14 มิ.ย. 64 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความว่าสถานการณ์ทั่วโลก 14 มิถุนายน 2564...

โคลอมเบียแซงสเปนขึ้นมาเป็นอันดับที่ 10 ของโลกแล้ว

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 289,190 คน รวมแล้วตอนนี้ 176,696,605 คน ตายเพิ่มอีก 8,284 คน ยอดตายรวม 3,818,790 คน

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย บราซิล โคลอมเบีย รัสเซีย และอาร์เจนตินา

อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 4,902 คน รวม 34,320,775 คน ตายเพิ่ม 98 คน ยอดเสียชีวิตรวม 615,057 คน อัตราตาย 1.8% 

อินเดีย ติดเพิ่ม 67,290 คน รวม 29,506,328 คน ตายเพิ่ม 3,819 คน ยอดเสียชีวิตรวม 374,226 คน อัตราตาย 1.3% 

บราซิล ติดเพิ่ม 35,768 คน รวม 17,412,766 คน ตายเพิ่มถึง 1,043 คน ยอดเสียชีวิตรวม 487,401 คน อัตราตาย 2.8% 

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 2,855 คน ยอดรวม 5,740,665 คน ตายเพิ่ม 13 คน ยอดเสียชีวิตรวม 110,420 คน อัตราตาย 1.9%

ตุรกี ติดเพิ่ม 5,012 คน รวม 5,330,447 คน ตายเพิ่ม 53 คน ยอดเสียชีวิตรวม 48,721 คน อัตราตาย 0.9% 

อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี อาร์เจนติน่า และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลักหมื่น

รัสเซีย ล่าสุดติดเพิ่มถึง 14,723 คน กำลังไต่ขึ้นระลอกสามอย่างต่อเนื่อง ส่วนสหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 7,490 คน เกินเจ็ดพันต่อวันมาติดต่อกัน 5 วันแล้ว

แอฟริกาใต้ตอนนี้อยู่อันดับที่ 19 กำลังเผชิญกับระลอกสามชัดเจน โดยเริ่มมาตั้งแต่พฤษภาคม ล่าสุดติดเพิ่มถึง 7,657 คน

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างชิลี โบลิเวีย อุรุกวัย เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกา ญี่ปุ่น เนปาล และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพัน

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่ม ส่วนใหญ่อยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน มองโกเลีย ที่ยังหลักพัน 

ตอนนี้ลักษณะการระบาดของมองโกเลีย เป็นขาขึ้นของระลอกสองอย่างชัดเจน เมื่อวานติดเพิ่มอีกถึง 2,188 คน

แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน

เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ลาว และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาจาก Worldometer ทั่วโลกมีจำนวนการติดเชื้อเพิ่มลดลง 12% แต่จำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6%

ทั้งนี้การติดเชื้อเพิ่มนั้น แทบทุกทวีปมีแนวโน้มลดลง ยกเว้นแถบแอฟริกาและโอเชียเนียที่เพิ่มขึ้นถึง 40% และ 15% ตามลำดับ

ในทวีปเอเชีย ไทยมียอดติดเชื้อเพิ่มรายสัปดาห์เป็นอันดับที่ 10 มากกว่าเกาหลีใต้ 6 เท่า, มากกว่าบังคลาเทศและยูเออีราว 2 เท่า, และมากกว่าญี่ปุ่น 1.27 เท่า

...สถานการณ์ในไทยเราตอนนี้ยังระบาดกระจายอยู่ทั่วไป ยังไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้

วันนี้มีการเปิดกิจการต่างๆ เช่น นวด สัก เสริมความงาม สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ขอให้ทั้งเจ้าของกิจการ ผู้ให้บริการ รวมถึงประชาชนที่ไปใช้บริการ ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเคยได้รับวัคซีนไปแล้วหรือไม่ก็ตาม 

ใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่างระหว่างกัน หากต้องสัมผัสเนื้อตัวใกล้ชิด ก็ขอให้ใช้เวลาสั้นๆ  นอกจากนี้ก็ควรสังเกตอาการตนเอง หากไม่สบาย ไม่ควรให้บริการหรือไปรับบริการ และควรไปตรวจรักษา

...สำหรับนโยบายระดับประเทศนั้น การจัดบริการใดๆ ให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิต สุขภาพ และการสาธารณสุข จำเป็นจะต้องคำนึงถึงหลักจริยธรรมในการดำเนินการด้านสาธารณสุข

หนึ่ง สิ่งที่จะจัดหาให้นั้นจำเป็นต้องมีประสิทธิภาพที่ดี มีหลักฐานวิชาการที่พิสูจน์ชัดเจน ตรวจสอบได้ 

สอง สิ่งที่จะจัดหาให้นั้นควรมีความคุ้มค่า โดยเปรียบเทียบราคาและประสิทธิภาพ

สาม ต้องทราบรายละเอียดครบถ้วนว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสิ่งที่จะจัดหาให้นั้นมีมากน้อยเพียงใด อยู่ที่ใดบ้าง เพื่อที่จะจัดสรรทรัพยากรให้ได้อย่างถูกต้องกับกลุ่มเป้าหมาย และเพียงพอแก่ความต้องการ

และสี่ ต้องวางแผนจัดให้ด้วยความเป็นธรรมแก่ทุกคน 

ทั้งนี้ความเป็นธรรมจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อครบองค์ประกอบสามประการ ได้แก่ 1.สิ่งที่จะจัดหาให้นั้นต้องมีอย่างเพียงพอ (หากสิ่งที่จะจัดให้นั้นเป็นระบบบริการ ก็ต้องหมายรวมถึงคน งบ ของ และวิธีการ ต้องมีความพร้อม) 2.ต้องมีช่องทางการเข้าถึงได้อย่างถ้วนทั่ว และ 3.ต้องเป็นสิ่งที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ตอบสนองต่อปัญหาที่มี

หลักการข้างต้น หากลองประยุกต์ใช้มาพิจารณาปัญหาที่เราประสบพบเจอในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องวัคซีน ก็จะเข้าใจได้ชัดเจนว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเกิดจากเหตุใด 

เมื่อใดที่จัดบริการแก่สาธารณะแล้วยังไม่บรรลุหลักการทุกข้อข้างต้น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะน้อย และเกิดปัญหาต่างๆ มากมายตามมา  

วิเคราะห์ปัญหาให้เห็นต้นตอ และยอมรับ วางแผนจัดการแก้ไข และสื่อสารสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา จึงจะมีโอกาสทำให้ปัญหาต่างๆ ลุล่วงไปได้.