ผบ.ทสส.ย้อน "ศรีสุวรรณ" ดูหนังมากไปไหมใช้ดาวเทียมจารกรรมข้อมูล แจงโครงการมีตั้งแต่สมัย "บิ๊กจิ๋ว" ยันมีประโยชน์ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจและวิจัย โฆษก กห.โต้อย่ามโนและบิดเบือน ระบุเป็นเพียงการศึกษา หลังรัฐหมดสัญญาเช่าเอกชนปี 64 จึงเตรียมการรองรับเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันทุกส่วนราชการ
    ที่กองทัพไทย วันที่ 4 มิถุนายน พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ คัดค้านการเตรียมจัดซื้อดาวเทียมของกระทรวงกลาโหม มูลค่า 91,200 ล้านบาท โดยอ้างว่ากระทบสิทธิและเป็นการจารกรรมว่า คงไม่ไปถึงขั้นนั้น ในเรื่องของดาวเทียมมีประโยชน์สำหรับประเทศชาติทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ การวิจัยต่างๆ ทั้งนี้ดาวเทียมดวงเก่าก็กำลังจะหมดอายุ อย่างไรก็ตามเรามีโครงการเรื่องดาวเทียมมานานแล้วกว่า 10 ปี ตั้งแต่สมัย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และมีการพัฒนาขึ้นมาตามลำดับ ในนามของศูนย์อากาศ กระทรวงกลาโหม ซึ่งเรามีแนวคิดทำข้อพิจารณาถึงความเหมาะสมที่จะมีดาวเทียมเป็นของตัวเอง โดยการร่วมทุนกับภาคเอกชนไม่ใช่ของทางทหารเพียงอย่างเดียว
    "ยืนยันว่าจำเป็นจะต้องมีดาวเทียม ในสถานการณ์และความพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี สังคมโลกเปลี่ยนไปเยอะมาก เราก็จะต้องมีเพื่อให้เกิดความทันสมัย มีประโยชน์ใช้งานได้จริง ส่วนที่มีความกังวลว่าเอาไปจารกรรมหรือสอดแนมข้อมูลนั้น ยืนยันว่าไปไม่ถึงขั้นนั้น เพราะทุกระบบมีทั้งระบบป้องกันและระบบใช้ประโยชน์ สิ่งเหล่านี้มีข้อจำกัดอยู่ในตัว ไม่ใช่ว่าสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง"
    ผบ.ทสส.กล่าวว่า ส่วนความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับต่างชาตินั้น ซึ่งปกติแล้วดาวเทียมเราต้องไปเช่าสัญญาจากบริษัทเอกชนหรือต่างชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะมาปรับใหม่โดยที่ไม่ต้องเช่า เพียงแต่เรามาลงทุนร่วมกัน ซึ่งตรงนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ยังไม่ได้มีอะไรเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามขณะนี้กองทัพอากาศได้ดำเนินการวิจัยพัฒนาไปไกลพอสมควรแล้ว
    เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณระบุจะใช้เงินถึง 2 พันล้านในการเช่าดาวเทียม พล.อ.ธารไชยยันต์ กล่าวว่า ไม่เลย ใช้ฟรีหมด สิ่งที่เราทำขึ้นมาก็จะได้ในเรื่องของการประหยัดงบประมาณ เป็นการลงทุนร่วมกันกับเอกชน
    "เราทำเอง ใช้เอง เทียบกับเมื่อก่อนที่เราไปเช่ามา ก็ไม่ต่างกัน เรื่องการจารกรรมเกินไป ดูหนังมากไปหรือไม่ เป็นเรื่องยากมากที่จะไปจารกรรมข้อมูล อย่างที่นายศรีสุวรรณยกตัวอย่าง กดเบอร์โทรศัพท์สามารถดูได้หมด โอ้โห แบบนั้นต้องระดับมีพลังอำนาจด้านการเงินและเทคโนโลยีที่สูงมาก มีทั้งบุคลากร ศูนย์จัดตั้งที่ใหญ่มาก ของเราไปไม่ถึงระดับนั้น" พล.อ.ธารไชยยันต์กล่าว
    พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมยืนยันอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดดาวเทียมดวงใหม่ เนื่องจากปัจจุบันภาครัฐใช้ดาวเทียมของภาคเอกชน และเมื่อภาคเอกชนจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2564 จึงมีแนวคิดว่ารัฐบาลควรเตรียมการเรื่องดาวเทียมเพื่อรองรับหรือไม่ เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันในทุกส่วนราชการ ทั้งเรื่องของการถ่ายภาพ การสื่อสาร และเฝ้าระวังอวกาศ 
    "ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่รอบรู้ไปทุกเรื่องออกมาพูดอะไรต้องระวังกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการบิดเบือนข้อมูลที่อาจสร้างความเข้าใจผิด หรือส่งผลกระทบต่อความเสียหายของรัฐ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมยืนยันยังไม่มีแนวคิดจัดทำดาวเทียมทหาร หรือดาวเทียมจารกรรมตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุ ดังนั้นอย่ามโนและบิดเบือนเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเชื่อมโยงไปทางที่จะละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและใช้งบประมาณจำนวนมาก"
     พล.ท.คงชีพกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมยืนยันว่าไม่ได้ออกมาตอบโต้ แต่ต้องการให้ข้อเท็จจริงแก่ประชาชน และขอให้เชื่อมั่นในข้อเท็จจริงของภาครัฐ ขอประชาชนอย่าเชื่อคำมโน.