‘ทอน’ยกดีทรอยต์ข่มรบ.ปกปิดข้อมูล


เพิ่มเพื่อน    

  "ธนาธร" ยกเมืองดีทรอยต์สหรัฐ บริหารจัดการโควิดข่มไทย ซัดรัฐบาลปกปิดข้อมูลวัคซีนทำ ปชช.สับสน "พท." โวยหยุดลับลวงพรางวัคซีน จี้เลิกแบ่งแยกตรวจเชื้อโควิดแรงงานต่างด้าวหวั่นคุมแพร่ระบาดไม่อยู่ "ส.ส.ปชป." บี้ "บิ๊กตู่-หมอหนู" แจงจัดสรรวัคซีนอ้างราชบุรีคิว 8 มิ.ย. โดนเลื่อนยาว "แรมโบ้" โต้เลขาฯ พท.เสี้ยมพรรคร่วมแตกหวังกลับมาเป็นรัฐบาล

    เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะะก้าวหน้า เฟซบุ๊กไลฟ์รายการ “คิดไปข้างหน้ากับธนาธร” ทางเพจ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดและการจัดการวัคซีน โดยยกตัวอย่างการจัดการที่น่าสนใจจากต่างประเทศมานำเสนอให้เห็นทิศทางการจัดการที่เหมาะสม
    นายธนาธรระบุว่า เดือน มิ.ย.เป็นเดือนที่สำคัญที่รัฐบาลไทยมีแผนที่จะฉีดวัคซีนในปริมาณมากให้แก่ประชาชน โดยมีเป้าหมายที่จะฉีดให้ได้ภายในเดือน มิ.ย.5-6 ล้านโดส หมายความว่าในหนึ่งวันจะต้องฉีดถึง 2 แสนโดสต่อวัน และเดือนต่อๆ ไปอาจจะต้องเพิ่มศักยภาพในการฉีดไปถึง 5 แสนโดสต่อวัน ซึ่งหากรัฐบาลทำไม่ได้ตามแผนนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ประเทศไทยจะกลับสู่สภาวะปกติได้ช้าลงไป แต่ละวันที่ผ่านไปคือความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน
    "กรณีของเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีประชากร 6 แสนคน พื้นที่ 300 กว่าตารางกิโลเมตร หากเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของเมืองดีทรอยต์ จะเห็นได้ว่าเมื่อเข้ามาถึงจะพบกับกำหนดการฉีดวัคซีนทันที เมื่อเลื่อนลงมาดูก็จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดและข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนควรรับรู้เป็นลำดับถัดมา" นายธนาธรระบุ
    ทั้งนี้ นายธนาธรได้นำเสนอหน้าเว็บไซต์ของเมืองดีทรอยต์ พร้อมแสดงให้เห็นว่าในเว็บไซต์เพียงเว็บเดียวนี้ มีข้อมูลทุกเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ไม่ว่าจะเป็นไทม์ไลน์ ซึ่งสามารถดูย้อนหลังได้, จำนวนเตียงที่มีอยู่และใช้ไปแล้ว ทั้งในโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม ฮอสพิเทล และห้องไอซียู, ผลการตรวจหาเชื้อในประชากร แสดงจำนวนและสัดส่วนระหว่างผลบวกและผลลบ รวมถึงแยกเป็นตามพื้นที่และประเภทการตรวจ, จำนวนผู้ป่วยแยกย่อยถึงระดับรายอำเภอและตำบล, จำนวนผู้ได้รับวัคซีนแล้ว, จำนวนวัคซีนที่ได้รับมาจากรัฐบาลกลางลงรายละเอียดไปถึงว่ามีวัคซีนยี่ห้ออะไรในจำนวนเท่าไหร่บ้าง, สถานที่ฉีดวัคซีนทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนมีในจุดใดบ้าง และมีวัคซีนยี่ห้ออะไรให้เลือกบ้าง และข้อมูลนโยบายที่จูงใจให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน
    จากนั้นนายธนาธรได้เข้าเว็บไซต์ของไทยเพื่อเปรียบเทียบกัน โดยยกตัวอย่างหน้าเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งแม้จะมีอินโฟกราฟฟิก แต่ก็ไม่มีฐานข้อมูลที่ลึกและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ ไม่ว่าจะเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับมา และมีวัคซีนอะไรบ้าง รวมถึงข้อมูลประชากรที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด
    ส่วนบนหน้าเว็บไซต์ data.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลกลางของรัฐบาล จะพบว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิดจำนวนหนึ่ง เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ซึ่งสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ แต่ต้องกรอกอีเมล วัตถุประสงค์การใช้งาน และรายละเอียดของการใช้ข้อมูล ทำให้เห็นว่าการจะเข้าไปหาข้อมูลที่มีความสำคัญเช่นนี้ไม่สะดวกสบายและไม่ง่ายเลยสำหรับประชาชน
    นายธนาธรกล่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก เพราะรัฐบาลที่มีความใส่ใจในประชาชนอย่างแท้จริง ย่อมต้องให้ความสำคัญและมีความพยายามอย่างมากในการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้ ที่ตนนำเสนอไม่ได้เกินความสามารถ ได้ใช้แล้วในหลายเมืองทั่วโลก ประเทศไทยก็มีศักยภาพที่จะทำได้ ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจในการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้กับประชาชน ประชาชนจะได้ไม่ต้องมาสับสนกันว่าตกลงตอนนี้วัคซีนรับมาเท่าไหร่แล้ว มีอยู่ในมือเท่าไหร่ จะต้องไปลงทะเบียนที่ไหน ก็หวังว่ารัฐบาลจะมีการปรับปรุงกระบวนการตรงนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วที่สุด
    ขณะที่ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงเรียกร้องให้ภาครัฐและกรุงเทพมหานครเร่งตรวจเชื้อโควิด-19 ในแรงงานต่างด้าว โดยไม่แบ่งแยกว่าเข้าประเทศโดยถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าอยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์เดียวกันควรดำเนินการตรวจเชื้อไปคราวเดียวกันให้เสร็จสิ้น เพราะจากการสังเกตของทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. พบภาครัฐจัดการตรวจเชื้อกลุ่มแรงงานต่างด้าวไม่พร้อมกัน จึงอยากเรียกร้องภาครัฐในเมื่อรัฐบาลมีการตั้งงบประมาณ และ สปสช.เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการเบิกจ่ายแล้ว ควรดูแลแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ให้ได้รับการตรวจหาเชื้อ และเข้าสู่กระบวนการรักษาตามขั้นตอนโดยไม่ต้องแบ่งแยกว่าแรงงานกลุ่มไหนถูกกฎหมายหรือไม่ถูกกฎหมาย  
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า รัฐบาลล้มเหลว สร้างความสับสนให้กับประชาชน รัฐบาลลับลวงพราง สร้างความคาดหวังให้กับประชาชนว่าจะได้ฉีดวัคซีน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถบริหารจัดการให้สำเร็จตามที่ประกาศได้ ดีเดย์ 7 มิ.ย.ที่จะลุยฉีดวัคซีนปูพรมทั่วประเทศ ให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทย 65 ล้านคน  ภายในสิ้นปี 2564 น่าจะเป็นไปได้ยากสัญญาการส่งมอบที่ทำไว้ว่าแอสตร้าเซนเนก้าจะส่งให้ประเทศไทยเดือนละ 6 ล้านโดส 10 ล้านโดส แต่ล็อตแรกมาแค่ 1.8 ล้านโดส ยังขาดอีกกว่า 4 ล้านโดส ต้องนำเข้าวัคซีนซิโนแวคมาเพิ่มจำนวน 11 ล้านโดส วัคซีนซิโนแวคจึงกลายเป็นตัวหลัก
    ส่วน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงถึงการจัดสรรการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ประชาชน จ.ราชบุรี ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดตามแผนการฉีดวันแรกในวันที่ 7 มิ.ย. แต่วันที่ 8 มิ.ย.เป็นต้นไปถูกเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีร กูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ชี้แจงต่อประชาชนด้วยว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนวันไหนกันแน่
     วันเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี? ตอบโต้กรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. ระบุพรรคร่วมรัฐบาลกำลังจะแพแตก อยู่ได้อีกไม่นานว่า รัฐบาลยังมีเสถียรภาพมั่นคง รัฐมนตรีทุกคนทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาลยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะขัดแย้งกัน เพราะมีนายกรัฐมนตรีคอยเป็นหลักและให้กำลังใจ ทุกคนใน ครม.ที่ทำงานเสียสละเพื่อบ้านเมือง โดยนายกฯ เน้นให้ทุกคนเสียสละ อย่าทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์แอบแฝงส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
    "การออกมาพูดของนายประเสริฐ เด็กเมื่อวานซืนก็อ่านทางออกว่าพรรคเพื่อไทยอยากมีอำนาจรัฐ เพราะเป็นฝ่ายค้านมานานถึง 7 ปี คงทำใจไม่ได้ เพราะเคยอยู่ในอำนาจรัฐมายาวนาน และผมมีแหล่งข่าวน่าเชื่อถือว่าให้สังเกตในห้วงระยะเวลานี้ นายโทนีทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2 ศรีพี่น้องจะพยายามออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบ่อยๆ รับมือสอดคล้องกันกับพรรคเพื่อไทย และกลุ่มเคลื่อนไหวออกมาขับไล่นายกฯ เป็นระยะในช่วงนี้ เพราะเป้าหมายคือล้มรัฐบาลที่อยากกลับขึ้นมามีอำนาจโดยไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่สนใจวิกฤติโควิด" นายเสกสกลระบุ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"