คึกคัก! คิกออฟฉีดวัคซีนวันแรกทั่วประเทศ “ประยุทธ์” ลงตรวจสถานที่บางซื่อ-สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ลั่นทุกคนได้ฉีดแน่นอน แต่จังหวัดไหนได้มากน้อยต้องขึ้นกับสถานการณ์ อย่าไปฟังสื่อโซเชียลให้มากนัก พร้อมขอโทษหากทำให้ไม่สบายใจ อ้อนรักทุกคนไม่มีลำเอียง เซ็นสัญญาซื้อ “จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน-ไฟเซอร์” อีก 25 ล้านโดส "หมอโอภาส" เผยวันประวัติศาสตร์ ครึ่งเช้าทั่วไทยฉีดแล้วกว่า 1.4 แสนราย ใช้เวลาเฉลี่ย 51 นาทีต่อคน
เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน ถือเป็นวาระแห่งชาติวันแรกที่คิกออฟฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันสัญลักษณ์จะจัดการวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งที่สถานีกลางบางซื่อเป็นการฉีดให้บุคลากรทางด้านขนส่งสาธารณะ และสัปดาห์นี้เราจะเน้นการฉีดครูทั่วกรุงเทพฯ เพื่อรองรับการเปิดเทอมของนักเรียน
เมื่อถามว่าตั้งเป้าจะฉีดให้ได้ประมาณเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้หลายโรงพยาบาลบอกว่าจะเลื่อนในวันที่ 8 มิ.ย.ออกไปก่อน นายอนุทินกล่าวว่า ฟัง สธ. ไม่ต้องไปฟังโรงพยาบาล ส่วนที่ประชาชนสับสน เพราะฟังหลายทาง ฟังทางไลน์ ทางโซเชียลมีเดีย แต่ไม่ได้ฟังผู้ที่รับผิดชอบ คือ รมช.สาธารณสุข, ปลัดสาธารณสุข, อธิบดีกรมควบคุมโรค และอธิบดีกรมการแพทย์ เราก็ให้การสื่อสารมากที่สุดเท่าที่จะมากได้แล้ว แต่ละโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขต้องออกมาแก้ข่าวว่าไม่มีการเลื่อน และไม่เคยเลื่อน ฉะนั้นต้องฟังจากคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ต้องสั่งเยอะ ให้ฟังทีเดียว
เมื่อถามว่า ยืนยันเดือน มิ.ย.วัคซีนเข้ามา 6 ล้านโดสใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยืนยันว่ามีวัคซีนฉีดตามนัด ใครนัดได้วันไหนก็มีวัคซีนฉีดวันนั้น
และในเวลา 08.30 น. ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยนายกฯ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหน่วยงานส่วนภูมิภาค 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, ชลบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น และภูเก็ต โดยได้กล่าวทักทายพร้อมสอบถามความเรียบร้อยแต่ละจังหวัดว่าเป็นอย่างไรบ้าง เรียบร้อยใช่ไหม และขอให้กำลังใจทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ที่มารับบริการฉีดวัคซีน หลายอย่างเรามีการดำเนินการมาต่อเนื่อง มีการปรับเรื่องของการฉีดเพื่อไม่ให้มีปัญหาในระยะยาว ซึ่งมีการปรับเป็นเดือนๆ ไป
“ผมย้ำว่าทุกคนได้ฉีดแน่นอน ไม่ว่าจะลงทะเบียนที่ไหนก็ตาม ซึ่งวัคซีนก็ทยอยเข้ามาตามลำดับเรื่อยๆ ผมก็ได้รับรายงานจากรองนายกฯ ว่าวัคซีนเข้ามาจำนวนมากในวันนี้ เนื่องจากมียอดจองจำนวนมาก ก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเราก็จะนำวัคซีนที่มีอยู่ค่อยๆ ทยอยฉีดไปก่อน วัคซีนมีไม่มากเท่าคนฉีด มันก็ยากอยู่พอสมควร มันมีปัญหาเพราะคนทั่วโลกต้องการวัคซีนเหมือนกัน ไม่ใช่นายกฯ ไม่ห่วง นายกฯ ก็ห่วงทุกคนนั่นแหละ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ได้มากน้อยขึ้นกับสถานการณ์
จากนั้นนายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมว่า วันนี้เป็นการบริการฉีดทั้งประเทศพร้อมกัน เนื่องจากเราได้วัคซีนล็อตใหม่ในเดือน มิ.ย. ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทยอยฉีดมาตั้งแต่เดือน เม.ย. ทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งวันนี้วัคซีนก็เข้ามาอีกล็อตหนึ่ง เราต้องบริหารสถานการณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน วันนี้ครูทุกจังหวัดได้รับการฉีดพร้อมกันหมด ขอยืนยันว่าวัคซีนทุกล็อตทุกจังหวัดจะได้ฉีดเหมือนกันหมด จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จากนี้ก็จะมีการฉีดไปเรื่อยๆ ซึ่งนายอนุทินก็ยืนยันแล้ว ทั้งนี้ เรื่องของเป้าหมายเรื่องการฉีดคงจะไม่พูดแล้ว เพราะพูดไปหลายครั้งแล้ว ซึ่งวันนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการฉีดเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า วันนี้มีวัคซีนฉีดไปแล้วกว่า 3.5 ล้านโดส ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค เราจัดบริหารวัคซีนเป็นรายสัปดาห์ ได้แจกจ่ายไปยังจุดที่ให้บริการฉีดวัคซีน ซึ่งวันนี้ก็ให้ในส่วนของ กทม.และผู้ประกันตนมาตรา 33 มหาวิทยาลัย เพื่อให้เพียงพอกับครูในการรองรับการเปิดเรียน ซึ่งมีครูประมาณ 5,000 คน รวมถึงครูต่างจังหวัดด้วย และขอบคุณสถานที่ที่ให้บริการฉีดทุกจังหวัดที่เหน็ดเหนื่อย เสียสละ บางคนก็เสี่ยงอันตราย บางคนก็เจ็บป่วย ก็ต้องชื่นชม และก็ต้องเห็นใจ เพราะบางคนมีปัญหาครอบครัว ทุกคนทำงานกันอย่างเสียสละ ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่า รัฐบาลทำอย่างเต็มที่ คำว่าเต็มที่ก็คือเต็มที่ตามสถานการณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันของประเทศและสถานการณ์วัคซีนโลก สถานการณ์รอบบ้านยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่ เราก็ต้องบริหารให้สอดคล้องกับความเสี่ยงในกลุ่มต่างๆ ของเรา
“อะไรที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน ก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะเราทุกคนตั้งใจว่าจะทำเพื่อคนไทยทุกคน การจะทำอะไรให้คนจำนวนมากมีปัญหาแน่นอน ซึ่งเราปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้อยู่แล้ว เราก็ไปหาสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ เพื่อให้ดีที่สุด วันนี้อย่ามีคำถามอะไรเลย พอถามก็มีปัญหาอีก เพราะคนก็ไปตีความอย่างอื่นอีก ถือว่าผมเล่าให้ฟังก็แล้วกัน” นายกฯ กล่าว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อได้ฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มขนส่งสาธารณะตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.-6 มิ.ย.2564 ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี สามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วกว่า 154,637 คน แบ่งเป็นบุคลากรด้านการขนส่ง 133,894 คน และหน่วยงานอื่นๆ อีก 20,743 คน โดยตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.-ธ.ค.2564 จะเปิดให้บริการแก่กลุ่มองค์กร ประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านเครือข่ายค่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะรองรับได้เฉลี่ยวันละ 10,000 คน และสามารถเพิ่มได้อีกวันละประมาณ 5% โดยจะครอบคลุมขีดความสามารถในการให้บริการได้ 1,365 คน/ชั่วโมง
นายกฯ รักทุกคนไม่ลำเอียง
ต่อมาเวลา 10.25 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ กทม. โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง และได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้ดำเนินการฉีดได้เลย ฉีดให้เร็วไม่ต้องรอ เพราะทุกคนรอมานานแล้ว และไม่ต้องกลัวเข็ม ต้องกลัวโควิดมากกว่า และหลังจากฉีดเข็มแรกแล้วภูมิต้านทานก็ขึ้นมาเยอะ ดีใจกับทุกคนที่ได้ฉีดวันนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลอยากให้ฉีดทุกคน สำหรับภาคบริการโรงแรมและการให้บริการสาธารณะมีโอกาสเสี่ยง เราได้มีการปรับตามสถานการณ์ และวันนี้อาจมีปัญหาอยู่บ้าง ค่อยๆ จัดระเบียบ ยืนยันว่าไม่มีใครอยากเลื่อน
“นายกฯ รักทุกคนไม่มีลำเอียง วันนี้ต้องบริหารให้ได้ เห็นใจผู้ว่าฯ แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานหนักและเสี่ยง และขออย่าเชื่อทุกอย่าง ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขออย่าไปสนใจ เพราะจะทำให้บริหารงานยากขึ้น ซึ่งผมบังคับและห้ามไม่ได้ โดยเฉพาะในโซเชียลจำนวนมาก แต่ก็อย่าไปสนใจมากนัก โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงในโซเชียลต่างๆ เพราะยิ่งทำให้การบริหารงานนั้นยากขึ้น นายกฯ เป็นกังวลทุกวัน ไม่มีความสุข จะมีความสุขได้ยังไง ในเมื่อพวกเราลำบาก ผมขออย่างเดียวขอให้ทุกคนเชื่อมั่น หากเชื่อมั่นทำได้หมด" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า ขอขอบคุณทุกคนที่สมัครใจมาฉีดวัคซีนกันมากขึ้น ยืนยันฉีดพร้อมกันทั้งประเทศและทุกจังหวัดทยอยมากน้อยตามสถานการณ์ รวมทั้งตามคลัสเตอร์ต่างๆ และวันนี้ดูด้านเศรษฐกิจว่าทำอย่างไรให้ประชาชนมีรายได้และมีอาชีพ ยืนยันทยอยฉีดทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ส่วนตรงไหนมีคลัสเตอร์ใหม่ๆ ก็มีการสำรองวัคซีนไว้ เพื่อปรับตามสถานการณ์ รวมทั้งวัคซีนที่ติดต่อไว้แล้วทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค ก็จะทยอยส่งเข้ามา ขณะเดียวกันก็ได้ลงนามกับบริษัท Johnson & Johnson เพื่อนำวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติม โดยรัฐบาลจะพิจารณากระจายวัคซีนไปยังทุกพื้นที่ โดยพิจารณาจากข้อมูล สถานการณ์ความจำเป็นและประมาณวัคซีนที่มีอยู่ในแต่ละเดือน และขออย่าเอาตัวเลขมาทำให้สับสนอลม่านไปหมด ย้ำว่าเป็นไปตามแผนหลักคือประเทศไทยเริ่ม มิ.ย.เป็นต้นไป
"ได้มีการลงนามสัญญาสั่งจองวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และไฟเซอร์ รวมกันจะได้วัคซีนเพิ่มมาอีกประมาณ 25 ล้านโดส รวมทั้งวัคซีนซิโนแวคอีกจำนวน 8 ล้านโดส เพื่อให้ครบ 100 ล้านโดส ตามที่กำหนด"
ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า เบื้องต้นได้กำหนดจัดการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 7-26 มิ.ย.64 ซึ่งวัคซีนล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดส จะฉีดให้กับผู้ประกันตนที่แจ้งความประสงค์ต้องการรับวัคซีนโควิด-19 กับนายจ้าง และบันทึกลงระบบ e-service ตามที่สำนักงานประกันสังคมได้ทำการสำรวจตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และขอให้ผู้ประกันตนทุกคนมั่นใจ กระทรวงแรงงานพร้อมดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการวัคซีนโควิด-19 อย่างแน่นอน
เฉลี่ยใช้เวลา 51 นาที/คน
ส่วน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงภาพรวมคิกออฟฉีดวัคซีนทั่วประเทศว่า วันนี้เป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของไทย เพราะเป็นวันที่เราเริ่มฉีดวัคซีนครั้งใหญ่วันแรกอย่างเป็นทางการ ตามนโยบายวาระแห่งชาติด้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งในภาพรวมที่สถานีกลางบางซื่อมีผู้มารับการฉีดวัคซีนตามที่กำหนดไว้ ได้แก่ ผู้พิการ 250 คน เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่จะต้องให้บริการประชาชน 750 คน ครูในเขตกรุงเทพมหานคร 4,000 คน และประชาชนที่จองคิวผ่านทางแอปพลิเคชัน และระบบต่างๆ 5,000 คน โดยเป้าหมายในวันที่ 7 มิ.ย.จะฉีดให้ได้ 10,000 คน โดยใช้เวลาเฉลี่ยในการฉีดแต่ละคนประมาณ 51 นาที
“ภาพรวมวันที่ 7 มิ.ย.ได้มีการเปิดจุดฉีดทั้งหมดทั่วประเทศตามที่ได้รับรายงานเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ทั้งหมด 986 จุด มีผู้ที่ได้รับการฉีดที่เข้าสู่ระบบรายงานมาแล้วทั้งหมด 143,116 คน โดยใช้เวลาในการฉีด 2-3 ชั่วโมง เป็นไปตามเป้าหมายทุกประการ โดยผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี ได้รับบริการฉีดวัคซีนไปทั้งสิ้น 73,273 คน ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่อายุน้อยกว่า 60 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนไปทั้งสิ้น 21,924 คน อสม.และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ อีก 12,081 คน ในภาพรวมถือว่าสถานการณ์การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างคึกคัก”
ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยจุดบริการฉีดวัคซีนนอก รพ. ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, อาคาร SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ และไอคอนสยาม พร้อมระบุว่า ระหว่างวันที่ 7-14 มิ.ย.นี้ หน่วยบริการวัคซีนนอกโรงพยาบาลที่ กทม.ร่วมกับหอการค้าไทย ทั้ง 25 จุด จะให้บริการวัคซีนจุดละ 500 คน
พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ระบุว่า รพ.กองทัพบกทุกแห่งทั่วประเทศได้ใช้กำลังพลสายแพทย์ 950 นาย สนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลประจำจังหวัด ร่วมในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนสถานที่ที่ใช้ในการฉีดวัคซีนจำนวน 38 แห่ง โดย รพ.ในสังกัดกองทัพบกมีศักยภาพที่จะให้บริการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้วันละ 3,000 คน และขณะนี้มีผู้ที่ลงทะเบียนขอเข้ารับวัคซีนกับโรงพยาบาลกองทัพบก 79,172 คน สำหรับโรงพยาบาลค่าย/สถานที่ฉีดวัคซีนที่กองทัพบกรับผิดชอบในแต่ละแห่ง จะมียอดให้บริการฉีดวัคซีนในแต่ละวัน 80-1,500 คน ตามการลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม
สำหรับการเคลื่อนไหวในการฉีดวัคซีนในต่างจังหวัดนั้น เริ่มที่ปริมณฑล นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกที่ห้างเมกาบางนา และศาลาวัดบางพลีใหญ่กลาง โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าฯ มารอต้อนรับ ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้มีประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุ มาเข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวนกว่า 1,500 คน ขณะที่ที่บริเวณชั้น 5 ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง และสำนักงานเทศบาลตำบลบางปู ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งของการฉีดวัคซีนในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ ก็มีประชาชนมาเข้าคิวรอรับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก โดยบรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ส่วนที่ยิมเนเซียมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่พร้อมกล่าวว่า ปทุมธานีเราได้รับวัคซีนโควิด-19 จากรัฐบาลเพียงพอกับพี่น้องประชาชนที่ลงทะเบียนไว้จนถึงวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับวัคซีนมากที่สุด เนื่องจากสถานที่ก็ดี บุคลากรก็ดี และสามารถบริหารจัดการได้
ทั่วไทยฉีดวัคซีนคึกคัก
ที่ จ.เชียงใหม่? บรรยากาศการฉีดวัคซีนวันแรกที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จุดฉีดวัคซีนหลักของจังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนที่ได้ลงทะเบียนจองรับวัคซีนโควิด-19 รอบเดือน มิ.ย.กับโรงพยาบาลนครพิงค์ ผ่านระบบหมอพร้อม ทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดฉีดแห่งนี้สามารถรองรับผู้มาฉีดวัคซีนได้ 1,500-2,000 คนต่อวัน?
ด้านหอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก สถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของอำเภอเมือง บรรยากาศการฉีดวัคซีนวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวพิษณุโลกกลุ่มผู้เสี่ยงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่ลงทะเบียนผ่านแอปหมอพร้อมได้เดินทางมารอฉีดวัคซีนตั้งแต่เช้า คนแรกๆ ที่มารอมาตั้งแต่เวลา 06.00 น. จากกำหนดเริ่มฉีดวัคซีน 08.30 น. ส่วนอำเภอต่างๆ อีก 8 อำเภอ โรงพยาบาลชุมชนประจำอำเภอเป็นผู้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยกำหนดสถานที่ฉีดวัคซีน ณ ศูนย์ประสานแผนประจำอำเภอ
ขณะที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ ลำปาง พร้อมคณะได้เดินทางมาดูการฉีดวัคซีนวันแรกของภาคประชาชน โดยระบุว่า การฉีดวัคซีนของจังหวัดลำปางยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ พร้อมยืนยันว่าคนที่ลงทะเบียนกับหมอพร้อมทุกคนได้ฉีดครบทุกคนแน่นอน
สำหรับพื้นที่ภาคกลางนั้น ที่โรงพยาบาลอ่างทอง ซึ่งเป็นวันแรกกลับเกิดปัญหา เมื่อนายอุดม แจ่มปัญญา อายุ 67 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง ที่ได้ลงทะเบียนไว้แต่กลับไม่มีชื่อ และต้องลงทะเบียนใหม่ ไม่รู้ว่าจะได้ฉีดวันไหน
ส่วนบรรยากาศการฉีดวัคซีนที่ จ.ชัยนาท ก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ที่ได้ลงทะเบียนไว้ต่างเดินทางยืนเข้าคิวรอกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า ก่อนเจ้าหน้าที่จะเริ่มแจกบัตรคิวในเวลา 8 โมง
ด้านจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังมาตามนัดหมายตั้งแต่เช้า ส่วนที่ จ.นครราชสีมานั้น ที่ห้องโคราชฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ได้มีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จาก พล.อ.ประยุทธ์มาคิกออฟ แต่สัญญาณกลับขาดๆ หายๆ ตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักทั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย
ขณะที่ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ มอบหมายนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ รองผู้ว่าฯ พร้อมคณะ ติดตามการฉีดวัคซีนประชาชนในพื้นที่อำเภอสตึก และอำเภอบ้านด่าน ซึ่งบรรยากาศทั่วไปมีกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยงโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และประชาชน เดินทางไปรับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง
ที่หอประชุมร่มไทร องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ได้จัดให้เป็นสถานที่สำหรับฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนทั่วไป ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 โรค พบว่ามีประชาชนมาเข้าคิวตั้งแต่เช้าอย่างเนืองแน่น ไม่ต่างจากที่ศูนย์ประชุมพุทธอุทยาน ต.โนนหนามแท่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ
ที่ จ.ตราด โรงพยาบาลตราดได้ฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว โดยก่อนการฉีดวัคซีนมีฝนตกลงมาตั้งแต่เช้า ส่งผลให้การทำงานของทีมแพทย์และพยาบาลและเจ้าหน้าที่ต้องทำงานลำบากมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มฉีดเป็นผู้สูงอายุที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
ส่วนพื้นที่ภาคใต้ก็คึกคักไม่แพ้กัน โดยบรรยากาศที่โรงละคร สนามหน้าเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนก็มีผู้มาเข้าคิวอย่างคึกคักต่อเนื่อง ไม่ต่างจากที่ลานอเนกประสงค์โรงพยาบาลกระบี่ ที่ต่างพร้อมใจแห่กันเดินทางมารับบริการการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเนืองแน่น ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานในการซักประวัติ
จ.ตรัง ได้เปิดจุดฉีด 2 จุด คือโรงพยาบาลตรัง และห้างสรรพสินค้าโรบินสันตรัง ซึ่งก็มีผู้มาเข้าคิวแต่เช้า เช่นเดียวกับที่ศูนย์ฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยตั้งเป้าหมายที่จะฉีดให้ได้อย่างต่ำ 1,000 คน ภายในเวลาครึ่งวันเช้า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |