9 มิ.ย.64 - เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับประกาศ ศบค.เรื่องแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่อที่ประชุม โดยสาระสำคัญคือการให้กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่และอำนาจในการให้บริการทางการแพทย์หรือสาธารณสุขแก่ประชาชน ร่วมมือกันในการดำเนินการจัดหาวัคซีน และที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมถึงสถานพยาบาลภาคเอกชนจัดหาวัคซีนนั้น ก็ต้องดำเนินการจัดหากับหน่วยงานข้างต้น ไม่ได้หมายความว่า อปท.จะนำเข้าวัคซีนได้เอง และรายละเอียดต้องทำตามกฎหมายโดยสอดคล้องกับงบประมาณ มีผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คอยกำกับดูแล

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงภาพรวมการฉีดวัคซีนว่า หลังจากประชาชนฉีดวัคซีนแล้วจะมีการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะติดตามผลหลังฉีดวัคซีน ไม่ใช่แค่การนั่งดูการอาการเพียง 30 นาที แต่เมื่อทุกคนลงทะเบียนเข้าระบบหลังการฉีดวัคซีนแล้วจะมีการติดตามอาการต่อเนื่อง 7 วัน 14 วัน และในที่ประชุมวันนี้ยังได้พูดคุยถึงการติดตามผลหลังฉีดวัคซีนเพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน ซึ่งระบบข้อมูลนี้จะมีการลงข้อมูลหลังการฉีดวัคซีน

เบื้องต้นถ้าใครมีอาการผิดปกติหรือรู้สึกไม่สบายใจสามารถแจ้งไปที่โรงพยาบาลที่ท่านฉีดวัคซีน หรือสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งจะมีคณะอนุกรรมการจังหวัดที่จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆคอยพิจารณา ถ้ามีรายงานอาการไม่พึงประสงค์คณะกรรมการฯชุดนี้จะทำการสอบสวนดูว่ามีอันตรายหรือไม่อย่างไร ซึ่งผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์จะได้รับการดูแลโดยด่วน บางท่านอาจกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา บางท่านอาจจะต้องติดตามเพื่อรับการชดเชยให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอีกด้วย

"รายละเอียดคณะกรรมการแต่ละจังหวัดจะสอบสวนโรค และพิจารณาการชดเชยตามความรุนแรง ไปจนถึงกรณีหากมีการเสียชีวิต โดยเน้นย้ำประชาชนจะได้รับการดูแลและมีระบบประกันเป็นการชดเชยให้ทุกท่าน และขอฝากเน้นย้ำไปที่จุดฉีดสิ่งสำคัญคือการลงข้อมูล หากลงไปในระบบหมอพร้อมจะมีข้อมูลเรื่องการฉีดวัคซีนและการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ เพื่อเป็นประโยชน์ของผู้ได้รับวัคซีน ทุกคนจะได้รับการดูแลเพื่อให้ประชาชนมั่นใจถึงความปลอดภัยในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีน"