15 มิ.ย.64- ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนเอาผิดผู้ที่ใช้อำนาจข่มขู่ผู้ร่วมก่อตั้ง รพ.นมะรักษ์ ที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปหากมีข้อสงสัยติดต่อคอลเซ็นเตอร์ หรือติดต่อรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขนั้น การกระทำของบุคคลดังกล่าว มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และยังมีความผิดตาม ปอ.มาตรา 309 อีกด้วย ที่ว่าผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรณีดังกล่าว ไม่ควรปล่อยให้ผู้ที่ใช้อำนาจดังกล่าวลอยชาย โดยไม่เอาตัวมาลงโทษไม่ได้ และไม่ใช่เรื่องยาก ที่ ป.ป.ช.จะไต่สวนเอาผิดได้ 

นอกจากนี้ ยังร้องขอให้ไต่สวนเพื่อมีความเห็นและวินิจฉัยว่า ผอ.ศบค.-รมว.สาธารณสุข เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมหรือไม่ กรณีการจัดการการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสหรือโควิด-19 ผิดพลาด ล้มเหลว เป็นเหตุให้สถานพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานครต้องเลื่อนการนัดหมายการฉีดวัคซีนฯระหว่างวันที่ 14-20 มิ.ย.นี้ ออกไป ทำให้ประชาชนเสียเวลา เสียโอกาส สับสน เดือดร้อน และเสียหาย แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโยนเผือก โยนกลองกันไปมาโดยไม่มีใครจะมีสปิริตแสดงความรับผิดชอบให้เห็นแต่อย่างใด 

แม้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด จะออกมาตั้งโต๊ะแถลงจูบปากเกี้ยเซี้ยะกันแล้ว แต่ยังไม่เห็นบุคคลใดกล้าเอ่ยปากแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งไปเหมือนผู้บริหารหน่วยงานรัฐและเอกชนในต่างประเทศที่เขาเจริญกันแล้ว เพราะการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนนั้นทางราชการหรือโรงพยาบาลอาจทำได้ง่าย แต่ประชาชนนั้นต้องเตรียมตัว ยื่นใบลางาน เลื่อนนัด ลาประชุมกันอลหม่าน ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เหมือนไปซื้อของตามร้านสะดวกซื้อเสียเมื่อไร ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นบทเรียนนี้ถูกกระทำซ้ำอีก สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความมาร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการเอาผิดบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องตามครรลองของกฎหมาย รวมทั้งให้เอาผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืนจริยธรรม/วินัยอย่างร้ายแรงต่อผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป.