การเกิดขึ้นของ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) แม้จะมีคำถามทางการเมืองเกิดขึ้นหลายข้อ เช่น สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.กลับลำเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังเคยประกาศวางมือการเมืองในช่วงชุมนุม กปปส. หรือข้อสงสัยว่าพรรค รปช.เป็นการนำชื่อ-ความเป็น กปปส. มาเก็บเกี่ยวผลทางการเมืองทั้งที่ กปปส.ยุติบทบาทไปแล้วหรือไม่?
ซึ่งแต่ละข้อสงสัย สองแกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช.ทั้ง ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว ทั้งผ่านสื่อและในการแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ ม.รังสิต แต่เหตุผลคำชี้แจงจะฟังขึ้นหรือไม่ ฟังแล้วคล้อยตามหรือจะไม่เห็นด้วย ก็เป็นดุลยพินิจของแต่ละคน
กระนั้นข้อกังขาการเมืองในภาพใหญ่จริงๆ สำหรับการตั้งไข่-ตั้งพรรคของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ดูเหมือนหลายคนยังติดใจกันอยู่ และแกนนำพรรคก็ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ก็คือ
1.เหตุผลที่สุเทพและอดีต กปปส.ตั้งพรรค รปช. ก็เพื่อเป็นฐานเสียงสำคัญทางการเมืองสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งใช่หรือไม่?
โดยเฉพาะการทำเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เวลาจัดตั้งรัฐบาลจะได้ไปรวมเสียงกับพรรคทหาร-พรรคพลังประชารัฐ และกลุ่มพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะคอยหนุนบิ๊กตู่หลังเลือกตั้ง
ยิ่งเมื่อช่วงหลังท่าทีของประชาธิปัตย์ ดูเหมือนว่าสุเทพที่แม้จะมีบารมีอยู่ในพรรคอย่างล้นเหลือ แกนนำพรรค ปชป.หลายคนยังเกรงใจสุเทพ และเชื่อกันว่าสุเทพสั่งการได้ แต่แนวทางและจุดยืนของพรรค ปชป. โดยเฉพาะท่าทีของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ระยะหลังก็พุ่งหอก-แลกหมัดกับบิ๊กตู่-คสช.อย่างหนักหน่วง จนทำให้แกนนำ คสช.เริ่มไม่สบายใจ ซึ่งท่าทีเช่นนี้สุเทพย่อมรู้ดี
แม้ผู้คนจะเชื่อว่าถึง ปชป.จะแสดงท่าที่เป็นปฏิปักษ์กับ คสช. แต่หลังเลือกตั้งในการตั้งรัฐบาล หากเพื่อไทยแม้ชนะการเลือกตั้งแต่ได้เสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง จัดตั้งรัฐบาลยาก โดนบล็อกทุกทาง จนการตั้งรัฐบาลสวิงมาอยู่อีกฝ่าย คือฝ่ายไม่เอาเพื่อไทย-หนุนบิ๊กตู่
ถึงตอนนั้นยังไงก็ยากที่ประชาธิปัตย์จะไปจับมือกับเพื่อไทยอยู่แล้ว จังหวะนั้นประชาธิปัตย์โดยการดีลของสุเทพก็ต้องมาอิงอยู่ฝ่ายเดียวกับฝ่ายหนุน คสช. อยู่ฝั่งเดียวกับพรรค รปช.และพรรคอื่นๆ ที่ไม่เอาเพื่อไทยแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงมองว่าการเกิดขึ้นของพรรค รปช. ภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งที่คนมองและเชื่อกันก็คือ เป็นการตั้งพรรคเพื่อเป็นหนึ่งใน แผงอำนาจ คสช. หลังเลือกตั้ง
2.การเกิดขึ้นของพรรค รปช.เป็นพรรคเฉพาะกิจ ที่ตั้งขึ้นเพื่อทำการเมืองแบบชั่วคราว ไม่ได้หวังผลการเมืองระยะยาว แต่ทำเพื่อให้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปีเป็นแผงอำนาจ คสช.
ทั้งสองข้อกังขาดังกล่าว ต้องยอมรับความจริงกันว่า ยังเป็นเรื่องที่หลายคนคาใจ และคนในพรรครปช.ก็ยากจะตอบ หรือตอบแต่ก็ตอบแบบคนฟังแล้ว ก็ไม่ได้เชื่อสนิทใจ
ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันยาวๆ ต่อไป สำหรับก้าวย่างและเส้นทางของพรรค รปช. ในการพิสูจน์ตัวเองว่าพรรค รปช.ไม่ใช่ พรรคเฉพาะกิจ และไม่ใช่ พรรคฐานเสียง-แผงอำนาจ คสช. ซึ่งเป็นเรื่องที่ เอนก-สุเทพ ต้องขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคให้ชัด เพื่อทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรค รปช.จะเดินไปในทิศทางไหน
ทั้งนี้ สุเทพ ระบุในการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคเมื่อ 3 มิ.ย.ตอนหนึ่งว่า ที่ต้องมาตั้งพรรค รปช.เพราะคิดถึงการเสียสละและการต่อสู้ของประชาชนในยามที่บ้านเมืองมีภัย โดยมีผู้บาดเจ็บนับพัน เสียชีวิตหลายสิบคน จึงอยากให้คนเหล่านั้นเห็นภาพวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่พวกเรารำลึกถึงด้วยความเคารพในความเสียสละ และวันที่คนอย่างพวกเราลุกขึ้นมาประกาศอุดมการณ์สืบสานปณิธานของพี่น้องที่เสียสละ
"ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างพรรคการเมืองที่เป็นพรรคของประชาชนที่แท้จริงได้ในประเทศนี้ เพราะแค่มีข่าวก็มีคนดูถูกว่าจะมีประชาชนสักเท่าไหร่ที่จะมีน้ำยาพอสร้างพรรคการเมืองมาแข่งขันกับพรรคที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย พรรคที่มีเงินมีทองมาก มีเสียงวิจารณ์มากมายว่าเป็นพรรคของ กปปส. เป็นพรรคของลุงกำนัน นักการเมืองหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์ปรามาสว่าพรรคอย่างนี้โตไม่ได้
ผมใช้เวลาครุ่นคิดพูดคุยกับผู้คนเป็นเวลา 4 ปี ที่ผ่านมาระวังตัวมาก เพราะประกาศชัดเจนว่าจะไม่เป็นนักการเมือง ไม่เป็น ส.ส. ไม่ต้องการตำแหน่งทางการเมืองอีกแล้ว แต่เมื่อพี่น้องร่วมอุดมการณ์บอกว่าต้องตั้งพรรคการเมืองของประชาชนก็รู้ว่าต้องเข้าร่วมกับพรรคนี้ รู้ว่าผมอาจจะเป็นจุดอ่อนให้ถูกโจมตีว่าตระบัดสัตย์ ไหนว่าไม่ยุ่งกับการเมือง จึงขอประกาศว่าผมไม่ใช่คนอยู่เบื้องหลังของพรรคการเมืองนี้ และจะยืนเคียงข้างกับพี่น้องประชาชนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน ไม่สนใจคำวิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น จะไม่ลงเลือกตั้ง แต่ขอเป็นขี้ข้าของประชาชน เป็นผู้รับใช้ประชาชน ทุ่มเทยืนเคียงข้างพี่น้องตั้งพรรคการเมืองของประชาชนพรรคเดียวให้เกิดขึ้นให้ได้" (สุเทพ 3 มิ.ย.)
เป้าหมายและเส้นทางของพรรค รปช.ต่อจากนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน จะใช่พรรคเฉพาะกิจ พรรคที่เป็นแผงอำนาจ คสช.หรือไม่ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |