เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในด้านการเดินทางและขนส่ง กระทรวงคมนาคม ในฐานะที่กำกับดูแลงานด้านนี้ก็ไม่หยุดนิ่ง เดินหน้าพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกปลอดภัย และสร้างการเชื่อมโยงโครงข่ายทั้งในเมืองและระหว่างเมือง รวมไปถึงสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในภูมิภาค
ซึ่งการพัฒนารถไฟทางคู่นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกระทรวงคมนาคม โดยกระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดดำเนินการแล้วจำนวน 7 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ ชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร จะเปิดให้บริการในปี 2564 นี้ ส่วนมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ กับลพบุรี-ปากน้ำโพ เปิดให้บริการภายในปี 2565 และเตรียมที่จะเปิดให้บริการ “สถานีกลางบางซื่อ” ศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในเร็วๆ นี้
ดูเหมือนการเดินหน้าพัฒนาระบบทางคู่ของคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย จะราบรื่นไปด้วยดี แต่อยู่ๆ ก็มาสะดุดกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมระยะทาง 323 กิโลเมตร เกิดร้อนระอุ ด้วยกระแสสะพัดว่ามีการทุจริต ฮั้วการประมูล จนทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ต้องออกแถลงการณ์สงสัยถึงการไม่ชอบมาพากลโครงการนี้
โดยในแถลงการณ์ระบุว่า โครงการนี้แบ่งออกเป็น 3 สัญญา แต่พบว่ามีข้อน่าสงสัยในเรื่องความโปร่งใส และน่าสังเกตว่า แต่ละสัญญามีผู้ซื้อซองจำนวนมาก แต่กลับผู้ยื่นเสนอราคาเพียงสัญญาละ 2 รายเท่านั้น โดยสัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อซองประมูล 17 ราย แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียง 2 ราย ผลเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 26,568 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 31 ล้านบาท คิดเป็น 1.12% ของราคากลาง
สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อซองประมูล 18 ราย แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียง 2 ราย ผลเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 26,900 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 13 ล้านบาท คิดเป็น 0.05% ของราคากลาง
และสัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. ราคากลาง 19,406 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อซองประมูล 16 ราย แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียง 2 ราย ผลเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 19,390 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 16 ล้านบาท คิดเป็น 0.08% ของราคากลาง
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ยังระบุว่า เอกสารการประมูลมีราคาถึงชุดละ 5 หมื่นบาท ย่อมเป็นเรื่องปกติที่ผู้ซื้อซองประมูลต้องมีเจตนาที่จะเข้าร่วมยื่นเสนอราคาประมูล แต่กลับมียื่นเสนอราคาเพียงสัญญาละ 2 ราย และเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางไม่มากนัก เป็นที่น่าผิดสังเกต จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน โดยเฉพาะมูลค่าต่ำกว่าราคากลางแค่หลักไม่กี่สิบล้านบาท ซึ่งปกติไม่น่าจะเป็นไปได้
ดังนั้นจึงเห็นว่าการดำเนินประกวดราคาในโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จึงส่อไปในทางที่ไม่โปร่งใส อาจจะเป็นการล็อกสเปก ฮั้วประมูล และอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศ ทาง สร.รฟท.จึงขอเรียกร้อง โดยได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สั่งการชะลอโครงการนี้ไปก่อน และตรวจสอบความไม่โปร่งใสของโครงการนี้โดยเร่งด่วน เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการร้องเรียนอย่างนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า จริงๆ แล้วฮั้วประมูลกันจริงไหม และทุกอย่างต้องรวดเร็วและชัดเจน แจกแจงรายละเอียดได้ เพื่อลบล้างของกังขาที่มีต่อการรถไฟถึงการทุจริตภายในองค์กรที่ลือกันกระฉ่อนมาช้านานแล้ว
งานนี้คงต้องรอดูฝีไม้ลายมือของท่านผู้ว่าฯ นิรุฒ มณีพันธ์ เสียแล้วว่าจะล้างภาพของการรถไฟเกี่ยวกับการทุจริตได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะทำให้เรื่องนี้มีความกระจ่างอย่างไร คงไม่ใช่ตอบแบบข้างๆ คูๆ ให้ไปถามเอกชน ข้อมูลก็อยู่ในทีโออาร์ ในซองอยู่แล้ว ส่วนเขาจะไปคุยกันหรือเปล่า รฟท.ไม่ทราบ อย่าลืมว่าการปราบปรามการทุจริตในวงราชการคือ 1 ใน 12 ข้อของนโยบายท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แถลงไว้กับที่ประชุมรัฐสภา.
บุญช่วย ค้ายาดี
.......................................
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |