11 มิ.ย.64 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ผมไม่คิดว่าการยุบสภาจะเกิดเร็วเหมือนที่หลายฝ่ายประเมิน ทั้งการกระทบกระทั่งระหว่างพรรคร่วมหรือรองบประมาณผ่านเป็นข้อวิเคราะห์ในการเมืองปกติ แต่ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์พิเศษ มีโรคระบาดร้ายแรงซึ่งการรับมือของรัฐบาลถูกวิจารณ์อย่างหนัก ประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้าง การฉีดวัคซีนแม้ปริมาณจะเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เกิดความเชื่อมั่นว่าจะเป็นไปตามเป้า 100 ล้านโดสภายในสิ้นปี
ผมเชื่อว่าจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงโดยนายกฯก่อนการฉีดวัคซีนเกิน 50% ของประเทศ และรัฐบาลตั้งใจจะอยู่จนใช้เงินกู้กรอบสุดท้าย 500,000 ล้านบาทไปแล้วไม่ต่ำกว่าครึ่ง
ถึงจะมี 250 ส.ว.เป็นกุมารทอง แต่คงไม่ต้องการบากหน้าลงพื้นที่ในสภาพที่ประชาชนกำลังรอทั้งวัคซีนและการเยียวยาความเสียหาย ซึ่งเรื่องเหล่านี้น่าจะเห็นความชัดเจนช่วงต้นปีหน้า ถ้าจะมีการยุบสภาคงเป็นไตรมาส 2 ของปี 65 ไปแล้วมากกว่า
ดังนั้นเรื่องเร่งด่วนที่นายกฯต้องสำเหนียกให้มากคือ การบริหารจัดการวัคซีน เท่าที่เห็นเป็นการเน้นปริมาณขาเข้าและโชว์ความหลากหลายด้วยการเซ็นสัญญากับยี่ห้อต่างๆมากขึ้น แต่เวลาที่ทุกตัวจะเข้ามาทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสันฯ รวมทั้งซิโนฟาร์มหรืออื่นๆคาดว่าจะเป็นไตรมาสสุดท้าย
ถ้าดูจากยอดฉีดรายวันตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ วัคซีนจะล้นมือช่วงปลายปีหรือไม่ เพราะทุกรายจะเข้ามาพร้อมกัน ถ้าไม่วางแผนการกระจายและเพิ่มปริมาณการฉีดรองรับไว้ ปัญหาจะกลับด้าน ต้นปีวัคซีนขาด ปลายปีคนฉีดไม่พอ ประชาชนต้องรอเหมือนเดิม
รัฐบาลมองเรื่องนี้หรือยังและเตรียมการรับมืออย่างไร
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |