171 ราย ยอดสะสม 5,127 ราย 4.ปทุมธานี 167 ราย ยอดสะสม 6,123 ราย 5.ชลบุรี 145 ราย ยอดสะสม 5,929 ราย 6.นครปฐม 81 ราย ยอดสะสม 2,577 ราย 7.สงขลา 81 ราย ยอดสะสม 2,486 ราย 8.นนทบุรี 77 ราย ยอดสะสม 9,463 ราย 9.เพชรบุรี 70 ราย ยอดสะสม 7,999 ราย และ 10. ปัตตานี 69 ราย ยอดสะสม 886 ราย
    มี 17 จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ได้แก่ อุดรธานี ลำพูน ลำปาง พิจิตร นครพนม สกลนคร ชุมพร สุโขทัย อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี บึงกาฬ มุกดาหาร
    จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มคลัสเตอร์โรงงานภายใน จ.เพชรบุรี ที่ผ่านมานั้น ทางจังหวัดจึงมีมาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเชิงรุกในโรงงานอื่นๆ ภายในจังหวัด เพื่อควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ
เพชรบุรีติดเพิ่ม 54 ราย
    ล่าสุด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีได้รับรายงานการสอบสวนโรคจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี  ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนพนักงานลูกจ้างหรือแรงงานในสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม บริษัท เอ็มเมอรัลด์ นอนวูเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่หมู่ 2 ต.หนองชุมพลเหนือ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ซึ่งจากการตรวจเชิงรุกเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พบผู้ติดเชื้อจำนวน 5 ราย และวันที่ 15 มิถุนายน พบผู้ติดเชื้ออีกจำนวน 49 ราย รวมทั้งหมด 54 ราย
    ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในสถานประกอบการดังกล่าว คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีจึงออกคำสั่งห้ามบุคคลใดเข้าไปหรือออกจากบริษัท เอ็มเมอรัลด์ฯ และให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการในการจัดการโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดจนให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับอำเภอเขาย้อย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ตรวจสถานที่บริษัทให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยให้ดำเนินการตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองชุมพลเหนือ หากพบบุคคลใดมีอาการเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ดำเนินการส่งตัวไปแยกกักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการในสถานที่จังหวัดกำหนด ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
    สถานการณ์ในจังหวัดสมุทรสาคร ยอดผู้ติดเชื้อในเวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 มิถุนายน 2564 พื้นที่ควบคุมสูงสุดพบการติดเชื้อ พบผู้ป่วยรายใหม่ 171 คน แยกเป็น การค้นหาเชิงรุก เพิ่มขึ้น 65 คน เป็นคนไทย 34 คน ต่างชาติ 31 คน ในจังหวัด 71 คน แบ่งเป็นคนไทย 41 คน ต่างชาติ 26 คน นอกจังหวัด 35 คน แบ่งเป็นคนไทย 26 คน ต่างชาติ 9 คน
        ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 22,399 คน รักษาหายกลับบ้าน เพิ่มอีก 32 คน ทำให้ยอดสะสมที่รักษาหายแล้ว เป็น 20,631 คน เสียชีวิตสะสม 36 ราย
    ที่จังหวัดนครปฐม พบผู้ป่วยรายใหม่ 127 ราย สัญชาติไทย 96 ราย ต่างชาติ 31 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,878 ราย (เป็นระลอกเมษายน 2,705 ราย) รักษาอยู่ 1,377 รายรักษาหายแล้ว 1,504 ราย เสียชีวิตสะสม 37 ราย
       นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 495 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 455 ราย อำเภอเมืองสมุทรปราการ จำนวน 345 ราย, อำเภอพระประแดง จำนวน 27 ราย, อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 18 ราย, อำเภอบางพลี จำนวน 35 ราย, อำเภอบางบ่อ จำนวน 6 ราย, อำเภอบางเสาธง จำนวน 24 ราย   โรงพยาบาลเอกชนรับมารักษาต่อในสมุทรปราการจำนวน 40 ราย เสียชีวิต 3  ราย 
    ด้านนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่า จ.สงขลา ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 82 ราย จากกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน รอการสอบสวนโรค สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ซึ่งค้นหาเชิงรุกในชุมชน สัมผัสร่วมบ้านผู้ติดเชื้อในโรงงาน สัมผัสผู้ติดเชื้อในร้านค้าและห้างและคลัสเตอร์ใหม่จากร่วมงานแต่ง จ.ปัตตานี พบผู้ติดเชื้อแล้วจำนวนหนึ่ง ยอดสะสม 3,153 ราย เสียชีวิต 14 ราย รักษาหายกว่า 2,000 คน ผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาลกว่า 800 คน 
ติดเชื้อจากยะลาไปกระบี่
    ผวจ.สงขลาเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปคัดกรองเชิงรุกพนักงานบริษัท สงขลาแคนนิ่งฯ ในพื้นที่ อ.สทิงพระ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงอีกกลุ่มหนึ่งที่หวั่นวิตกว่าจะเกิดการแพร่ระบาดลงสู่ครอบครัวและชุมชน และยังปิดชุมชนป้อม 6 อ.หาดใหญ่ และชุมชนเก้าเส้ง อ.เมืองเข้มข้น และกรรมการโรคติดต่อกำลังประเมินตลาดศรีภูพลาซ่าหลังห้างไดอาน่าว่ามีความเสี่ยงสูงหรือไม่ หากพบว่ายังมีปัญหาจะมีการปิดตลาด 
    ที่จังหวัดกระบี่ พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการให้ทุกอำเภอเร่งขยายผลและสำรวจบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดยะลา ที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ หลังพบมีบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดยะลาแล้วเข้ามาอยู่ในพื้นที่อำเภอคลองท่อมติดเชื้อป่วยไวรัสโควิด 18 แล้วจำนวน 4 คน 
    โดยกำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งตรวจสอบแล้วรายงานให้อำเภอทราบภายในวันที่ 19 มิ.ย.64 ก่อนเวลา 16.00 น. ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าหมู่บ้านไหนมีบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดยะลาและเข้ามาอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านแล้วไม่รายงานให้อำเภอทราบ ถือว่าเป็นความบกพร่องของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านดังกล่าว และหากบุคคลดังกล่าวนำเชื้อโรคโควิด-19 มาแพร่ระบาดในพื้นที่ จะมีการดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด
    ขณะที่เทศบาลตำบลห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม ได้แจ้งประกาศปิดให้บริการน้ำพุร้อนเค็มเป็นการชั่วคราว เนื่องจากได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลกระบี่ว่าพบผู้สัมผัสโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงในพื้นที่ ต.ห้วยน้ำขาว จากการสืบสวนโรคพบว่าผู้สัมผัสเสี่ยงสูงดังกล่าว เดินทางมาใช้บริการน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 19.00 น. เพื่อความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการน้ำผุร้อนเค็มคลองท่อม ทางเทศบาลตำบลห้วยน้ำขาวจึงขอประกาศปิดให้บริการน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อมไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อจุดสัมผัสต่างๆ ในแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนเค็ม และจะประกาศวันเปิดบริการให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการลงตรวจสายพันธุ์ในผู้ป่วยโควิดจากนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนาในศูนย์มัรกัส จ.ยะลา พบว่าเป็นสายพันธุ์แอฟริกา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 8 คน หนีกลับบ้าน 4 คน เข้ามาพักในพื้นที่ ม.8 ต.ห้วยน้ำขาว
    นพ.สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสตูล เพิ่มขึ้นจำนวน 33 ราย เป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนตะห์ฟีซุลกุรอานมัรกัสยะลา จังหวัดยะลา ที่เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดสตูล และอยู่ในสถานที่กักตัวที่ LQ จังหวัดสตูลทั้งหมด ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 33 ราย เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 13-25 ปี เป็นนักเรียน มีภูมิลำเนาในพื้นที่อำเภอเมืองฯ จำนวน 18 ราย, อำเภอควนโดน จำนวน 7 ราย, อำเภอละงู จำนวน 2 ราย,   อำเภอทุ่งหว้า จำนวน 5 ราย และอำเภอมะนัง จำนวน 1 ราย ผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการส่งต่อที่โรงพยาบาลสนาม และอยู่ในความดูแลเฝ้าสังเกตอาการโดยบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด
    สำหรับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนตะห์ฟีซุลกุรอานมัรกัสยะลา จังหวัดยะลา เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดสตูล
จำนวน 51 คน ได้กักตัวในสถานที่ที่จังหวัดจัดให้ทั้งหมด และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วจำนวน 50 คน รอส่งตรวจ จำนวน 1 คน ผลการตรวจยืนยันติดเชื้อ จำนวน 4 ราย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.64 และวันที่ 19 มิ.ย.64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกจำนวน 3 คน รวมคลัสเตอร์นี้พบเชื้อกลุ่มนักเรียนทั้งสิ้นจำนวน 37 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อจำนวน 11 คน รอผลการตรวจ 2 คน
    วันเดียวกันนี้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานว่า ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิ.ย.2564 เวลา 16.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 435 ราย รักษาหายวันนี้ 1,228 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,350 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต 
    นายอายุตม์กล่าวว่า การตรวจพบเชื้อระหว่างกักโรคในผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่เป็นการติดเชื้อมาจากภายนอกนั้น แสดงให้เห็นถึงมาตรการกักกันโรคในเรือนจำและทัณฑสถาน ว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถสกัดกั้นเชื้อก่อนเข้าพื้นที่เรือนจำและทัณฑสถานชั้นในได้เป็นอย่างดี ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อภายในเรือนจำและทัณฑสถานต่อจากนี้ จะเริ่มมีตัวเลขของผู้ที่รักษาหายเพิ่มมากขึ้น โดยเทียบจากจำนวนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ที่มีกว่า 90% ของผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาทั้งหมด และภายในเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าจะมีเรือนจำสีแดงจำนวน 5 แห่ง ที่ผู้ติดเชื้อทั้งหมดจะได้รับการรักษาหาย หากไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม คือ ทัณฑสถานหญิงกลาง, เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, เรือนจำพิเศษธนบุรี,  เรือนจำจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่คาดว่าจะหายทั้งหมดได้ในเร็วๆ นี้.