9 มิ.ย.64 - นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 280 ราย รักษาหายเพิ่ม 1,572 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 12,031 ราย
โดยภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำและทัณฑสถาน ที่ไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 127 แห่ง พบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งคงเดิม โดยเริ่มพบแนวโน้มของผู้ต้องขังที่หายป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้มียอดผู้ที่หายป่วย 17,833 ราย หรือกว่า 60% จากยอดผู้ป่วยสะสม 30,037 ราย ซึ่งกรมราชทัณฑ์ มีโรงพยาบาลจำนวน 2 แห่งคือ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ทำหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีแดงและสีเหลืองจากเรือนจำและทัณฑสถาน ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ภายใต้การดูแลรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยถ้าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จะดำเนินการส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลภายนอก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
นายอายุตม์ กล่าวว่า ทั้งนี้นอกจากการรักษาตามกระบวนการแล้ว ยังคุมเข้มในส่วนของมาตรการคัดกรองผู้ติดเชื้อ ด้วยการ SWAB ก่อนเข้าเรือนจำ โดยเฉพาะผู้ต้องขังเข้าใหม่ในเรือนจำแลัทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาด ซึ่งต้องแยกผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกไม่นำเข้าเรือนจำและทัณฑสถาน และถ้าไม่พบเชื้อจะนำตัวเข้าสู่ห้องกักโรค เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 21 วัน โดยต้องทำการ SWAB เพื่อยืนยันผลว่าไม่พบเชื้ออีกครั้ง จึงจะปล่อยตัวเข้าสู่เรือนจำชั้นใน และในส่วนของเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดแล้ว จะต้องดำเนินการแยกส่วนคุมขังผู้ต้องขังเข้าใหม่ออกจากเรือนจำและทัณฑสถานเดิมอย่างชัดเจน โดยอาจพิจารณาพื้นที่เรือนจำเก่า เรือนจำชั่วคราว หรือเรือนจำและทัณฑสถานใกล้เคียงเพื่อรับตัว
ด้านการดำเนินการฉีดวัคซีน นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้ว 20,336 ราย ในเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 11 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิ.ย. 2564) คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำพิเศษพัทยา ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำอำเภอไชยา เรือนจำอำเภอธัญบุรี เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ 12 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำกลางชลบุรี เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางเขาบิน และเรือนจำจังหวัดระนอง ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยผู้ต้องขังที่มีอาการไม่พึงประสงค์จากการรับวัคซีน ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ได้รับการรักษาจนอาการเป็นปกติแล้ว
ในส่วนของกรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 รายในวันนี้ นายอายุตม์ กล่าวว่า ผู้ต้องขัง 2 รายแรก เป็นผู้ป่วยจากทัณฑสถานหญิงกลาง และทัณฑสถานหญิงธนบุรี เข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนอีก 2 ราย เป็นผู้ต้องขังที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง คือ มีโรคประจำตัว และบางรายเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งแพทย์ได้ให้การรักษาด้วยการให้ยา และการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อาการยังคงทรุดลง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด โดยเป็นการเสียชีวิตที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 ราย โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง 1 ราย โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ 1 ราย และโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 1 ราย ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ประสานไปยังญาติ และดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |