กระทรวงกลาโหม โดย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จัดพิธีส่งมอบหุ่นยนต์ให้บริการทางการแพทย์ (D–EMPIR CARE) เพื่อสนับสนุนภารกิจทีมแพทย์ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลบุษราคัม ระหว่าง กระทรวงกลาโหม โดย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กับ กระทรวงสาธารณสุข โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พร้อมด้วย พลอากาศเอก ดร.ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ร่วมเป็นประธานในการส่งมอบหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE ให้กับกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับมอบ และกล่าวขอบคุณถึงการสนับสนุนหุ่นยนต์ รุ่น D–EMPIR CARE สำหรับภารกิจของทีมแพทย์โรงพยาบาลสนาม ณ โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
พลอากาศเอก ดร.ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 เป็นวงกว้าง จึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ด้วยเหตุนี้ สทป. จึงเล็งเห็นโอกาสในการนำผลงานวิจัยและพัฒนาของ สทป. โดยเฉพาะงานวิจัยที่เป็นเทคโนโลยีสองทาง (Dual use) มาช่วยสนับสนุนกาปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ จึงเป็นที่มาของหุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR CARE” ซึ่งได้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากหุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR” ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำองค์ความรู้ที่เกิดจากงานวิจัยทางทหารมาสร้างประโยชน์เป็นเทคโนโลยีสองทาง (Dual use) สามารถประยุกต์ใช้กับภาคพลเรือน โดยเฉพาะการพัฒนาต่อยอด ปรับปรุงเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน
พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ผู้แทนกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงกลาโหม โดย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ หรือ สทป. ได้พัฒนาต่อยอดจากหุ่นยนต์สำหรับภารกิจทางการทหารไปสู่หุ่นยนต์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานทางการสาธารณสุขนั้น ถือได้ว่าเป็นการนำงานวิจัยทางการทหารมาสร้างประโยชน์เป็นเทคโนโลยีสองทาง (Dual use) ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับภาคพลเรือน อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR CARE” นี้ ได้ถูกพิสูจน์โดยการทดสอบและทดลองใช้งานแล้วที่โรงพยาบาลสนามของกองทัพบก พบว่า หุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE นั้นสามารถสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะต้องสัมผัสและรักษาผู้ป่วยได้ตามวัตถุประสงค์
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงกลาโหม เห็นว่า หุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE นี้จะสามารถสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละ ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้การรักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 เป็นไปอย่างทั่วถึง ดังนั้น กระทรวงกลาโหม โดย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จึงขอมอบหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE จำนวน 3 ระบบ แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้งานในภารกิจโรงพยาบาลสนาม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE นี้จะเป็นประโยชน์และช่วยลดความเสี่ยง รวมถึงสร้างความปลอดภัยให้กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และบุคลากรได้อย่างสูงสุด
ความมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาของ สทป. ในการดัดแปลงจากหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด รุ่น D-EMPIR มาเป็นหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE ให้เป็นไปตามมาตรฐานการออกแบบ วิจัยและพัฒนา ผลิตและทดสอบที่เป็นสากลในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพความพร้อมในการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศและสร้างความปลอดภัยให้กับ ประชาสังคมโดยรวม เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม (Value-Based Economy) สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |