เสี่ยงไม่เข้าเรื่อง นักเคลื่อนไหวของกรีนพีซที่ขับไมโครไลต์ลงสนามฟุตบอลก่อนหน้าที่ทีมชาติเยอรมนีกับฝรั่งเศสจะเริ่มการแข่งขันยูโร 2020 เมื่อค่ำวันอังคาร รอดจากการโดนสไนเปอร์ของตำรวจยิงร่วงอย่างหวุดหวิด เพียงเพราะตำรวจเห็นโลโก้ของกรีนพีซเสียก่อน

นักเคลื่อนไหวกรีนพีซขับไมโครไลต์ลงสนามฟุตบอลขณะที่นักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังเตรียมพร้อมจะเขี่ยลูกเริ่มการแข่งขันยูโร 2020 ที่เมืองมิวนิกของเยอรมนี เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 (Photo by Marvin Ibo Guengoer/Getty Images)

    เอเอฟพีอ้างคำแถลงของโยอาคิม แฮร์มันน์ รัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาวาเรีย เมื่อวันพุธที่ 16 มิถุนายนว่า พลแม่นปืนหลายนายของหน่วยตำรวจเล็งเป้าที่ชายคนนี้ไว้แล้ว ถ้าตำรวจตกลงใจว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย เขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต

    แฮร์มันน์กล่าวว่า สิ่งที่ช่วยให้นักเคลื่อนไหวรายนี้ไม่โดนยิงกลางอากาศก็คือโลโก้ขนาดใหญ่ของกรีนพีซบนร่มชูชีพของอากาศยานเบาพิเศษหรือไมโครไลต์ที่เขาบังคับ

    เหตุการณ์นี้ซึ่งกล้องจำนวนมากบันทึกภาพไว้ตลอด เผยให้เห็นว่า เขาขับเครื่องร่อนอยู่เหนือสนามฟุตบอลอัลลิอันซ์อาเรนา แล้วดูเหมือนไมโครไลต์ของเขาจะเกี่ยวกับสายเคเบิลของกล้องเหนือพื้นสนาม ทำให้เสียการทรงตัวและเกือบกระแทกกับอัฒจันทร์ ทำให้เครื่องลงจอดฉุกเฉินในสนามเพียงชั่วครู่ก่อนเกมจะเริ่ม ร่มชูชีพสีเหลืองของเขามีข้อความว่า "เตะน้ำมันออกไป กรีนพีซ"

    ความบ้าบิ่นที่ผิดแผนครั้งนี้ส่งผลให้ชาวฝรั่งเศสวัย 36 ปี และชาวยูเครนวัย 42 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะต้องถูกส่งโรงพยาบาล แต่อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนนักเคลื่อนไหวกรีนพีซวัย 38 ปีรายนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เขาโดนจับกุมทันที และโฆษกตำรวจมิวนิกกล่าวว่า เขาจะถูกตั้งข้อหาทำผิดกฎหมายการจราจรทางอากาศ, เป็นอันตรายต่อการจราจรทางอากาศ, ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย และบุกรุก เขาได้รับการปล่อยตัวหลังจากนั้น

    ด้านองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งนี้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเรียกเสียงประณามอย่างกว้างขวาง โดยอ้างว่ากิจกรรมครั้งนี้ไม่เป็นไปตามแผน

    กรีนพีซบอกว่า เป้าหมายของการประท้วงของพวกเขาคือการทิ้งลูกบอลยางที่มีข้อความต่อต้านการใช้น้ำมันลงสู่สนามฟุตบอล เพื่อเรียกร้องให้โฟล์กสวาเกนที่เป็นผู้สนับสนุนยูโร 2020 หยุดขายรถยนต์ดีเซลและเบนซิน แต่เกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค นักบินไมโครไลต์จึงต้องลงจอดในสนาม ซึ่งแมตช์นี้มีผู้ชมถึง 14,000 คน

    ตำรวจมิวนิกกล่าวว่า พวกเขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อยกับการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ ขณะที่แฮร์มันน์กล่าวว่า กรีนพีซควรรู้ล่วงหน้าแล้วว่าน่านฟ้าเหนือสนามฟุตบอลนี้เป็นเขตห้ามบิน การกระทำครั้งนี้ไม่สมควร

    โฆษกของนายกฯ อังเกลา แมร์เคิล กล่าวถึงการประท้วงดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบและทำให้คนอื่นๆ ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง และโล่งใจที่ผลลัพธ์ไม่เลวร้ายกว่านี้ ส่วนยูฟาตำหนิว่าเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นและอันตราย ที่อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ร้ายแรงมากๆ.