จี7รุมจีน ไล่บี้สืบต้นตอโควิด ป้องสิทธิฮ่องกง-อุยกูร์


เพิ่มเพื่อน    

ผู้นำกลุ่มจี 7 ปิดฉากการประชุมสุดยอดแล้วเมื่อวันอาทิตย์ จีนตกเป็นเป้าใหญ่ของการรุมกินโต๊ะ ทั้งประเด็นซินเจียง ฮ่องกง ทะเลจีนใต้และตะวันออก รวมถึงการเรียกร้องการสอบสวนต้นตอไวรัสโควิดอย่างละเอียด ก่อนหน้านั้นทูตจีนเพิ่งเตือนจี 7 หมดยุคที่ประเทศกลุ่มเล็กๆ จะมาตัดสินชะตาโลก

(จากซ้าย) นายกฯ แคนาดา, ประธานคณะมนตรียุโรป, ประธานาธิบดีสหรัฐ, นายกฯ ญี่ปุ่น, นายกฯ อังกฤษ, นายกฯ อิตาลี, ประธานาธิบดีฝรั่งเศส, ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายกฯ เยอรมนี ถ่ายภาพหมู่เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2564

    การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 7 ประเทศ นาน 3 วัน ที่รีสอร์ตในบาริสเบย์ของอังกฤษ เป็นการประชุมแบบพบตัวกันครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ที่นอกจากจะเป็นการหารือกันเกี่ยวกับประเด็นปัญหาสำคัญต่างๆ ระดับโลก ไล่ตั้งแต่โรคระบาดโควิด-19 ไปจนถึงภาวะโลกร้อนแล้ว ผู้นำจี 7 ยังต้องการใช้เวทีนี้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการเผชิญหน้ากับการแผ่อิทธิพลของจีนทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร

    การผงาดขึ้นของจีนสู่การเป็นมหาอำนาจชั้นนำของโลกถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีนัยสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในยุคสมัยนี้ เคียงข้างกับการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเมื่อปี 2534 ที่ทำให้สงครามเย็นยุติลง

    ข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า ในแถลงการณ์วันสุดท้ายของการประชุมวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน ผู้นำจี 7 กล่าวถึงจีนในประเด็นอ่อนไหวหลายด้าน ทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตซินเจียง, เรียกร้องอำนาจปกครองตนเองระดับสูงของฮ่องกง และต้องการให้มีการสอบสวนอย่างละเอียดและสมบูรณ์เกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน

    "เราจะส่งเสริมค่านิยมของเรา รวมถึงด้วยการเรียกร้องให้จีนเคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับซินเจียง และสิทธิ, เสรีภาพ และอำนาจปกครองตนเองระดับสูง สำหรับฮ่องกงที่บัญญัติไว้ในปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ" แถลงการณ์ของจี 7 กล่าว

    "เรายังเรียกร้องให้มีการศึกษาต้นกำเนิดของโควิด-9 ระยะที่ 2 อย่างโปร่งใสและในเวลาที่เหมาะสม ภายใต้การนำของผู้เชี่ยวชาญและอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ที่ดับเบิลยูเอชโอ (องค์การอนามัยโลก) เป็นผู้รวบรวม รวมถึงในจีน ตามคำแนะนำในรายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญ"

    นอกจากประเด็นที่กล่าวถึงข้างต้น จี 7 ยังเน้นย้ำ "ความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน และส่งเสริมการแก้ปัญหาข้ามช่องแคบอย่างสันติ" นอกจากนี้ "เรายังห่วงกังวลอย่างจริงจังเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออกและทะเลจีนใต้ และคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อความพยายามโดยฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่และเพิ่มความตึงเครียด"

    ก่อนหน้าที่ผู้นำจี 7 จะปิดประชุมและมีแถลงการณ์ฉบับนี้ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอนกล่าวเตือนว่า วันเวลาที่ประเทศกลุ่ม "เล็กๆ" จะมาตัดสินชะตากรรมของโลกนั้นผ่านพ้นไปนานแล้ว "เราเชื่อเสมอว่า ประเทศทั้งหลาย ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก, แข็งแรงหรืออ่อนแอ, จนหรือรวย นั้นเท่าเทียมกัน และกิจการของโลกควรจัดการผ่านการปรึกษาหารือกันโดยทุกประเทศ" โฆษกสถานทูตจีนกล่าวในวันอาทิตย์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"