"ประยุทธ์" ยืดอกขออภัยและขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียวกรณีโรคเลื่อนวัคซีน พร้อมแจงยิบสูตรบริหารจัดการ 4 ข้อ เล่าการทำงานตั้งแต่ ศบค.ตีเส้น สธ.จัดสรร จนถึงจังหวัดที่ต้องไปดูแลการฉีดให้มีความต่อเนื่อง ลั่นใครจองหมอพร้อมต้องได้ฉีด “หมอหนู” แจงกรณีผู้สูงอายุ-7 โรคเรื้อรังที่ถูกเทได้หารือกับ กทม.แล้วจะรับไปจัดการ แต่หากยังตกหล่นก็ไปศูนย์ฉีดบางซื่อได้ สธ.คาดมีไม่เกินพันราย "พี่ศรี" บี้หาคนรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงวาระแห่งชาติการฉีดวัคซีนที่คิกออฟทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ว่าถึงวันนี้เรากระจายวัคซีนไปทั่วประเทศแล้วมากกว่า 7 ล้านโดส และได้ฉีดวัคซีนไปมากกว่า 6.5 ล้านโดส โดยฉีดได้มากกว่า 2 ล้านโดส ภายในเพียงเวลา 1 สัปดาห์ นั่นคือขีดความสามารถการฉีดวัคซีน ซึ่งหากวัคซีนเข้ามามากกว่านี้เราก็น่าจะฉีดได้มากกว่านี้ตามเวลาที่กำหนด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การจัดสรรวัคซีนไปยังจุดบริการทั่วประเทศอย่างทั่วถึงและพอเพียงเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่ท่านอาจได้รับฟังจากข่าวหรือการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลต่างๆ อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ และเข้าใจว่าภาครัฐไม่ได้จัดสรรวัคซีนให้อย่างเพียงพอ หรือภาครัฐไม่ได้มีการประสานงานกันอย่างดีพอ ซึ่งข่าวต่างๆ เหล่านี้รับทราบมาโดยตลอด และพยายามแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง และขอแสดงความจริงใจว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้สบายใจเช่นกัน เราจะพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
“ขอชี้แจงภาพรวมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติเรื่องการฉีดวัคซีนว่า แต่ละหน่วยงานมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไร คงไม่ใช่ผมยึดอำนาจไว้แต่คนเดียว” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า อันดับแรก ศบค.ต้องเป็นองค์กรสูงสุดและมีหลายหน่วยงานอยู่ใน ศบค.อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการเมือง ข้าราชการ รัฐมนตรีก็อยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ในการจัดการสถานการณ์โควิดและการฉีดวัคซีน ศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย กำหนดหลักการในการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัดตามสัดส่วนของประชากร และเพิ่มเติมให้จังหวัดที่มีสถานการณ์แพร่ระบาด รวมถึงเพิ่มเติมกลุ่มบุคคลที่มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา และอื่นๆ”
นายกฯ กล่าวต่อว่า อันดับที่สอง หน่วยงานหลักที่รับมอบนโยบายจาก ศบค.คือ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะรับผิดชอบและเป็นผู้กำหนดว่าวัคซีนที่ได้รับในแต่ละรอบจะจัดส่งแต่ละจังหวัดจำนวนเท่าไหร่ ตามหลักการจัดสรร โดย สธ.จะเร่งจัดส่งวัคซีนกระจายไปทั่วประเทศโดยทันทีไม่รอช้า ซึ่งต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการตรวจสอบวัคซีนที่นำเข้ามาเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ลำดับที่สามคือ ความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ ที่จะเป็นผู้กำหนดว่าแต่ละโรงพยาบาลและทุกจุดฉีดในจังหวัดนั้นจะได้รับวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด และจัดการจัดส่งให้เร็วที่สุด ซึ่งการจัดสรรนี้ต้องคำนึงถึงเวลาที่มีจนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนในรอบต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องราบรื่นที่สุด เนื่องจากการรับวัคซีนของเราทยอยมาเป็นรอบ ไม่ใช่ได้มาครั้งเดียว 6 ล้านโดส หรือ 10 ล้านโดสตั้งแต่ต้นเดือน และเราจะส่งออกทันทีไม่รอเก็บไว้จนกว่าจะครบถึงส่งออก
แจงสูตรบริหารวัคซีน
“ขอชี้แจงย้ำต่อพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนว่า หลักการที่เรียกว่าสูตรในการจัดสรรวัคซีนที่ได้มอบ
นโยบายและสั่งการไป มีดังนี้ 1.เมื่อวัคซีนมา สธ.ตรวจสอบแล้วต้องส่งต่อให้ทุกจังหวัดทันที จะไม่มีจังหวัดใดที่ไม่ได้เพิ่มเติมในแต่ละรอบ ซึ่งในอนาคตอาจยกเว้นจังหวัดที่ได้ครบตามเป้าหมายแล้ว หรือบางจังหวัดที่ ศบค.พิจารณาว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของแต่ละพื้นที่ 2.จำนวนวัคซีนที่ส่งให้แต่ละจังหวัดจะมีปัจจัยต่างๆ ที่ต้องนำมาคำนวณด้วย ได้แก่ จำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้จองในระบบหมอพร้อมและจังหวัด และกลุ่มเฉพาะ อาชีพเสี่ยง หรือพื้นที่เศรษฐกิจ 3.หากจำนวนวัคซีนที่ได้ถ้าคำนวณแล้วไม่เพียงพอต่อการฉีดในรอบนั้น ให้แต่ละจังหวัดและจุดฉีดพิจารณาจัดสรรให้กลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคเสี่ยงที่ลงทะเบียนไว้ก่อนแล้ว และ 4.หากจำเป็นต้องชะลอการฉีดวัคซีนตามกำหนดเดิม ระหว่างรอการนำส่งวัคซีนต้องยึดแบบเดิมไว้ก่อนโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และจัดการฉีดวัคซีนตามหลักเดิมทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน คงเข้าใจตรงกันแล้วใช่ไหม ขอให้ดำเนินการตามนี้ เพราะเป็นมติของที่ประชุมร่วมกันในเรื่องของการบริหารจัดการวัคซีน" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า เชื่อว่าทุกฝ่ายมีความพยายามตั้งใจและดำเนินการมาอย่างทุ่มเทเพื่อให้บริการพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด แต่ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งอาจเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยากคือ การนำส่งวัคซีนต้องใช้เวลา ทั้งการผลิตและตรวจสอบคุณภาพ เราไม่อาจกำหนดได้แน่นอนทุกครั้งว่าจะรับวันใด เวลาใด เพราะเราได้รับเป็นรอบไม่ใช่ได้ครั้งเดียวจำนวนมากๆ หลายประเทศทั่วโลกก็เจอปัญหาแบบนี้ทั้งสิ้น
“ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ผอ.ศบค. ถือเป็นผู้บริหารสูงสุดในสงครามโควิดครั้งนี้ ต้องขออภัยด้วยกับปัญหาที่เกิดขึ้น และขอรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งผมได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทุกเวลาอยู่แล้ว เพราะนี่คือวาระแห่งชาติที่ผมได้ประกาศออกไป เราต้องร่วมใจกันทุกฝ่ายในการดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ เพื่ออนาคตของประเทศชาติ ปัญหาอุปสรรคอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะระยะแรกตอนนี้ที่ทั่วโลกยังมีวัคซีนจำกัด ทำให้กระทบต่อการจัดการ แต่จากการวางแผนของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง และการจัดหาวัคซีนล่วงหน้า ทำให้เรามั่นใจว่าจะได้รับวัคซีนมาอย่างต่อเนื่องและปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากหลายๆ แหล่ง”
นายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลได้จัดการวัคซีนอย่างเพียงพอต่อคนในประเทศไทยทุกคน ขณะนี้สามารถจัดหาวัคซีนได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสแล้ว สำหรับประชาชน 50 ล้านคน หรือ 70% ของประเทศภายในสิ้นปีนี้ และเตรียมการสำหรับปีหน้าไปด้วย ถ้าปีนี้ได้เพิ่มจาก 100 ล้านโดส เราก็จะเพิ่มเติมให้ ซึ่งจะขึ้นเป็น 80-90% เพราะเรามีขีดความสามารถในการฉีดอยู่แล้ว ขอให้ติดตาม และเราจะช่วยกันอย่างไร ถ้าเราพูดจากันไม่ดี เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล คนจำนวนหลายหมื่นคนที่ทำงานหน้างานเขาก็จะท้อแท้และหมดกำลังใจ ฉะนั้นต้องประสานงานกันให้ได้ ตั้งแต่ระดับบน ระดับกลาง ระดับล่าง และทำความเข้าใจกับประชาชนไปด้วย และต้องขอร้องสื่อทุกประเภทด้วย
“เรื่องวัคซีนโควิดในฐานะที่ผมเป็นนายกฯ และเป็น ผอ.ศบค. ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองตลอดมา ฉะนั้นขอย้ำว่าการดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส จะต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าด้วยศักยภาพและความทุ่มเทเสียสละของบุคลากรทุกประเภทของเราที่เกี่ยวข้องในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด และการระดมฉีดวัคซีน เราต้องชนะสงครามโควิดครั้งนี้ไปด้วยกันแน่นอน”
โยนสถาบันวัคซีนเปิดสัญญา
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังเดือน มิ.ย. วัคซีนโควิด-19 ยังเข้ามาตามกำหนด ไม่เคยไม่มา จนตอนนี้ก็ยังไม่เคยทำผิดเงื่อนไขเลย ซึ่งตามปกติทั่วไปผู้ผลิตก็ไม่กำหนดวันเวลาชัดเจน เพราะต้องเผื่อตรวจคุณภาพก่อนส่ง ส่วนการเปิดเผยสัญญานั้น ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ไปหารือกับแอสตร้าเซนเนก้าแล้วว่าส่วนไหนที่เปิดแผนได้ ส่วนจะเปิดเผยเมื่อไรต้องสอบถาม ผอ.สถาบันวัคซีนฯ
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมและถูกเลื่อนฉีดวัคซีน ว่า ได้หารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้วก็ชัดเจนว่า กทม.จะรับดูแล แต่หากมีหลุด สธ.ก็จะเก็บตกให้มาฉีดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ซึ่งวัคซีนมีเตรียมไว้ดูแลเพียงพอ ทั้งหมดเป็นการช่วยกันแก้ไขปัญหา อะไรเป็นประโยชน์กับประชาชนเราไม่คิดว่าจะงานของหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้
ต่อข้อถามกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบปม รพ.เลื่อนฉีดวัคซีน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เป็นไปตามสิทธิ์ที่ทำได้ ถ้า ป.ป.ช.รับตรวจสอบ เราก็ให้ความร่วมมือเปิดเผยข้อมูล ไม่มีปัญหา ทั้งหมดเราทำด้วยเจตนารมณ์ที่ดีพร้อมเปิดข้อมูลทุกข้อมูล
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณได้ไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนเอาผิดผู้ที่ใช้อำนาจข่มขู่ผู้ร่วมก่อตั้ง รพ.นมะรักษ์ ที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไป รวมทั้งยังร้องขอให้ไต่สวนเพื่อมีความเห็นและวินิจฉัยว่า ผอ.ศบค., รมว.สาธารณสุข, เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค., อธิบดีกรมควบคุมโรค, อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมหรือไม่ กรณีการจัดการการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ผิดพลาด ล้มเหลว เป็นเหตุให้สถานพยาบาลในพื้นที่ กทม.ต้องเลื่อนการนัดหมายการฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 14-20 มิ.ย.นี้ออกไป
ส่วนที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ ได้แถลงถึงการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ผู้ลงทะเบียนหมอพร้อมที่ถูกเลื่อนฉีดวัคซีนเดือน มิ.ย. โดย นพ.โสภณกล่าวว่า ได้รับนโยบายจากนายอนุทินให้เยียวยา 2 กลุ่มหลักที่จองผ่านระบบหมอพร้อมในเขต กทม. คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง โดยการเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้นใน กทม. ผู้ที่จองหมอพร้อมที่โรงพยาบาลใน กทม.และถูกเลื่อนนัดฉีดเดือน มิ.ย.ออกไป ขอให้ติดต่อโรงพยาบาลที่จองไว้ หากมีปัญหา สธ.จะช่วยสนับสนุน ไม่ได้แย่งงาน กทม.ทำ เราคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการฉีดวัคซีน และดูแล 2 กลุ่มนี้ให้ได้ตามเป้าหมาย และ กทม.เป็นพื้นที่ระบาดหนัก ได้รับวัคซีนไปจำนวนมาก 2 กลุ่มนี้ จึงควรรับวัคซีนเป็นลำดับแรกๆ และหากมีปัญหาจริงให้โทร.มาที่หมอพร้อม 0-2792-2333 เพื่อนัดมาฉีดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อแทน"
นพ.โสภณกล่าวอีกว่า คาดว่าคนที่มีปัญหาถูกเลื่อนฉีดวัคซีนไม่น่าจะมีมาก เนื่องจากพื้นที่ กทม.มีการจองผ่านหมอพร้อมใน มิ.ย.รวม 456,414 คน แบ่งเป็นวันที่ 7-13 มิ.ย. 178,556 คน วันที่ 14-20 มิ.ย. 133,637 คน และวันที่ 21-30 มิ.ย. 144,221 คน โดยฉีดวัคซีนแล้วเป็นผู้สูงอายุฉีดเข็มแรก 161,449 คน เข็มสอง 11,063 คน กลุ่มโรคเรื้อรังเข็มแรก 120,151 คน และเข็มสอง 16,822 คน แต่คงประเมินไม่ได้ว่าจะมีตกหล่นจำนวนเท่าไร เพราะขึ้นกับว่า รพ.นัดซ่อมฉีดวัคซีนได้หรือไม่ หากนัดมาซ่อมเร็วก็ไม่มีปัญหา ประชาชนไปฉีดที่ รพ.ตามเดิมได้ อาจมีแค่ช่วง 2-3 วันนี้ที่มีการเลื่อนนัดไปแล้วไม่ได้ฉีด หรือบางส่วนที่นัดไปฉีดใหม่นานก็ให้ติดต่อเข้ามา โดยศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อจะเป็นจุดเยียวยาสนับสนุน
คาดตกหล่นไม่เกินพันราย
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า คนที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมช่วง มิ.ย.ในพื้นที่ กทม. หากไม่มีการเลื่อนนัดจาก รพ.ที่ลงทะเบียนให้ไปฉีดวัคซีนตามนัดหมายเดิม หรือถ้าเลื่อนนัดก็ขอให้ติดต่อสอบถาม รพ.อีกครั้ง โดยเฉพาะช่วงวันที่ใกล้ฉีดวัคซีนว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เนื่องจากสัปดาห์นี้กรมควบคุมโรคจะส่งวัคซีนไปเพิ่มเติมตามที่กำหนด ขอให้สอบถาม รพ.ก่อน เพราะอาจกลับมาฉีดได้ตามเดิมก็ให้ไปฉีดที่ รพ.เป็นหลัก แต่อาจมีกลุ่มที่ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานี้ถูกเลื่อนฉีดไปแล้วหรือ รพ.ยังจัดการไม่ได้ ใกล้วันฉีดแล้วยังถูกเลื่อนอีก ก็สามารถมาฉีดที่บางซื่อได้ โดยขอให้โทร.ไปคอลเซ็นเตอร์หมอพร้อมซึ่งมีเกือบ 200 คู่สาย จะมี SMS นัดหมายระบุวันและเวลาฉีด นำมาแสดงเพื่อรับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อได้ เริ่มฉีดตั้งแต่ 16 มิ.ย.เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าหมอพร้อมที่ถูกเลื่อนมีปัญหาจริงๆ น่าจะมีไม่เกินพันคน ซึ่งเตรียมวัคซีนเผื่อไว้ 2 พันโดสต่อวัน โดยคอลเซ็นเตอร์หมอพร้อมนัดมาชั่วโมงละ 200 คน ขอให้มาตามเวลานัดเพื่อไม่ให้เกิดความแออัด
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แผนการกระจายวัคซีนต่างๆ ยังคงเป็นไปตามแผนที่ ศบค.ร่วมกับ สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางไว้ ว่าในเดือน มิ.ย.จะมีการกระจายวัคซีนทั้งหมดอย่างน้อย 6 ล้านโดส ในช่วงครึ่งแรกของเดือน มิ.ย.ได้กระจายไปแล้ว 3.5 ล้านโดส เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 ล้านโดส และซิโนแวค 1.5 ล้านโดส เริ่มฉีดแล้ว 8 วันตั้งแต่ 7-14 มิ.ย. และเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ฉีดแล้ว 323,060 โดส และยังคงฉีดไปเรื่อยๆ เพราะส่วนใหญ่วัคซีนที่กระจายไปจะอยู่ที่จุดฉีดต่างๆ สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างดี สามารถฉีดได้เฉลี่ยวันละ 300,000 โดส หรือประมาณ 10 ล้านโดสต่อเดือน จะเห็นได้ว่าศักยภาพการฉีดมีอยู่สูง และตั้งแต่นายกฯ ได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการฉีดเป็นทางการ 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 7-14 มิ.ย.ฉีดแล้ว 2,410,663 โดส รวมตั้งแต่ 28 ก.พ.ฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งหมด 6,511,184 โดส ทั้งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค ซึ่งเป็นไปตามแผนและเป้าหมาย
สำหรับการจัดหาวัคซีนในครึ่งหลังของเดือน มิ.ย.จะมีวัคซีนเข้ามาอย่างน้อย 3 ล้านโดส กระจายไปยังจุดต่างๆ ในสัปดาห์นี้ และมีการประสานกับหน่วยปลายทางที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว จะเห็นได้ว่าขณะนี้ในเดือน มิ.ย.สามารถจัดส่งวัคซีนไปได้ตามแผน และจะเป็นไปตามแผน 6.5 ล้านโดส แต่ สธ.ยังไม่ละความพยายามที่จะจัดหาวัคซีนมาเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน เมื่อวัคซีนเข้ามาจะมีการแจ้งเป็นระยะๆ ให้ทราบ และขอยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน
ส่วน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด ได้ยื่นเอกสารขออนุญาตวัคซีนสปุตนิก วี กับ อย.ว่า ได้รับข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งยังเป็นข้อมูลชุดเดิมที่เคยยื่นกับ อย.แล้ว ยังคงขาดข้อมูลสำคัญถึง 50% อย.จึงได้แจ้งบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด ให้จัดส่งข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการพิจารณาโดยเร่งด่วนเป็นครั้งที่ 3 แล้ว
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนและการจัดหาวัคซีนในภูมิภาคนั้น พบว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ ได้เปิดประชุมสภาสามัญครั้งที่ 1 และมีมติเห็นชอบนำเงินสะสม 400 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อวัคซีน ซึ่งเมื่อรวมกับเทศบาลบางเมือง 200 ล้านบาท เทศบาลนครสมุทรปราการ 100 ล้านบาท และเทศบาลข้างเคียงอีก 100 ล้านบาท จะเป็นเงิน 800 ล้านบาท ในการจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์ม 900,000 โดส ซึ่งสามารถฉีดให้ประชาชนได้ถึง 450,000 คน
นายเสรี เรืองกาญจน์ นายกเทศมนตรีเมืองสะเตงนอก กล่าวว่า ได้หารือกับนายกเทศมนตรีนครยะลาที่จะจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์มอย่างน้อย 5,000 โดส โดยได้จองแล้ว
ขณะที่การฉีดวัคซีนในหลายจังหวัดนั้นยังคงมีความคึกคัก แต่ก็เริ่มพบปัญหา โดยที่ จ.ขอนแก่นพบว่าผู้ฉีดวัคซีนต้องการเลือกวัคซีน และมีผู้วอล์กอินเข้ามาขอฉีดจำนวนมากโดยไม่มีการลงทะเบียนไว้ก่อน ทำให้ สสจ.ขอนแก่นกำลังประสานงานเพื่อจองซื้อวัคซีนทางเลือก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |