อดีต ส.ส.ปชป.แฉ 3บริษัทส่อโกงฮั้วติดตั้งระบบ ICT สภาใหม่ อาจมีข้าราชการร่วม จี้ประธาน สนช.ตรวจสอบ ขณะที่รองประธาน สนช.ตบปากนักการเมืองวิจารณ์ไทยยั่งยืน ชวนลงพื้นที่ด้วยกัน ตื่นตี 4 แล้วไปขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศ กินข้าวกล่องบนเครื่อง รวมค่าใช้จ่ายคนละ 80 บาท
ที่สำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ สามเสน นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากลในการเสนอของบประมาณการติดตั้งเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า จากการที่สภามีการของบไปยังรัฐบาลกว่า 8,135 ล้านบาท ซึ่งเกินจากแผนเดิมที่ตั้งไว้เพียงกว่า 3,000 ล้านบาท โดยจากการตรวจสอบใบเสนอราคาของบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง 3 บริษัทที่รัฐสภาว่าจ้างด้วยวิธีพิเศษให้ทำหน้าที่ติดตั้งระบบสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่
โดยพบว่า ทั้ง 3 บริษัทมีการเสนอราคาที่ส่อฮั้วที่ผิดปกติ มีการเสนอรายการสินค้าที่เป็นสินค้าของบริษัทในเครือตัวเองที่กว่า 60 รายการโดยไม่ได้สำรวจสินค้าจากบริษัทอื่นตามกระบวนการ อีกทั้งยังพบว่า 1 ใน 3บริษัทที่เสนอติดตั้งนาฬิกาดาวเทียมให้อาคารรัฐสภานั้น มีที่ตั้งบริษัทเป็นเพียงบ้านเดี่ยวชั้นเดียว มีทุนจดทะเบียนบริษัทเพียงแค่ 6 ล้านบาท และไม่ได้จดทะเบียนต่อกระทรวงพาณิชย์ว่าเป็นบริษัทนำเข้าหรือติดตั้งนาฬิกาโดยตรง แต่เป็นเพียงบริษัทจำหน่ายระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
นายวิลาศยังกล่าวอีกว่า ตนยังตั้งข้อสังเกตถึงการแต่งตั้ง ผอ.สำนักสารสนเทศของรัฐสภา ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านไอซีทีโดยตรง อย่างไรก็ตาม มีการเสนองบประมาณซึ่งใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยไม่ได้มีการกลั่นกรองงบประมาณก่อน จึงมีความไม่ชอบมาพากลว่ามีการฮั้วกันหรือไม่ โดยเรียกร้องให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตรวจสอบการเสนองบประมาณครั้งนี้ ที่เกินไปจากความเป็นจริงกว่า 8,135 ล้านบาท ว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่ ควรเอาคนผิดมาลงโทษ
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองอย่างเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ โจมตีโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เป็นการใช้งบประมาณประเทศแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และเป็นการหาเสียงให้รัฐบาลล่วงหน้าว่า
"อยากให้คนที่พูดลงมาดูพื้นที่ด้วยกัน ลองมาตื่นตี 4 แล้วไปขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศ กินข้าวกล่องบนเครื่อง รวมค่าใช้จ่ายคนละ 80 บาท"
รองประธาน สนช.กล่าวว่า ชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่คิดโครงการนี้ขึ้นมา เพราะประชาชนได้มาปรึกษาหารือในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ขณะที่ภาครัฐก็ได้ลงไปใกล้ชิดประชาชนถึงระดับหมู่บ้าน ที่ผ่านมาเมื่อเราไม่ลงพื้นที่ ก็โจมตีว่าไม่ได้มาจากประชาชน แต่พอลงพื้นที่ก็บอกว่าหาเสียงล่วงหน้า พอเราคิดอะไรได้ก็คิดจากข้างบน ไม่ลงไปถึงข้างล่าง ทั้งที่ความจริงอะไรที่ตรงกับความต้องการของประชาชน ก็ให้จังหวัดหรือท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ โดยที่ สนช.ไม่ได้เป็นภาระงบประมาณกับกระทรวงต่างๆ แต่สิ่งที่ได้คือความภาคภูมิใจของประชาชนที่มีผู้ใหญ่ไปรับฟังความเห็นถึงบ้าน จึงไม่เข้าใจว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอย่างไร
เมื่อถามว่า โครงการไทยนิยม ยั่งยืน สนช.ไปเกี่ยวข้องอะไร นายพีระศักดิ์กล่าวว่า โครงการนี้รัฐบาลเสนอเป็นกฎหมายผ่าน สนช. เราจึงมีหน้าที่ไปดูและตามว่าได้ผลจริงหรือไม่ ตามที่รัฐบาลได้เสนอต่อ สนช. ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่ต้องติดตาม ไม่ใช่เป็นการหาหน้าที่ใหม่เพิ่มแต่อย่างใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |