ตามโผ! พปชร.ปรับโครงสร้างใหม่ "ประวิตร" ลาออกจากหัวหน้าก่อนที่สมาชิกเลือกเข้ามานั่งหัวหน้าพรรคอีกรอบ "ไพบูลย์" ชง "ธรรมนัส" นั่งเลขาฯ พรรค เสียงโหวตท่วมท้น "สามมิตร" ดัน "อนุชา" สู้ก่อนขอถอนตัวเปิดทางคนรุ่นใหม่ เคาะ กก.บห.ชุดใหม่ 26 คน ด้านเลขาฯ คนใหม่ประกาศทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจเป็นพรรอันดับหนึ่งแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง รักษาไว้ซึ่งสถาบัน
การประชุมใหญ่สามัญประจำปี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน ผลการประชุมปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอีกรอบ ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ ตามโผ
โดยช่วงเช้า เวลา 08.40 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพปชร. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่พรรค โดยระบุถึงความชัดเจนที่จะมีการเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค ว่ามีความใกล้เคียง ขอให้รอการประชุมอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งคิดว่าใช้เวลา 2-3 ชม.ก็เรียบร้อย
เมื่อถามว่าจะมีการเสนอชื่อเพียงชื่อเดียวใช่หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ก็ทำนองนั้น ส่วนก่อนการเสนอชื่อได้มีการหารือกับกลุ่มต่างๆ ของพรรคหรือไม่ นายวิรัชบอกว่า เมื่อสักครู่ก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะเป็นคนเก่าหรือว่าที่คนใหม่ ทุกอย่างอยู่พร้อมกันหมด
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะถูกเสนอชื่อให้เป็นเลขาธิการพรรคว่า ต้องดูว่าสมาชิกจะเสนอชื่อใครบ้าง ส่วนจะเสนอคนเดียวหรือไม่ ตนไม่มั่นใจ แต่ชื่อหัวหน้าพรรคจะเสนอคนเดียวอยู่แล้ว ขอเรียนว่าตนกับนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน เป็นพี่น้องกัน ก็คุยกันมาโดยตลอด เมื่อกี้ก็เพิ่งรับประทานอาหารด้วยกัน ขอยืนยันว่าเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ และหลังจากวันนี้เราก็จะกำหนดทิศทางและนโยบายเพื่อให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่มีความเข้มแข็งต่อไป และจะลบภาพพรรคเฉพาะกิจออกไปด้วย
ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย ในฐานะเลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ความรู้สึกกับกระแสข่าวไม่ได้เป็นเลขาฯ พรรคว่า ก็ไม่ได้เป็นอย่างไร แล้วแต่สมาชิก แล้วแต่หัวหน้าพรรค ทุกอย่างลงตัวทั้งหมดไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไรภายในพรรค รวมถึงไม่มีปัญหาภายในพรรค ทั้งนี้ตนไม่ได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค เพราะพรรคต้องเดินต่อ ไม่มีข้อขัดแย้งขอให้มั่นใจได้
เมื่อถามว่า หากผลประชุมพรรคออกมาในวันนี้จะรับได้ใช่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องรับได้หรือไม่ได้ เพราะพรรคต้องเดินต่อไป ขอยืนยันไม่มีปัญหาอย่างอื่น ความขัดแย้งไม่มี เรื่องนี้มันไม่มีอะไร เพราะความเป็นพรรคสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อการเดินไปข้างหน้า ไม่ยึดติดอะไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เรามีคนรุ่นใหม่ มีบุคลากรมากมายที่จะเข้ามาทำงานในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง แต่เหนืออื่นใดก็ไม่ต้องห่วง เพราะหัวหน้าพรรคเอาอยู่อยู่แล้ว บารมีของหัวหน้า พรรคจะนำพาองคาพยพเดินไปข้างหน้าได้
สมาชิก พปชร.ประชุมคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการประชุมใหญ่ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาแกนนำพรรคทุกกลุ่มเดินทางเข้ามาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ประมาณหลาย 100 คน สำหรับสถานที่จัดประชุม ได้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามที่ศบค.กำหนด ภายในงานได้มีการแจกเสื้อยืดคอกลมสีขาว-น้ำเงิน สกรีนโลโก้พรรคที่อกด้านซ้าย พร้อมกับแจกหนังสือ “พลังประชารัฐรวมใจ รวมไทยเป็นหนึ่งเดียว” ความหนา 40 หน้า เนื้อหาด้านในแสดงประวัติพรรค รายชื่อส.ส. 122 คน คณะรัฐมนตรี 12 คน แจกเป็นที่ระลึก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุม โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม เมื่อที่ประชุมได้รายงานผลดำเนินการประจำปีและงบดุลของพรรค ซึ่งเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้วาระอื่นๆ โดยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค ได้แจ้งที่ประชุมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคมีหนังสือแจ้งถึงกรรมการบริหารพรรคว่ามีความประสงค์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.64 เป็นต้นไป และตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 15 กำหนดว่าเมื่อหัวหน้าพรรคลาออกให้ กก.บห.พ้นจากตำแหน่งไปด้วยทั้งหมด แล้วแต่งตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่ขึ้นมาแทน
จากนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ได้แจ้งในที่ประชุมว่า เมื่อหัวหน้าพรรคลาออก ต้องดำเนินการเลือกใหม่ในที่ประชุมใหญ่พรรคด้วยวิธีการลงคะแนนลับ และได้เสนอที่ประชุมถึงสัดส่วนกรรมการบริหาร จำนวน 26 คน ก่อนจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง โดยไม่มีใครเสนอชื่อคนอื่นแข่ง จากนั้นสมาชิกได้ลงคะแนนลับ ซึ่งปรับวิธีการจากเดิมให้สมาชิกเดินไปหย่อนบัตรนั้น ก็ให้สมาชิกนั่งที่โต๊ะ แล้วมีเจ้าหน้าที่พรรคนำหีบลงคะแนนมาให้สมาชิกหย่อน เพื่อรักษาระยะห่าง และถือเป็นการลงคะแนนแบบลับแล้ว
นายไพบูลย์ยังได้เสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย ได้เสนอชื่อนายอนุชา นาคาศัย ชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคด้วย แต่นายอนุชาได้ลุกขึ้นแจ้งที่ประชุมขอถอนตัว เนื่องจากได้ทำหน้าที่เลขาธิการพรรคมาปีกว่าแล้ว และขอเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงาน
จากนั้นได้ให้สมาชิกในที่ประชุมได้ทำการเลือกตั้ง ซึ่งผลปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่ออีกสมัย ด้วยคะแนน 582 คะแนน และมีบัตรเสีย 12 คะแนน, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ด้วยคะแนน 556 คะแนน บัตรเสีย 14 คะแนน และไม่ลงคะแนน 23 คะแนน, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิก และนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค
หลังจากนั้นประธานการประชุมได้ขอมติที่ประชุมในการปรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จาก 27 คนเป็น 26 คน และได้มีการเสนอชื่อเป็นกก.บห.และลงคะแนนเลือกตั้ง ผลปรากฏว่าในส่วนของ กก.บห. จำนวน 22 คน ประกอบด้วย 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 2.นายวิรัช รัตนเศรษฐ 3.นายไพบูลย์ นิติตะวัน 4.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 5.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 6.อนุชา นาคาศัย 7.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 8.นายสุพล ฟองงาม 9.นายนิโรธ สุนทรเลขา 10.นายไผ่ ลิกค์ 11.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ 12.นางประภาพร อัศวเหม 13.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 14.นายอิทธิพล คุณปลื้ม 15.นายสุชาติ ชมกลิ่น 16.นายยงยุทธ สุวรรณบุตร 17.นายสุชาติ อุสาหะ 18.นายรงค์ บุญสวยขวัญ 19.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร 20.นายสุรสิทธิ์ นิธิวรลักษณ์ 21.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร และ 22.นายสมเกียรติ วอนเพียร
สำหรับคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง 11 คน ประกอบด้วยผู้ที่มาจาก กก.บห. 4 คน ได้แก่ 1.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 438 คะแนน 2.นายยงยุทธ สุวรรณบุตร 419 คะแนน 3.นายจักรพันธ์ พรนิมิต 424 คะแนน 4.นายรงค์ บุญสวยขวัญ 424 คะแนน ผู้ที่มาจากสมาชิกพรรค 7 คน ได้แก่ 1.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง 434 คะแนน 2.นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ 437 คะแนน 3.นายจีรเดช ศรีวิราช 424 คะแนน 4.นายสิระ เจนจาคะ 418 คะแนน 5.นายสมศักดิ์ คุณเงิน 431 คะแนน 6.พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ 430 คะแนน 7.นายวันชัย ปริญญาศิริ 423 คะแนน
จากนั้นนายวิรัชได้แจ้งในที่ประชุม ว่า เพื่อให้การแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคทั้งหมดอยู่ในบันทึกการประชุมครั้งนี้ พล.อ.ประวิตรใช้อำนาจหัวหน้าพรรคในการแต่งตั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์, นายวิรัช รัตนเศรษฐ, นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เป็นรองหัวหน้าพรรค และจากนั้นนายวิรัชได้กล่าวปิดประชุม
"ธรรมนัส"ลั่นพร้อมเลือกตั้ง
ภายหลังการเลือกตั้ง กก.บห.ในส่วนต่างๆ แล้วเสร็จ ร.อ.ธรรมนัสพร้อมคณะ กก.บห.ชุดใหม่ได้ออกมาแถลงข่าวรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า หลังจากวันนี้จะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อกำหนดทิศทางเตรียมการสู่การเลือกตั้งในครั้งต่อไป ซึ่งที่อาจจะเป็นหนึ่ง 1-2 ปีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ วันนี้มี พล.อ.ประวิตรและหัวหน้าพรรค พปชร. และจะมีรองหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คน จะร่วมกันทำงานเพื่อกำหนดนโยบายของพรรค ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ต้องกำหนดทิศทางให้ชัดเจน ที่ผ่านมาพรรคเราถูกมองว่าแตกแยก แต่หลังจากนี้จะไม่มี เราจะไปด้วยกัน ทำงานเพื่อประชาชน ชาติบ้านเมือง รักษาไว้ซึ่งสถาบัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การขับเคลื่อนงานจะมีอะไรใหม่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ที่ผ่านมา 2 ปี นโยบายพรรคเราดีอยู่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายพรรคไม่ต่อเนื่อง จากนี้เราจะกำหนดให้ชัดเจน เพื่อเดินไปข้างหน้า ส่วนที่มีข้อสงสัยว่ากรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่มีตัวแทนจากกลุ่มสามมิตร ต้องชี้แจงว่าคณะกรรมการดังกล่าวจัดทัพจากโควตาภาคเป็นหลัก
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวเรื่องตำแหน่งในพรรคและในคณะรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การจะเดินไปข้างหน้าจะต้องปรึกษาหัวหน้าพรรค และเดินไปด้วยกัน ฉะนั้นเรื่องที่จะเกิดปัญหาเหมือนที่ในอดีต ตนมั่นใจว่าคณะกรรมการบริหารชุดใหม่จะไม่มีอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้าคิดว่าจะชนะหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมเราไม่เคยแพ้ และคิดว่าการเลือกตั้งซ่อมหรือการเลือกตั้งในอนาคตมั่นใจว่าหัวหน้าพรรคและสมาชิกสามารถเดิน ไปข้างหน้า และจะเป็นพรรคใหญ่ที่มั่นคง จะเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้ เมื่อถามย้ำว่าตำแหน่งเลขาธิการพรรคส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ปั้นนายกฯ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราเป็นพรรคใหญ่ มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.มากกว่านี้ และจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ต่อไป ส่วน พล.อ.ประวิตร มอบนโยบายเน้นให้เป็นหนึ่งเดียวกันและเดินไปข้างหน้า และที่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการแถลงข่าว สมาชิกพรรคจำนวนหนึ่งมอบกระเช้าดอกไม้และผูกผ้าขาวม้าแสดงความยินดีกับ ร.อ.ธรรมนัสอย่างชื่นมื่น และก่อนเดินทางกลับมีหญิงกลางคนมาร้องเรียนเพื่อขอให้ช่วยเหลือเนื่องจากไม่มีทุนประกอบอาชีพ โดยร.อ.ธรรมนัสได้ให้ผู้ติดตามมอบเงินจำนวนหนึ่ง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความยินดีกับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ขอแสดงความรู้สึกว่าการทำงานพรรคการเมืองหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ต้องเข้าขากัน และไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อที่จะนำพาพรรคไปได้ด้วยดี เชื่อว่าการที่หัวหน้าพรรคและเลขาฯ สนิทสนมกันมากๆ ก็จะทำให้งานบ้างส่วนที่อยากจะทำเดินไปได้ด้วยดี ก็ไม่มีอะไรมากมาย ซึ่งตนก็จะให้ความร่วมมือและทำงานตามแนวทางของพรรค
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องเสียดุลอำนาจในพรรค พปชร. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่ได้เสียดุลอำนาจอะไรไปเราก็มีปากมีเสียง มีแนวทางในการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะหัวหน้าพรรคฟังทุกคนและรักอยู่แล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคตัดสินใจปรับเปลี่ยนแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค เพราะเราให้ความไว้วางใจกับหัวหน้าพรรค หัวหน้าพรรคก็ต้องขับเคลื่อนไปด้วยความตั้งใจ ซึ่งเรายอมรับและยินดีที่จะทำให้หัวหน้าพรรคประสบความสำเร็จ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นที่รู้จักของสมาชิกพรรคอยู่แล้ว มีบทบาทในพรรคมาตลอดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรค ดังนั้นแนวทางทำงานคงไม่เปลี่ยนแปลงอะไร คงมีแนวทางเหมือนเดิม เพราะถือว่าเป็นคีย์แมนของพรรคอยู่แล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |