9 มิ.ย.64 - เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสรุปภาพรวมการฉีดวัคซีน ว่า นับจากที่มีการฉีดวัคซีนในวงกว้าง ทำให้โอกาสที่จะเจออาการไม่พึงประสงค์ต่างๆปรากฏขึ้น หรืออาจจะมีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ ดังนั้นต่อจากนี้จะมีการรายงานภาพรวมสัปดาห์ละครั้ง จากที่เริ่มฉีดวัคซีนวันที่ 28 ก.พ. มีจำนวนวัคซีนที่จัดสรร ซิโนแวค 4,982,313 โดส แอสตราเซเนกา 1,774,180 โดส รวมทั้งสิ้นการจัดสรรวัคซีนสองชนิด 6,756,493 โดส ซึ่งถ้าแยกจำนวนการฉีดวัคซีนในวันที่ 7-8 มิ.ย. จะเห็นว่าสามารถฉีดได้เกินวันละ 400,000 โดส

ทั้งนี้ยอดรวมของการฉีดมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.คือ 5,107,069 โดส ซึ่งเรามีระบบการรายงานอาการไม่พึงประสงค์หลังจากการฉีดวัคซีน ที่จะสามารถติดตามรายงานมาได้ ถ้าอาการไม่รุนแรงสามารถหายได้เองก็ไม่จำเป็นจะต้องไปติดตามดูข้อมูลลึกๆ แต่ถ้าเข้าขายอาการที่รุนแรงหรือเสียชีวิต ก็จำเป็นที่จะต้องมาดูในรายละเอียดว่าสาเหตุการเสียชีวิต สาเหตุของอาการเหล่านั้นคืออะไร

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ในกรณีที่ปรากฏในสื่อที่เห็นชัดและผู้คนสนใจ คือเรื่องของการเสียชีวิต ตามที่รายงานมาแล้วจำนวน 28 ราย ต้องเรียนว่าไม่ใช่ว่าจะเป็นผลจากวัคซีน ตามหลักการของเราเมื่อมีเหตุรุนแรงจะต้องมีการหาสาเหตุให้ชัดเจน โดยระบบเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ ในระดับพื้นที่จะมีการรวบรวมข้อมูล รายงานสถานการณ์ว่าเกิดเหตุอะไรบ้างในเบื้องต้นได้ ในระดับจังหวัด โดยมีการจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญในระดับเขต เพราะเมื่อมีการฉีดวัคซีนในวงกว้างมากๆหากมีอาการที่เข้าข่ายผู้เชี่ยวชาญก็ต้องดูสาเหตุว่าเป็นอย่างไร ดูความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ เพราะบางกรณีอาจจะเกี่ยวข้อง แต่บางกรณีอาจจะไม่เกี่ยวข้อง จึงต้องให้เวลาในการเก็บข้อมูล

ดังนั้นการจะรู้สาเหตุที่แท้จริง ที่ชัดเจน ขอเรียนว่าต้องมีกระบวนการที่ดูในเรื่องการดูแลรักษา การส่งตรวจในโรงพยาบาล การผ่าชันสูตรหลังเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมาก ซึ่งนอกจากดูรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ต้องผ่าชิ้นเนื้อ ส่งตรวจเพื่ออธิบายสาเหตุ นั่นก็มีความสำคัญเช่นกัน ตัวอย่างกรณีของจ.ปทุมธานี จะเห็นว่ามีผู้เสียชีวิตหลังการฉีดวัคซีน แต่เมื่อมีการตรวจชันสูตรแล้วพบว่ามีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุคนละเรื่องกับวัคซีน ดังนั้น 28 ราย ที่รายงานเข้ามา 12 ราย มีการสรุปสาเหตุชัดเจนแล้วว่าทุกรายมีสาเหตุของการเสียชีวิตที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัคซีน ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน และจะติดตามเรื่องเหล่านี้มานำเสนอให้ทราบเป็นระยะ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ แล้วทุกคนได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนในวงกว้าง เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และทำให้หยุดการระบาดได้ในที่สุด

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า โดยทั่วไปโรคประจำตัว โดยรวมๆแล้วฉีดได้เกือบทุกโรค หากในวันที่ฉีดมีสุขภาพแข็งแรงดีไม่ได้มีอาการอ่อนเพลีย หรือไม่มีอาการกำเริบของโรค หลายคนอาจมีความกังวลใจ แต่ถ้าได้ปรึกษากับแพทย์ประจำก็สามารถขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ ดังนั้นถ้าไม่ได้มีอาการกำเริบของโรค ควบคุมไม่ได้ ก็สามารถฉีดวัคซีนได้โดยที่ไม่ต้องเลื่อนวันนัด หลังฉีดวัคซีนแล้วหากมีอาการไมเกรน ปวดศีรษะ ก็ใช้การประเมินของตัวเองได้ ถ้าปวดเล็กน้อยอาจจะทานยาพาราเซตามอลแก้ปวด แล้วพักผ่อน ก็จะดีขึ้น แต่ถ้าดูไม่ดีขึ้น หรือปวดรุนแรงตั้งแต่ต้น หรือดูว่ามีความกังวลว่าอาจจะเป็นมาก ก็สามารถติดต่อแพทย์ได้โดยที่ไม่ควรจะรอ