ไฟเขียวนั่งกินถึง5ทุ่ม 21มิ.ย.คลายล็อก5โซนสีใหม่/บิ๊กตู่ลงพื้นที่คิกออฟภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์


เพิ่มเพื่อน    

  ศบค.ไฟเขียวแบ่ง 5 โซนคลายล็อกเริ่ม 21 มิ.ย. ยังปิดสถานบันเทิง พื้นที่สีแดงเข้มนั่งทานในร้านอาหารได้ถึง 5 ทุ่ม แต่ห้ามขายเหล้า อนุญาตถ่ายหนัง-รายการทีวี ผู้ประกาศไม่สวมแมสก์ได้ เคาะ 1 ก.ค.ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นำร่องเปิดประเทศภายใต้เงื่อนไข สธ. 3 ข้อ "บิ๊กตู่" ลงพื้นที่คิกออฟเอง

    เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม ศบค.ได้มีการปรับระดับของพื้นที่ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ, พื้นที่ควบคุมสูงสุด 11 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง นครปฐม ปัตตานี เพชรบุรี สงขลา สมุทรสาคร สระบุรี ยะลา นราธิวาส, พื้นที่ควบคุม 9 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา ระนอง ระยอง ราชบุรี สระแก้ว สมุทรสงคราม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 53 จังหวัด
    นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการตามระดับของพื้นที่ ดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน บริโภคอาหารในร้านได้ กรณีมีเครื่องปรับอากาศนั่งได้ไม่เกิน 50% เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. แต่ยังงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ยังปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ตามปกติไม่เกิน 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนคนและงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ปิดสถานที่เล่นกีฬาและแข่งขันกีฬา ยกเว้นสถานที่เล่นกีฬากลางแจ้งหรืออากาศถ่ายเทได้ดี โดยให้เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. และแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม             
    สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน บริโภคอาหารในร้านได้ แต่เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. และยังงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ยังปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ตามปกติ โดยจำกัดจำนวนคนและงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ส่วนสถานที่เล่นกีฬาและแข่งขันกีฬาเปิดให้บริการได้ทุกประเภทไม่เกิน 21.00 น. โดยจำกัดผู้ชม
    พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 150 คน บริโภคอาหารในร้านได้ตามปกติ แต่ยังงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ยังปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ตามปกติ ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากตามมาตรการที่กำหนด ส่วนสถานที่เล่นกีฬาและแข่งขันกีฬาเปิดให้บริการได้ทุกประเภท โดยจำกัดผู้ชม             
    พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน บริโภคอาหารในร้านได้ตามปกติ แต่ยังปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ตามปกติ ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากตามมาตรการที่กำหนด ส่วนสถานที่เล่นกีฬาและแข่งขันกีฬาเปิดให้บริการได้ทุกประเภท โดยจำกัดผู้ชม
ศบค.คลายล็อก 21 มิ.ย.
    พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน บริโภคอาหารในร้านได้ตามปกติ แต่ยังปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ตามปกติ ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากตามมาตรการที่กำหนด ส่วนสถานที่เล่นกีฬาและแข่งขันกีฬาเปิดให้บริการได้ทุกประเภท ทั้งนี้ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 21 มิ.ย. โดยจะมีข้อกำหนดออกมาในราชกิจจานุเบกษา             
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาแนวทางการดำเนินการของสถานที่กักกัน ซึ่งทางราชการกำหนดในวันที่ 1 ก.ค.64 โดยให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางอากาศเข้ารับการกักตัวในสถานที่กักตัวทางเลือก หรือ Alternative State Quarantine (AQ) ซึ่งรัฐจะสนับสนุนค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 เฉพาะผู้มีสัญชาติไทย ในส่วนของสถานกักกันในรูปแบบเฉพาะองค์กร หรือ Organizational Quarantine (OQ) จะใช้รองรับคนไทยใน 2 กรณีคือ กรณีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากทำงานในต่างประเทศตามแนวทางที่กระทรวงแรงงานกำหนด และกรณีผู้มีสัญชาติไทยที่ประสบปัญหาตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศและประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย หรือกลุ่มเปราะบาง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการต่างประเทศกำหนด อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้ามาทางบกให้เข้ารับการกักกันตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ State Quarantine (SQ) ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาทางน้ำให้ผู้ที่สัญชาติไทยเข้ารับการกักตัวใน AQ โดยบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักกันตัวเอง  
    นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการผ่อนคลายมาตรการการถ่ายทำภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ โดยให้ผู้เข้าร่วมถ่ายทำไม่เกิน 50 คน จะต้องมีการบริหารจัดการความหนาแน่นของพื้นที่ในขณะถ่ายทำอย่างน้อย 4 ตารางเมตรต่อคน ให้ยกเว้นผู้ที่ไม่ต้องสวมใส่หน้ากากบางช่วงเวลา ได้แก่ รายการละคร เฉพาะนักแสดงที่เข้าฉาก รายการประกวดร้องเพลงอนุญาตเฉพาะผู้เข้าร่วมประกวดที่มีการจัดพื้นที่ไว้เฉพาะ รายการเกมโชว์อนุญาตเฉพาะผู้ร่วมรายการคราวละ 1 คน ผู้ประกาศที่จะต้องมีฉากกั้นและเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร หรือตามความเหมาะสม รวมทั้งที่ประชุมยังเห็นชอบกับข้อเสนอเพื่อพิจารณาปรับวิธีการกักตัวของลูกเรือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรณีได้รับวัคซีนครบตามกำหนดแล้วอย่างน้อย 14 วัน
    สำหรับเรื่องการเปิดพื้นที่นำร่องรับการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) โดยเน้นหนักที่ จ.ภูเก็ต เนื่องจากมีความพร้อมมากกว่า นายกฯ ได้เน้นย้ำว่าให้จัดสมดุลการป้องกันคนไทยเรื่องการติดเชื้อโควิด-19 ไปพร้อมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดย รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นผู้นำเสนอต่อที่ประชุมถึงหลักการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี โดยมีรายละเอียดตั้งแต่ก่อนเดินทาง เมื่อเดินทางมาถึง ขณะพำนัก กระทั่งเดินทางออกจากประเทศ โดยกลุ่มคนที่เราจะรับเข้ามาจะต้องมาจากประเทศที่ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดว่าเป็นประเทศเสี่ยงต่ำ หรือเสี่ยงปานกลาง และจะต้องได้รับวัคซีนมาแล้ว ซึ่งกำหนดว่าเป็นวัคซีนที่ สธ. โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นผู้กำหนด 5 ตัว ได้แก่ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนฟาร์ม โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หรือถ้าไฟเซอร์ หรือยี่ห้ออื่นๆ รอให้ WHO รองรับด้วย ดังนั้นต้องได้รับมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม หรืออย่างน้อย 14 วัน เมื่อลงเครื่องบินแล้วต้องพำนักอยู่ที่ภูเก็ต 14 คืน ถ้าอยู่น้อยกว่านั้นจะต้องเป็นการเดินทางกลับออกนอกราชอาณาจักรไทยเท่านั้น
    ขณะที่ สธ.มีข้อห่วงใยจึงขอให้มีมาตรฐานกำกับเพิ่มอีก 3 ข้อคือ 1.ต้องมีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการเรื่องสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้มีการติดตามข้อมูล การติดเชื้อ การดูแลทรัพยากร บุคลากรด้านสาธารณสุขและด้านการท่องเที่ยว รวมไปถึงภาคประชาสังคม 2.การเตรียมความพร้อมของประชาชน โดยต้องมีการจัดเวทีความคิดเพื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการสื่อสาร เพราะหากสอดคล้องกันทั้งจังหวัดจะเป็นเรื่องที่ดี ก่อนที่จะนำเสนอมาเป็นแนวทางในภาพรวมของจังหวัด และนำเสนอให้ ศบค.อนุมัติ และ 3.การเตรียมความพร้อมมาตรการการเฝ้าระวังซึ่งจะต้องมีอยู่ตลอดเวลา  
บิ๊กตู่คิกออฟภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
    "และเมื่อมีเปิดได้ก็ต้องมีปิดได้ นี่คือสิ่งที่จะต้องพูดกัน โดยมีการพิจารณาว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจึงจะมีการปิด ซึ่งมีการพูดถึงการติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ ลักษณะการกระจายโรคในจังหวัด ทั้ง 3 อำเภอมากกว่า 6 ตำบล และมีการระบาดเกินกว่า 3 คลัสเตอร์ มีการระบาดในวงกว้าง หรือหาสาเหตุของความเชื่อมโยงไม่ได้ หรือความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย อัตราการครองเตียงมีมากตั้งแต่ 80% ขึ้นไป แสดงว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี และเป็นการระบาดในวงกว้างที่ควบคุมไม่ได้ โดยมาตรการจะต้องปรับลดกิจกรรมลง ทำให้เกิดระบบปิด และที่สุดคือทบทวนหรือยุติแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ตนี้ ถ้ามีการระบาดโดยที่ไม่ตรงตามที่วางหลักการไว้ เน้นย้ำว่าในวันนี้ยังอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) คงจะเป็นสเต็ปถัดไป ซึ่งในที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยว โดยนายกฯ ได้ระบุว่าจะเดินทางไปติดตามในวันที่ 1 ก.ค. เพื่อเยี่ยมชมและคิกออฟเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" นพ.ทวีศิลป์ระบุ
    โฆษก ศบค.กล่าวด้วยว่า หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเมื่อยังมีคนติดเชื้อเป็นพันคนอย่างนี้แล้วยังจะเปิดประเทศ ทำไมไม่มีความกังวลใจ ซึ่งไม่ใช่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียวที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ประเทศอื่นที่ติดเชื้ออันดับสูงกว่ามีการขยับและนำไปสู่การใช้ชีวิตวิถีใหม่หรือนิวนอร์มอลกันแล้ว ดังนั้น เราต้องเรียนรู้เพื่อที่จะกลับไปมีชีวิตแบบเดิม โดยทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการป้องกันโรค ลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด ตามที่นายกฯ บอกว่ามีความเสี่ยง ดังนั้น เราต้องร่วมด้วยช่วยกันเป็นการกำหนดทิศทางเป็นเป้าหมายไปข้างหน้า เป็นหน้าที่ของทุกคน เป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เป็นฟันเฟืองนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
    ทางด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวว่า เราควรจะดีใจที่วันนี้เรามีเป้าหมาย และรู้แล้วว่าช่วง 120 วัน พวกเราเตรียมตัวเตรียมใจสนับสนุน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ทำอย่างไรให้ประเทศเปิดได้ ไม่อยากให้พวกเราคิดว่าพอรัฐบาลประกาศปุ๊บ แล้วก็นั่งเฉยๆ เพื่อรอดูว่านายกฯ หรือรัฐบาลจะทำอะไร แล้วเราจะได้ประโยชน์จากตรงนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่ใช่ ซึ่งการควบคุมการระบาด ให้ปลอดภัย ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ตรงนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในระดับประชาชน
    "วันนี้เราจะรอดูจากผลพวงของการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยในวันที่ 25 มิ.ย. ผู้แทนของรัฐบาลจะลงไปเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ผมยังเชื่อมั่นในชาวจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ต รวมถึงทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ช่วยกันดูทุกด้านอย่างรอบคอบอยู่แล้ว ผมถึงได้ย้ำว่าอย่าไปเพียงตั้งข้อสงสัยแล้วรอให้ใครมาบอก แต่เราสามารถค้นหาติดตามได้ โดยสอบถามจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หรือหน่วยงานจากจังหวัดภูเก็ตก็ได้ว่า ได้เตรียมภาคสนามไว้อย่างไร มีความพร้อมแค่ไหน การควบคุมดูแลและตรวจการเป็นอย่างไร เพราะทันทีที่จังหวัดภูเก็ตได้รับทราบว่าเขาได้รับการสนับสนุน เขาก็ขยับตัวทันก่อนที่จะลงมือทำเพราะเห็นประโยชน์ ซึ่งเชื่อว่าเขาทำในฐานะประเทศไทย เพราะรู้ว่าการเปิดประเทศผ่านเมืองเขาเป็นเมืองแรก เป็นสิ่งที่อยากจะทำให้เกิดและอยากทำให้ดีด้วย ซึ่งประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ โดยผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมตามลำดับ เพื่อให้ประเทศประเทศทยอยทดสอบการเปิดประเทศผ่านช่องทางเล็กๆ ของเราคือภูเก็ต" รองนายกฯ ระบุ.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"