เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ในหน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่ป้ายแดงอย่าง "ศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" หลังจากขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานเสร็จสิ้นเรียบร้อย

            ก็เข้าสู่โหมด "แต่งตั้ง" ตำรวจเข้าไปปฏิบัติงาน

            ตามโครงสร้าง "ศูนย์ฝึกอบรม บช.ก." ประกอบด้วย  ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายฝึกอบรม ฝ่ายวิชาการ และฝ่ายวิทยบริการ กำหนดให้ศูนย์ฝึกอบรมมีอำนาจหน้าที่เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจ มีหัวหน้าหน่วยเป็นระดับ ผบก. ตัดโอนกำลังมาทั้งหมด 247 ตำแหน่ง

            โดยยุบฝ่ายอำนวยการ 10 ในกองบังคับการอำนวยการ สังกัด บช.ก.และปรับโอนภารกิจเกี่ยวกับการฝึกอบรมของกองกำกับการ 6 มารวมกับศูนย์ฝึกอบรม มาทำหน้าที่ในส่วนราชการที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ที่เหลือเป็นกำลังพลจากหน่วยงานอื่นๆ

            ในการแต่งตั้งศูนย์ฝึกอบรมของ บช.ก.ครั้งนี้ ก.ตร.ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 56 กฎ ก.ตร. ยกเว้นหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง

            มาตรา 56 ระบุว่า "ในกรณีที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติเห็นว่าการใช้อํานาจในการแต่งตั้งของผู้บัญชาการไม่เป็นธรรมหรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร.กําหนดตามมาตรา 57 หรือมีกรณีที่จะต้องดําเนินการทางวินัยและมีความจําเป็นต้องให้ข้าราชการตํารวจซึ่งดํารงตําแหน่งตามมาตรา 44 (5) หรือรอง ผบช.ลงมา ให้พ้นจากพื้นที่หรือหน้าที่ หรือมีเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร.กําหนดให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติมีอํานาจสั่งแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา 44 (5) ลงมาได้ตามควรแก่กรณี การแต่งตั้งข้าราชการตํารวจตามวรรคหนึ่ง ให้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา 44 (5) และ (6) ให้เสนอ ก.ตร.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน"

            อำนาจการแต่งตั้งจึงอยู่ที่ "ผบ.ปั๊ด" พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เต็มๆ

            ตามโครงสร้างอำนาจหน้าที่ "ศูนย์ฝึกอบรม บช.ก." จะเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจ โดยเน้นการฝึกอบรมพัฒนาทักษะในภารกิจถวายความปลอดภัยและอารักขาบุคคลสำคัญ การต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเฉพาะด้านและอาชญากรรมองค์กร และทักษะทางยุทธวิธี และการปฏิบัติการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริหารและพัฒนาการศึกษาตามระเบียบแบบแผนและหลักสูตรตลอดจนปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร ระบบการเรียนการสอนและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

            แม้ตามชื่อหน่วย "ศูนย์ฝึกอบรม บช.ก." จะเป็นประเภทสายบุ๋น สายอำนวยการ สายวิชาการ ไม่ใช่สายบู๊แบบที่เป็นที่หมายปองของ "นักวิ่งสีกากี" ประเภทเส้นกวยจั๊บเห็นเก้าอี้แล้วตาลุกวาว

            แต่สำหรับพวก "นักวิ่ง" เส้นเล็ก เส้นหมี่ ที่อยากจะขอขยับขึ้นตำแหน่งให้สูงขึ้นไปก่อน แล้วค่อยรอจังหวะ รอเวลา โยกย้ายออกมาเก้าอี้อื่นในอนาคต ก็เล็งขยับเข้าลู่เข้าเลน  โดยเฉพาะเหล่า "สีกากี" นอกหน่วย ที่เห็นช่องทางตามมาตรา 56 ซึ่งสามารถขยับตำแหน่งสูงขึ้นข้ามหน่วยได้

            ต่างจ้องกันตาเป็นมัน!!!

            "กรมปทุมวัน" ชั่วโมงนี้เลยมี "ฝุ่นตลบ" ให้คึกคักกันอีกครั้งก่อนจะถึงการแต่งตั้งวาระประจำปี.