15 มิ.ย.64- พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.สนามพลังแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊กว่าผมเคยโพสต์เมื่อเริ่มเปิดทำการ รพ.สนามพลังแผ่นดิน ว่า รพ.สนามแห่งนี้จะเป็นหน่วยปฏิบัติการ 'พยัคฆ์น้อยติดปีก' ของราชอาณาจักรไทย เพราะ'พลังแผ่นดิน'อันเนื่องมาจากการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆโดยเฉพาะภาคประชาชนจากหลากหลายวิชาชีพ ทั้งจิตอาสาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะด้านทรัพย์สินเงินทอง อาหาร เครื่องมือ ด้านกำลังพลอาสาสมัคร บุคลากรวิชาชีพ ฯลฯ...หลักการมีส่วนร่วม เป็นหลักการประการหนึ่งของหลักการทรงงานของพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 เป็นหลักการที่เป็นมงคลชีวิตแก่ผมทำให้ผมประสบความสำเร็จมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม รพ.สนามพลังแผ่นดิน มีจุดอ่อนประการหนึ่งอยู่ที่ 'ความขาดแคลนบุคลากรวิชาชีพทางการแพทย์เฉพาะทางด้านโรคทรวงอกและเวชบำบัดวิกฤต'
จุดอ่อนนี้เป็นปัญหาที่ผมทราบดี แต่ผมจำเป็นต้องเดินหน้าจัดตั้ง รพ.สนามพลังแผ่นดิน ทั้งๆที่ขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทางที่สำคัญ เพราะสถานการณ์ผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากเป็นปัญหาเร่งด่วนและไม่อาจหลีกเลี่ยงปัญหาได้ ทั้งยังมีชีวิตผู้ป่วยจำนวนมากเป็นเดิมพัน
ผมแก้ไขจุดอ่อนดังกล่าวด้วยการพึ่งตนเองโดยระดมคณะอายุรแพทย์ทั่วไป [Internal Medicine] ในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะซึ่งในสถานการณ์ปกติที่ไม่มีการระบาดโควิด-19 คณะอายุรแพทย์จะเป็นบุคลากรวิชาชีพหลักในการรักษาผู้ป่วยอาการวิกฤต ใน ไอ ซี ยู ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ อยู่แล้ว ทั้งนี้เราพึ่งตนเองเช่นนี้มาช้านานกว่าสิบปี
รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็น รพ.เอกชนที่โดดเดี่ยว ไม่มีเครือข่ายสาขา ไม่มีเงินทุนมากมาย แต่เป็น รพ.เอกชนที่มีผู้ป่วยอาการวิกฤต อาการหนักจำนวนมาก เรามี ไอ ซี ยู หรือหน่วยสำหรับผู้ป่วยอาการหนักที่มีจำนวนเตียงรวมทั้งสิ้นมากถึง 44 เตียง และในสถานการณ์ปกติที่ไม่มีการระบาดโควิด-19 นั้น ไอ ซี ยู รพ.มงกุฎวัฒนะจะมีผู้ป่วยอาการหนักครองเตียงเฉลี่ยมากถึงร้อยละ 90 หรือทุกๆวัน ไอ ซี ยู จะมีผู้ป่วยอาการหนักเฉลี่ยวันละ 40 เตียง ดังนั้นบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล รพ.มงกุฎวัฒนะ จึงมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยอาการวิกฤตเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เราจึงกล้าที่จะเผชิญสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 อาการวิกฤตจำนวนมาก ถึงแม้เราจะขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทางก็ตาม ...หลักการพึ่งตนเองเป็นอีกหลักการหนึ่งในหลักการทรงงานของพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 อีกเช่นกันครับ หลักการนี้ทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะมีความเจริญก้าวหน้า ทั้งๆที่เป็น รพ.เอกชนที่โดดเดี่ยว ไม่มีเครือข่ายสาขา ไม่มีเงินทุนมากมาย
ถึงแม้พวกเราจะพึ่งตนเองด้วยความฮึกเหิมก็ตาม แต่ลึกๆแล้วพวกเราต้องการความช่วยเหลือนะครับ เราต้องการการเพิ่มเติมกำลังจากสมาคมวิชาชีพต่างๆ ผมบอกกับคณะแพทย์และพยาบาลในสังกัดของผมว่า "เมื่อเปิด รพ.สนามพลังแผ่นดินได้เมื่อไหร่ ก็จะมีคนมาช่วยเราอีกมาก โดยเฉพาะบุคลากรวิชาชีพเฉพาะทาง"...เพราะ รพ.สนามพลังแผ่นดิน จะปลุกกระแสความรู้สึกร่วมของ 'พลังแผ่นดิน'
แล้วมันก็เป็นจริงตามที่ผมพูด เมื่อ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ติดตามคณะกระทรวงสาธารณสุขมาตรวจ รพ.สนามพลังแผ่นดิน โดยส่วนตัวของผมและ อ.นิธิพัฒน์ ไม่ได้รู้จักกันเลย เพิ่งได้รู้จักกันในบ่ายวันที่ 17 พ.ค.64 ผมเป็นคนที่ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านไป ผมได้นำเรียน อ.นิธิพัฒน์ ว่าหากสมาคมอุรเวชช์ฯ ช่วยระดมพลอาสาสมัครเพื่อเพิ่มเติมกำลังให้ รพ.สนามพลังแผ่นดิน รพ.สนามแห่งนี้จะเป็นหน่วยลูกมือ เป็นทางเลือกและทางรอดของสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักจำนวนมาก...อ.นิธิพัฒน์ ตอบรับคำเสนอของผมอย่างทันทีเช่นกัน
อ.นิธิพัฒน์ รีบกลับไปประชุมคณาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งสมาคมอุรเวชช์ฯ , สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย ตลอดจนแพทยสภาทันทีเพื่อจัดระบบและหาทางระดมกำลังพลเพิ่มเติมเพื่อช่วย รพ.สนามพลังแผ่นดิน
จากวันที่ 17 พ.ค.64 เรื่อยมาจนปัจจุบัน รพ.สนามพลังแผ่นดินรับการส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักจำนวนมากและรักษาชีวิตผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากแล้ว อ.นิธิพัฒน์ ได้มานำคณะแพทย์ รพ.มงกุฎวัฒนะ ราวนด์[Round] หรือนำตรวจรักษาผู้ป่วยอาการหนักเป็นรายเตียง ตั้งแต่ 07.00 น. ทุกๆเช้า ก่อนที่ท่านจะไป รพ.ทั่วไป และ รพ.สนามต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง
เพียงแค่ 2 สัปดาห์หลังจากเปิด รพ.สนามพลังแผ่นดิน ได้มีอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์วิกฤต[Critical care] และอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทรวงอก มาสมัครบรรจุเข้าร่วมงานเป็นแพทย์ประจำ[Full Time] กับ รพ.มงกุฎวัฒนะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองได้มาร่วมทีมกับคณะอายุรแพทย์ทั่วไป[Internal Medicine]ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะมีอยู่เดิม โดยมี อ.นิธิพัฒน์ เป็นกุนซือใหญ่ (ผมแอบเรียกท่านว่า 'ขงเบ้ง' ก็แล้วกันนะครับ) ทำให้จุดอ่อนของ รพ.สนามพลังแผ่นดินได้ทุเลาไปอย่างสิ้นเชิง
รพ.สนามแห่งนี้ได้กลายเป็นหน่วยปฏิบัติการสนามในสงครามโควิด-19...กลายเป็น 'พยัคฆ์น้อยติดปีก' ตามที่ผมโม้ไว้ตั้งแต่เริ่มเปิด รพ.สนามพลังแผ่นดินไงล่ะครับ...โม้ชิบ!เลยนะครับท่านผู้ชม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |