เข้าทำนองปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง เก็บเล็กผสมน้อยข่าวสารตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลองหาว่ามีใครสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ไปต่อในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมบ้าง

ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่ไม่กี่คน และหนึ่งในนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องนี้หากมองแค่เรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง เจ้านายผู้ใต้บังคับบัญชา คงไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากไส้เดือน แต่เมื่อเป็นเรื่องของประเทศชาติ จะเอาเรื่องส่วนตัว บุญคุณต้องตอบแทนมาเป็นสาระสำคัญไม่ได้ ...๐

            คงต้องเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่สามารถปรับคณะรัฐมนตรีได้ ควรเห็นแก่ประเทศมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง มาถึงวันนี้สถานภาพทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยิ่งกว่าร่อแร่ ถ้าจะตายเดี่ยวก็คงไม่ต้องมานั่งพูดอะไรกันมาก แต่การดันทุรังอุ้มกันอยู่อย่างนี้ มันจะพังกันหมด แล้วที่คุยโม้กันว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐประหารเพื่อชาติ ประชาชน เพื่อลดความขัดแย้ง เพื่อปฏิรูปประเทศ มันก็ไม่ต่างจากการผายลม พูดอย่างทำอย่าง เสียเวลาของประชาชน ...๐

            การแฉเรื่องนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คงไม่จบลงง่ายๆ ที่สำคัญนาฬิกาบางเรือนใส่มาก่อนท่านจะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาล คสช. แต่กลับไม่ปรากฏว่าท่านแสดงไว้ในบัญชีทรัพย์สินเลย ...๐

            หลายปีมานี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงไม่เคยได้รับรู้การมีนาฬิกาเรือนละแสนเรือนละล้านของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้แต่เรือนเดียว และนี่เป็นจุดตายของรัฐบาล คสช. ต่อให้ ป.ป.ช.มีมติออกมาว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ใช่ว่าจะทำให้ข้อสงสัยในตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลดลงไปได้ ซ้ำร้าย จะยิ่งบานปลายไปถึง ป.ป.ช. ที่จะถูกมองว่าต่างตอบแทนรัฐบาล ...๐

            สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาต้องทำคือ นึกถึงสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องมาตลอด นั่นคือการปฏิรูปประเทศ การปราบปรามคอร์รัปชัน อะไรที่เป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้เดินไปสู่เป้าหมายได้ ควรขจัดออกไป และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือหนึ่งในอุปสรรคดังกล่าว ...๐ 

            การเมืองยุคเปลี่ยนผ่านจะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิด หากสังคมยังคงคลางแคลงใจ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกว่าปฏิรูป อาจเสียเปล่า 3 ปีที่ผ่านมาเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ ฉะนั้นถึงเวลาแล้ว เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจากการร่วมรัฐบาลเสีย ก่อนทุกอย่างจะพังลงทั้งหมด โดยเฉพาะศรัทธาจากประชาชน จะไม่มีกองหนุนใดๆ สนับสนุนรัฐบาล คสช.อีก ...๐

            ลองหันไปดู ณ เวลานี้ คนเคยเป็นมิตร เขาคิดอย่างไร  "ประสาร มฤคพิทักษ์" อดีต ส.ว. และแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.ตั้งหัวเรื่อง "แหวนมารดา นาฬิกายืมเพื่อน แถมเพื่อนก็ตายไปแล้ว” เป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายพะอืดพะอมไปด้วยกันหมด นายกรัฐมนตรีก็ไม่สบายใจ ป.ป.ช.ก็กระอักกระอ่วนใจ สื่อมวลชนก็คาใจ คอการเมืองทั้งหลายก็ขัดอกขัดใจ รองนายกรัฐมนตรีก็หมองใจ

      เหตุผลก็คือ 1.คนระดับรองนายกรัฐมนตรีที่มากบารมีอย่างนี้ อับจนถึงขนาดต้องยืมนาฬิกาเพื่อนใส่เชียวหรือ 2.มันมีนาฬิกากี่เรือนกันแน่ที่เพื่อนให้ยืม ณ วันนี้โผล่มาเป็นเรือนที่ 22 แล้ว จะยืมกันมากมายอะไรขนาดนั้น 3.เพื่อนผู้ให้ยืมตายไปหมดแล้วทุกคนหรืออย่างไร 4.ถ้าเพื่อนตายแล้ว เพื่อนเหล่านั้นไม่มีญาติโกโหติกาที่จะรับคืนนาฬิกาหรือ หรือว่าตกลงกันไว้ก่อนตายว่าถ้าตายแล้วก็ไม่ต้องคืน ...๐

            แม้ "ประสาร มฤคพิทักษ์" ยั้งเอาไว้ไม่ใส่เต็มๆ คิดแค่ว่า นายกรัฐมนตรีก็ไม่สบายใจ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลองถามใจตัวเองดู ว่าไม่สบายใจที่ต้องอุ้ม หรือเกรงใจเพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายเก่า ถ้ายังรู้สึกแบบนั้นอยู่เตรียมตัวตายยกเข่ง เพราะเรื่องนาฬิกา เป็นจุดตายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากไม่ขจัดออกไป ตายยกรัฐบาล ...๐