19 มิ.ย.64 - นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยพญาเสือ เปิดเผยว่า ตามนโยบาย/ข้อสั่งการของดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้ตรวจสอบเหตุร้องเรียนมีผู้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ค ที่ปางช้างเผือก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ช้าง3เชือกมีโซ่มัดคอล่ามไว้ เป็นการทรมานช้าง ขอให้เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบโดยด่วน

ทั้งนี้ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการ ด้านการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ พญาเสือ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข จนท.หน่วยพญาเสือ/หน.อุทยานฯพุเตย นายอรรถพล  เภาอ่อน จนท.หน่วยพญาเสือ/หน.วนอุทยานฯชะอำ/ ผช.หน.อุทยานฯแก่งกระจาน น.ส.เนตรนภา งามเนตร จนท.หน่วยพญาเสือ / หน.วนอุทยานฯเขานางพันธุรัตน์ / ผช.หน.อุทยานฯแก่งกระจาน พร้อมกำลัง จนท.หน่วยพญาเสือ จนท.ส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม จนท. ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.3 (บ้านโป่ง) จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ดำเนินสะดวก จนท.ปศุสัตว์ อ.ดำเนินสะดวก จนท.กองสวัสดิภาพสัตว์ และสัตวแพทย์บริการ กรมปศุสัตว์ เดินทางเข้าตรวจสอบสถานที่ ตามการร้องเรียนว่า มีการทรมานช้าง  

เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ เดินทางไปถึงปางช้างเผือก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี  พบนายถาวร ปานแก้ว ผู้จัดการบริษัท ปางช้างเผือก จำกัด เป็นผู้นำตรวจสอบและให้ถ้อยคำ คณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบช้างบ้านทั้งหมด ในปางช้างเผือก มีจำนวนทั้งหมด 13 เชือก ตรวจสอบสำเนาเอกสารตั๋วรูปพรรณ 12 เชือก เกิดใหม่ 1 เชือก เป็นช้างเพศผู้ 5 เชือก เพศเมีย 8 เชือก ช้างทุกเชือกมีสุขสภาพโดยรวมปกติ โดยช้างตัวที่ปรากฏในภาพร้องเรียน มี3เชือก คือ พลายคำแก้ว พลายทองพูน และพลายบุญมี ตรวจสอบบริเวณคอไม่มีบาดแผล สุขภาพทั้ง 3 ตัว นายสัตว์แพทย์ประเมินค่า Body condition score (BCS) โดยมีค่าความสมบูรณ์ของร่างกาย พลายคำแก้ว BCS=3 พลายทองพูน BCS=2.5 และพลายบุญมี BCS=2.5 

คณะเจ้าหน้าที่ได้สอบถาม ถึงเหตุการณ์ตามภาพถ่ายที่มีการล่ามโซ่คอช้าง โดยนายถาวรฯ ให้ถ้อยคำว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงต้นเดือน ปางช้างมีจำนวนควาญช้างไม่เพียงพอ ขณะเกิดเหตุควาญช้างไปหาอาหารมาให้ช้าง ที่โรงช้างไม่มีคนอยู่ เกรงว่าช้างจะหลุดไปทำอันตรายนักท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องล่ามคอไว้เพื่อป้องกันเหตุร้าย ปัจจุบันทางบริษัทได้จ้างควาญ ดูแลผลัดเปลี่ยนกัน ไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ล่ามคอข้างอีก ส่วนผู้ร้องเรียน ก็ได้ชี้แจงทำความเข้าใจจนพอใจ และได้แก้ไขโพสต์ดังกล่าวแล้ว

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ พิจารณาแล้วเห็นว่า การล่ามโซ่คอช้างดังกล่าวขัดกับหลักการจัดสวัสดิภาพสัตว์ แต่เกิดจากเหตุสุดวิสัย จำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันเหตุร้าย และเมื่อเจ้าของทราบก็ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว หากมีเหตุการณ์เกิดซ้ำอีก พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผจก.ปางช้าง ผู้นำตรวจรับทราบและยินดีปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึก และร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน