รัฐบาลโชว์ผลงานปราบยาเสพติด 9 เดือนยึดทรัพย์กว่า 4.5 พันล้านบาท ยาบ้า 344 ล้านเม็ด เตรียมหารือ 6 ชาติลุ่มน้ำโขงและสำนักงานยาเสพติดสหประชาชาติ แก้ปัญหาค้ายาข้ามชาติ
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการรายงานข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายข้ามพรมแดนและข้ามชาติในหลายกรณี แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย ตำรวจปรามปรามยาเสพติด กรมศุลกากร เครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศ เป็นต้น
โดยสถิติการตรวจยึด นับตั้งแต่ปี 2562 มีปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะยาไอซ์และเฮโรอีน ที่ถูกนำเข้าเพื่อส่งผ่านไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง เป็นต้น ถือเป็นปัญหาร่วมกันของประเทศในภูมิภาค ทั้งนี้ รัฐบาลโดยสำนักงาน ป.ป.ส.ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในวันที่ 5 ก.ค.นี้
สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่ ต.ค.63-มิ.ย.64 ยึดยาบ้า 344 ล้านเม็ด ไอซ์ 20,662 กก. และเฮโรอีน 2,760 กก. ยาอี 279,868 เม็ด รวมทั้งจับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี เป็น ยาบ้า 39,002 เม็ดไอซ์ 72.08 กก. เฮโรอีน 285.69 กก. ยาอี 1,922 เม็ด
นอกจากดำเนินการจับกุมแล้ว กระทรวงยุติธรรมยังได้ทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดคดียาเสพติด ส่งผลให้ตัวเลขการยึดทรัพย์ในสามไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่า 4,549 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3,480 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้ทั้งปี 6,000 ล้านบาท
น.ส.รัชดา?กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนและวาระแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณสำหรับยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเอาผิดยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับปรุงกฎหมาย โดย ครม.ผ่านร่างกฎหมายสามฉบับ ซึ่งขณะนี้รอการเห็นชอบจากรัฐสภา ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างประมวลกฎหมายคดียาเสพติด ร่างพระราชาบัญญัติคดียาเสพติด มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดอัตราโทษใหม่ที่เหมาะสม การขยายผลการยึดทรัพย์ ส่งผลทำให้การตัดวงจรและทำลายเครือข่ายยาเสพติดได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ก้องภพ โพธิ์แสน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 จังหวัดกระบี่ สืบทราบว่า นายฐิติวุฒน์ หรือค่ำ ณรงค์กิจ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 358 หมู่ที่ 1 บ้านใสใหญ่ ตำบลสินปุน อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่อำเภอเขาพนม อำเภอคลองท่อม อำเภอเหนือคลอง และอำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่, อำเภอชัยบุรี อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี, อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอถ้ำพรรณนาราย จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้กับกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มผู้ใช้แรงงานในโรงงาน ในสวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพารา โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ณรงค์ อ่อนทอง หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 ประสานกำลังสนธิร่วมกับ ร.ต.ท.ภาณุวัฒน์ รักษ์ทับเที่ยง รองสารวัตรปราบปราม กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 4 และนายธวัช จงรักษ์ภูวนาถ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด จังหวัดกระบี่ วางแผนทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยติดต่อขอซื้อยาบ้า จำนวน 5 มัด รวม 10,000 เม็ด ในราคา 150,000 บาท จากนายฐิติวุฒน์ ณรงค์กิจ โดยนัดส่งของกันริมถนนสายคลองเสียด-พรุเตย หมู่ที่ 9 บ้านควนสบาย ตำบลเพหลา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังโอบล้อมบริเวณดังกล่าว จนถึงเวลานัดมีรถยนต์กระบะ สีเทา ทะเบียน บท 2613 กระบี่ มาจอดรอ โดยคนขับมีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวให้ทราบ
ทำการตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในรถ 2 มัด จำนวน 4,000 เม็ด อาวุธปืนพบสั้นขนาด .32 ทะเบียน กท 441962 กระสุนปืนชนิดเดียวกัน จำนวน 36 นัด โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวพร้อมยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมด และแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร
จากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวนปากคำในเบื้องต้น นายฐิติวุฒน์ให้การรับสารภาพว่าได้สั่งซื้อยาเสพติดมาจากภาคเหนือทางอินเทอร์เน็ต โดยส่งมากับรถด่วนรับ-ส่งสินค้า ครั้งละ 5-10 มัด จำนวน 10,000-20,000 เม็ด ในราคา 130,000-260,000 บาท ตกเม็ดละ 13 บาท นำมาขายเม็ดละ 17 บาท ขายส่งมัดละ 45,000-50,000 บาท เมื่อขายหมดจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้กับพ่อค้าทางภาคเหนือ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |