เอาไปเอามา...ผู้บริหาร กทม.ใช่ย่อยเหมือนกัน

            กรณีการฉีดวัคซีนใน กทม. สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ๗ กลุ่มโรคเรื้อรัง เริ่มจะมองเห็นปัญหาแล้วว่าเหตุที่ถูกเทอยู่ตรงไหน

            เพราะจองหมอพร้อมไงครับ

            หมอพร้อมจึงถูกด่า กลายเป็นหมอเพี้ยน

            ที่จริงไม่อยากสรุปว่าใครถูกผิด

            เพียงแต่การทำงานร่วมกันของหลายๆ องค์กรควรจะมีการวางแผนร่วมกันเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ โดยไม่เกิดความลักลั่น หรือข้อผิดพลาดอื่นๆ อันเนื่องมาจากการไม่ประสานกันระหว่างองค์กร

            ปลายเดือนที่แล้ว กรุงเทพมหานคร ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดโครงการ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" เพื่อกระจายวัคซีนโควิดให้ประชาชนทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพฯ

            เปิดลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com และผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤษภาคม และเริ่มฉีดวัคซีนวันแรกตั้งแต่ ๗ มิถุนายน

            เห็นความต่างนะครับ

            หมอพร้อม สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ๗ กลุ่มโรคเรื้อรัง

            ส่วน กทม. สำหรับประชาชนทั่วไป

            ประเด็นหลักอยู่ที่ ในแผนหลักฉีดวัคซีนของ ศบค.นั้่น จะต้องฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ๗ กลุ่มโรคเรื้อรังก่อน

            ส่วนประชาชนทั่วไปฉีดภายหลัง

            เมื่อถึงวันแจกจ่ายวัคซีน ทาง กทม.ก็นำวัคซีนฉีดให้กลุ่มที่ลงทะเบียน "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" เป็นหลัก

            มีรายชื่อที่ลงทะเบียนกับหมอพร้อมในพื้นที่ กทม.บ้างประปราย

            ถ้ามองในแง่แผนการฉีดวัคซีนของ ศบค. ถือว่า กทม.ยังต้องเคลียร์ตัวเอง

            แต่ กทม.ก็อ้างได้ว่า ต้องเร่งฉีดประชาชนในคลัสเตอร์ต่างๆ ก่อน เพื่อป้องกันการระบาด

            และข้อมูล ณ วันที่ ๗ มิถุนายน ไม่มีใครรู้ว่าวัคซีนเข้ามาเท่าไหร่ และไม่คิดว่าจะขาดช่วง

            ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นบทเรียน ต้องปรับในการฉีดวัคซีนล็อตต่อๆ ไป

            เพราะหากต่างคนต่างคิดว่าตัวเองมีอาณาเขต และรับผิดชอบเฉพาะอาณาเขตของตัวเอง ก็จะมีปัญหาตามมาอีกแน่นอน

            ฉะนั้นใครที่เข้าใจว่าตัวเองถูกหมอพร้อมทิ้ง กทม.เท ก็เข้าใจตามนี้

            เมื่อถูกทิ้งถูกเท ก็ต้องมีการเยียวยาอย่างเร่งด่วน

            ตัวเลขผู้ได้รับวัคซีน ประชาชนทั่วไป ๒%

            ผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง ๑.๕%

            ผู้สูงอายุ ๐.๓%

            จะเห็นได้ว่ากลุ่มเปราะบางมีความเสี่ยงสูงกลับยังได้รับวัคซีนน้อย

            ทางกระทรวงสาธารณสุขประกาศออกมาแล้วนะครับว่าจะเยียวยาปัญหาผู้ลงทะเบียนหมอพร้อมในพื้นที่ กทม. จากที่นัดฉีดวัคซีนเดือนมิถุนายน แล้วถูกเลื่อนออกไป

            อันดับแรกคือ ติดต่อโรงพยาบาลที่จองคิวไว้

            หากมีปัญหาถูกเลื่อนจริง กระทรวงสาธารณสุขจะช่วยสนับสนุน โทรไปที่โอเปอเรเตอร์หมอพร้อม ๐๒-๗๙๒-๒๓๓๓ เพื่อนัดไปฉีดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อแทน

            ครึ่งหลังเดือนมิถุนายน จะมีวัคซีนเข้ามาอย่างน้อย ๓ ล้านโดส ฉะนั้น มีให้ฉีดแน่นอน

            สรุปสถานการณ์การฉีดวัคซีน เพื่อให้เห็นในภาพรวม

            ครึ่งแรกเดือนมิถุนายนกระจายวัคซีนไปแล้ว ๓.๕ ล้านโดส

            เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ๒ ล้านโดส

            และซิโนแวค ๑.๕ ล้านโดส

            ฉีดมาแล้ว ๘ วัน ตั้งแต่วันที่ ๗-๑๔ มิถุนายน รวม ๒,๔๑๐,๖๖๓ โดส

            ฉะนั้น ภายในเดือนมิถุนายนจะมีการกระจายวัคซีนทั้งหมดอย่างน้อย ๖ ล้านโดส ซึ่งก็ตรงตามเป้าที่วางไว้มาตั้งแต่ต้น

            และเมื่อรวมตั้งแต่วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งหมด ๖,๕๑๑,๑๘๔ โดส

            เบ็ดเสร็จสิ้นเดือนมิถุนายนก็ร่วม ๑๐ ล้านโดส

            ครับ...เพื่อความเข้าใจการระบายวัคซีนให้ง่ายขึ้น นายกฯ ประยุทธ์ชี้แจงรายละเอียด พร้อมกับขอโทษประชาชนที่มันวุ่นวายขายปลาช่อนก่อนหน้านี้

            เริ่มที่โครงสร้างการทำงาน ต่อไปมีปัญหาอะไรจะได้ด่าถูกคน

               “​....ก่อนอื่นผมต้องขอเรียนชี้แจงภาพรวมในการดำเนินการตามวาระแห่งชาติเรื่องการฉีดวัคซีนว่า แต่ละหน่วยงานมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง

               ​โดยลำดับแรก ศบค. ผู้เป็นองค์กรสูงสุดในการจัดการสถานการณ์โควิด-๑๙ และการฉีดวัคซีน มีความรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย กำหนดหลักการในการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัด โดยมีหลักการว่าทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนตามสัดส่วนจำนวนประชากร และเพิ่มเติมให้กับจังหวัดที่มีสถานการณ์ระบาด รวมทั้งเพิ่มเติมกลุ่มบุคคลที่มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา และอื่นๆ

               ในลำดับที่สอง หน่วยงานหลักที่รับมอบนโยบายจาก ศบค. นั่นคือ กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดว่าวัคซีนที่ได้รับในแต่ละรอบจะจัดส่งแต่ละจังหวัดจำนวนเท่าใด ตามหลักการในการจัดสรร โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งจัดส่งวัคซีนในรอบนั้น กระจายไปยังทั่วประเทศในทันทีโดยไม่รอช้า

               จากนั้นในลำดับที่สาม คือความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัด ที่จะเป็นผู้กำหนดว่าแต่ละโรงพยาบาลและจุดฉีดในจังหวัดนั้นจะได้รับวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด และจัดการจัดส่งให้อย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งการจัดสรรนี้จะพยายามต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่มี จนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนในรอบต่อไปให้เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด เนื่องจากการได้รับวัคซีนของเรานั้นเป็นการทยอยมาเป็นรอบ ไม่ใช่ได้มาครั้งเดียว ๖ ล้านโดส หรือ ๑๐ ล้านโดสตั้งแต่ต้นเดือน และเราจะส่งออกทันทีที่ได้รับวัคซีน ไม่ได้รอเก็บไว้จนกว่าจะครบจึงจะส่งออก

               ​ผมขอเรียนชี้แจง ย้ำต่อพี่น้องประชาชนถึงหลักการ หรือที่เรียกว่า ‘สูตร’ ในการจัดสรรวัคซีน ที่ผมสั่งการลงไป มีดังนี้

               ​ข้อ ๑ เมื่อมีวัคซีนมา กระทรวงสาธารณสุขต้องส่งให้ทุกจังหวัดทันที จะไม่มีจังหวัดใดที่ไม่ได้เพิ่มเติมในแต่ละรอบ ซึ่งในอนาคตอาจยกเว้นจังหวัดที่ได้ครบตามเป้าหมายแล้ว หรือบางจังหวัดที่ ศบค.พิจารณาว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนั้น

               ​ข้อ ๒ จำนวนวัคซีนที่นำส่งให้แต่ละจังหวัดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่นำมาคำนวณ คือ จำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้จองในระบบ ทั้งหมอพร้อมและระบบของจังหวัด และกลุ่มเฉพาะ เช่น อาชีพเสี่ยง พื้นที่เศรษฐกิจ

               ​ข้อ ๓ หากจำนวนวัคซีนที่ได้คำนวณแล้วไม่เพียงพอต่อการฉีด ในระยะเวลาในรอบนั้น ให้แต่ละจังหวัดและจุดฉีดพิจารณาจัดสรรให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มโรคเสี่ยงที่ลงทะเบียนไว้ก่อน

               ​และข้อ ๔ หากมีความจำเป็นต้องชะลอการฉีดวัคซีนตามกำหนดเดิม ระหว่างรอการนำส่งวัคซีน ต้องยึดลำดับเดิมไว้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และจัดการฉีดวัคซีนตามลำดับเดิมทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน....."

            ถือว่าชัดเจนตั้งแต่ลำดับความรับผิดชอบ ไปจนถึงสูตรในการจัดสรรวัคซีน

            หลังจากนี้หากยังมีปัญหาอีก

            ทัวร์ลงถูกคนแน่นอน.