กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐผ่อนคลายคำแนะนำด้านการเดินทางใน 85 ประเทศและดินแดน รวมถึงญี่ปุ่นและยุโรปส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันยังเตรียมหารือหลายประเทศวางแนวทางเริ่มการเดินทางระหว่างประเทศใหม่อย่างปลอดภัย
เอเอฟพีกล่าวว่า การตัดสินใจปรับปรุงคำแนะนำการเดินทางของสหรัฐล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่มความหวังว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างกว้างขวางทั่วโลกจะทำให้การเดินทางระหว่างประเทศกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยมี 85 ประเทศและดินแดนที่กระทรวงการต่างประเทศผ่อนคลายคำแนะนำด้านการเดินทาง ซึ่งรวมถึงชาติพันธมิตรใกล้ชิดและเพื่อนบ้านของสหรัฐ อาทิ แคนาดา, เม็กซิโก, ฝรั่งเศส และเยอรมนี ที่ลดระดับจากคำเตือนให้พลเมืองอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางไปอย่างสิ้นเชิง ลงมา 1 ระดับเป็นให้พิจารณาทบทวนการเดินทาง
ประเทศที่ได้รับการผ่อนคลายคำเตือนด้วยคือญี่ปุ่น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเคยมีคำเตือนเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง คำเตือนครั้งนั้นทำให้ทำเนียบขาวต้องรีบออกมายืนยันว่า สหรัฐยังคงสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของญี่ปุ่น ที่กำหนดเปิดฉากวันที่ 23 กรกฎาคมนี้แล้ว
คำแนะนำล่าสุดของสหรัฐยังลดระดับคำเตือนของ 11 ประเทศ มาอยู่ในระดับที่ขอให้ชาวอเมริกันใช้ความระมัดระวังตามปกติเมื่อเดินทางไปเยือน ซึ่งเป็นคำแนะนำมาตรฐานของสหรัฐสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วก่อนหน้าการระบาด
มีหลายประเทศที่รัฐบาลสหรัฐจัดว่ามีความเสี่ยงด้านโควิด-19 ต่ำ อาทิ กานา, เซเนกัล, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และมอลตา ซึ่งเป็นประเทศในยุโรปชาติเดียวที่อยู่ในอันดับนี้
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงล่าสุดสะท้อนคำแนะนำจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) ที่ออกเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ซึ่งเรียกร้องให้ชาวอเมริกันฉีดวัคซีนให้ครบก่อนการเดินทาง ส่วนผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง
รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า คำแนะนำของซีดีซีเมื่อวันจันทร์ จัดระดับคำเตือนการเดินทางของ 111 ประเทศและดินแดนใหม่ โดยมี 61 ประเทศลดจาก "ระดับ 4" ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางอย่างสิ้นเชิง ลงมาเป็นให้เดินทางได้เมื่อฉีดวัคซีนครบแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 50 ประเทศและดินแดน ลดจาก "ระดับ 2" มาอยู่ "ระดับ 1"
ซีดีซีกล่าวว่า หลายประเทศได้รับการลดระดับลงมีทั้งเพราะความสามารถในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และเพราะการเปลี่ยนเกณฑ์ของซีดีซีด้านอัตราผู้ติดเชื้อ จากเดิม 100 คนต่อ 100,000 ประชากร เป็น 500 คนต่อ 100,000 ประชากร
ประเทศที่ถูกซีดีซีลดระดับลงมาอยู่ในระดับ 3 นั้นรวมถึงฝรั่งเศส, เอกวาดอร์, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, แอฟริกาใต้, แคนาดา, เม็กซิโก, รัสเซีย, สเปน, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, ยูเครน, ฮอนดูรัส ฮังการี, อิตาลี, จอร์แดน, ลิเบีย, ปานามา, โปแลนด์ และเดนมาร์ก ส่วนของไทยนั้นยังถูกจัดให้อยู่ในระดับ 3 เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
คำแนะนำด้านการเดินทางของสหรัฐยังได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อหาเบาะแสว่าสหรัฐจะยุติคำสั่งห้ามการเดินทางที่ออกเมื่อกว่า 1 ปีที่แล้วเมื่อใด ขณะนี้พลเมืองที่ไม่ใช่คนอเมริกันเกือบทั้งหมดที่เคยอยู่ในประเทศเหล่านี้ 14 วันก่อนการเดินทางจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐ ได้แก่ จีน, สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, อินเดีย, แอฟริกาใต้, บราซิล, อิหร่าน และ 26 ประเทศในกลุ่มเชงเกน
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวไว้ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะออกเดินทางเยือนยุโรปในวันพุธว่า การผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางจะกระทำด้วยความโปร่งใส และยึดตามวิทยาศาสตร์และหลักฐาน
วันเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐประกาศด้วยว่า จะจัดการเจรจากับแคนาดา, เม็กซิโก, สหภาพยุโรป และอังกฤษ เพื่อหาแนวทางในการเริ่มการเดินทางระหว่างประเทศใหม่อย่างปลอดภัย โดยสหรัฐจะตั้ง "คณะทำงานของผู้เชี่ยวชาญ" ขึ้นเพื่อวางแนวทางสำหรับการก้าวไปข้างหน้า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |