10 มิ.ย.64 - ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ว่า ให้รูปเล่าเรื่อง สองคนนี้นำเข้า เผยแพร่ข่าวลือว่าในหลวงและสมเด็จพระราชินีประชวรหนัก ปอท บุกเข้าไปจับกุมและยึดอุปกรณ์ไปตรวจได้ ฝากขังไว้แล้ว แต่มีรูปถ่ายออกมาว่า ผู้ก่อเหตุ สนิทสนมกับ รังสิมันต์ โรม เจี๊ยบ อมรัตน์ และพิธา ไม่ทราบว่ามีคำตอบอะไรไหม แล้วนี่จะนำไปสู่เหตุยุบพรรคได้หรือไม่?

ผศ.ดร.อานนท์ ยังได้โพสต์รูปภาพนายอุกฤษฎ์ สันติประสิทธิกุล แอดมินเพจ John New World ซึ่งเผยแพร่ข่าวปลอมอัปมงคลหลายครั้ง โดยมีการถ่ายภาพคู่กับ ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์ "เจ๊จุกคลองสาม" ได้เผยแพร่ภาพแอดมินเพจ John New World ถ่ายรูปกับ ส.ส.ก้าวไกล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า เจ๊ขอชื่นชมคุณตำรวจมากคะ ที่ตามจับไอ้ก้องรามคำแหงจนได้ เห็นว่ามันคือแอดมินเพจ John New World ที่ปล่อย #ข่าวลือ เรื่องในหลวงประชวร ในเฟซนั่นเอง ถามจริง อยากเด่นดัง มีที่ยืนในสังคม แต่ใช้วิธีการปล่อยข่าวปลอม มันเฟียสมากหรา ใครเสี้ยมสั่งสอนให้ทำแบบนี้ พวกเมนท์แชร์น่าจะโดนต่อไป หึหึ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) บุกเข้าจับกุมนายสหรัฐ เจริญสิน และ นายอุกฤษฎ์ สันติประสิทธิกุล หรือ ก้อง อายุ 22 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งสองรายได้โพสต์ข่าวปลอมอัปมงคลเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ จนมีการแชร์ต่อๆกันเป็นจำนวนมาก

โดยพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 64 เวลา 02.47 น. ผู้ต้องหาได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “John New World” ได้นำเข้าเผยแพร่หรือส่งต่อข้อความและรูปภาพในลักษณะโพสต์ลักษณะใส่ความหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งประชาชนทั่วไปและสังคมรับรู้ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติและเสื่อมเสียชื่อ อันเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญารวม จำนวน 2 โพสต์

ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาในการกระทำของผู้ต้องหานี้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) (4) แก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560