9 มิ.ย.64 - นายคู อู เหร่ เหร่ (Khu Oo Reh) รองประธานพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party: KNPP)ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและKNPP ว่าขณะนี้สถานการณ์ในรัฐคะเรนนี (หรือรัฐคะยา) ตรงข้าม จ.แม่ฮ่องสอน รุนแรงมากเนื่องการโจมตีโดยกองทัพเผด็จการทหารพม่า นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม เป็นต้นมา โดยเวลานี้ประมาณการณ์ว่ามีประชาชนในรัฐคะเรนนีต้องพลัดถิ่นสูงถึง 100,000 คน และกระจัดกระจายเป็น กลุ่มเล็กกลุ่มน้อย แอบซ่อนตามพื้นที่ต่างๆ โดยเวลานี้เสบียงอาหารเหลือน้อย และมีความเสี่ยงมากที่จะกลับบ้านเพื่อมาเอาอาหาร หากเคลื่อนที่ก็จะถูกทหารพม่ายิง
"มีประชาชนที่สัญจรตามถนนถูกทหารพม่ายิงตายแล้วหลายราย โดยเฉพาะที่เดมอโส่ และพื้นที่ติดพรมแดนรัฐฉาน กองทัพพม่าส่งอากาศยานมาโจมตี ยิงปืนใหญ่ เข้าสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ประชาชนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมาก ขาดน้ำดื่มสะอาด เกิดท้องร่วง ประชาชนที่ซ่อนตัวตามที่ต่างๆ ไม่มีสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ กลุ่มบรรเทาทุกข์ท้องถิ่นก็พยายามช่วยกันมากที่สุด แต่ก็เสี่ยงมาก เดินทางยาก ถนนสายต่างๆ ถูกทหารพม่าปิด และทหารพม่าได้วางกับระเบิดบนถนน โดยเฉพาะเส้นทาง ระหว่างเมืองโมบีและเมืองเดมอโส่ ชาวบ้านกลับบ้านไม่ได้ มีการยิงปืนใหญ่ตลอด” รองประธานพรรคกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมกองทัพพม่าจึงเจาะจงโจมตีรัฐคะเรนนีในช่วงนี้ รองประธานพรรคตอบว่าน่าจะเป็นเพราะเมืองเดมอโส่ มีกลุ่มกองทัพประชาชน ออกมาประท้วง ชาวบ้านออกมาสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐของกองทัพพม่า เปิดพื้นที่มาสู้ในเมือง แต่ก็ถูกโจมตีกลับโดยกองทัพพม่าอย่างรุนแรง
"ประชาชนรัฐคะเรนนีต่างทนมานานหลายทศวรรษแล้ว ทั้งในเมือง ในป่า พวกเราถูกทหารพม่ากระทำย่ำยี เข่นฆ่าโดยไม่มีเหตุผล เวลานี้สิ่งที่ห่วงที่สุด คือ ระยะยาวจะเกิดปัญหาที่จะเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะเด็กๆ คือเรื่องสุขภาพ ซึ่งสถานการณ์จะแย่ลงเรื่อยๆ" นายคู อู เหร่ เหร่ กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นเพราะพรรค KNPP ไม่ลงนามสัญญาหยุดยิง NCA หรือไม่ รองประธานพรรคครชะเรนนีตอบว่า สำหรับกลุ่มต่างๆ เรามองและผมเข้าใจว่า เหตุผลที่โจมตีรัฐคะเรนนี เป็นเพราะเขายึดอำนาจมาด้วยรัฐประหาร ไม่ใช่แค่ในรัฐคะเรนนี แต่เขายึดอำนาจทั้งประเทศพม่า ไม่มีใครเห็นด้วย ไม่มีใครยอมได้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ไม่เอารัฐประหาร และเราก็สนับสนุนความคิดนั้น
เมื่อถามถึงเรื่องการฝึกอาวุธให้กองกำลังประชาชน นายคู อู เหร่ เหร่ กล่าวว่า ขณะนี้มีเยาวชนไม่น้อยกว่า 3,000-4,000 คน อยู่ในพื้นที่ต่างๆ แต่ไม่สามารถเจาะจงว่าพื้นที่ไหน เพราะจะกลายเป็นเป้าของการโจมตีโดยกองทัพพม่า
ทั้งนี้ เมื่อในช่วงเช้าวันเดียวกัน สหประชาชาติในพม่า (United Nations in Myanmar) ได้ออกแถลงการณ์ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงและมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในรัฐกะยา หรือรัฐคะเรนนี และพื้นที่อื่นๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของพม่า (รวมทั้งรัฐกะเหรี่ยง)
แถลงการณ์ระบุว่าความรุนแรงในรัฐคะเรนนี รวมถึงการโจมตีตามอำเภอใจของกองทัพพม่าในพื้นที่พลเรือน นำไปสู่การพลัดถิ่นภายในประเทศของประชาชนทั้งชายหญิงและเด็กกว่า 100,000 คน ประชาชนที่พลัดถิ่นต่างซ่อนตัวในป่า วิกฤตครั้งนี้อาจผลักดันให้ผู้คนข้ามพรมแดนเพื่อความปลอดภัย ดังที่ได้เห็นในส่วนอื่นๆ ของประเทศพม่าแล้ว
สหประชาชาติย้ำคำเรียกร้องก่อนหน้านี้ให้ทุกฝ่ายดำเนินมาตรการและข้อควรระวังที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน โดยเฉพาะอย่างการคุ้มครอง หน่วยแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ และยึดมั่นในหลักการพื้นฐานของความแตกต่าง
ผู้คนที่หลบหนีและผู้ที่ยังคงอยู่ที่เคหสถานที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบอย่างต่อเนื่อง มีความจำเป็นเร่งด่วนในด้านอาหาร น้ำ ที่พักพิง เชื้อเพลิง และการเข้าถึงการรักษาพยาบาล สหประชาชาติและพันธมิตรมีเสบียงเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งรวมถึงอาหาร ที่พักพิง และสิ่งของบรรเทาทุกข์พื้นฐานอื่นๆ ที่พร้อมจะนำไปใช้เพื่อเสริมการตอบสนองในท้องถิ่น ซึ่งได้รับในทันที แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลเหล่านั้นในพื้นที่ห่างไกล อย่างไรก็ตาม ความไม่มั่นคงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การจำกัดการเดินทางโดยกองทัพพม่า ทำให้การส่งมอบเสบียงเหล่านี้เป็นไปอย่างล่าช้า
องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้กองทัพพม่าอนุญาตให้เคลื่อนย้ายเสบียงและบุคลากรด้านมนุษยธรรมได้อย่างปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือด้านบรรเทาทุกข์โดยตรงจากสหประชาชาติสู่รัฐคะเรนนีและพื้นที่อื่นๆ ในพม่า ที่ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนด้านมนุษยธรรม
อนึ่ง รัฐคะเรนนี หรือ รัฐคะยา (Kayah state) ตั้งอยู่ภาคตะวันออกของพม่า มีชายแดนตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางเหนือติดรัฐฉาน ทางใต้ติดรัฐกะเหรี่ยง (แม่น้ำสาละวิน) โดยรัฐคะเรนนีมีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่นักหากเทียบกับรัฐอื่นๆ ของพม่า แต่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ แม่น้ำ และแร่ธาตุ มีประชากรเพียงราว 300,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวคะเรนนี หรือ กะเหรี่ยงแดง นอกจากนั้นเป็นชาวกะเหรี่ยง กะยัน (ปะด่อง)
ทั้งนี้ ในรัฐคะเรนนีมี 7 เมือง เช่น เดมอโส่ พรูโซ ผาซอง โดยมีเมืองลอยก่อ เป็นเมืองหลวง รัฐคะเรนนีมีเขื่อนโมบี โรงไฟฟ้าที่ใกล้เมืองเดมอโส่ เป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกๆ ของพม่า และกลายเป็นพื้นที่ความไม่สงบในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |