สีกา จ. สารภาพสิ้นไส้ เส้นทางเผ่น "เมธี" ข้ามโขง ขณะที่กองปราบฯ บุกค้นวัดสระเกศฯ อีกรอบ ยึด CPU ไป 1 เครื่อง เตรียมขอหมายค้นกุฎิพระอีกรูป หลังพบภาพลามกอนาจารระหว่างพระรูปหนึ่งกับฆราวาสชาย ตั้งแล้วพระเทพรัตนมุนี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ พระราชวิสุทธิดิลก รักษาการเจ้าอาวาสวัดสามพระยา
กรณีอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร กทม. ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด หลบหนีหมายจับเผ่นข้ามแม่น้ำโขงด้านชายแดนจังหวัดนครพนม โดยการช่วยเหลือของลูกศิษย์สาวนาม ”สีกา จ.” เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามตามดมกลิ่นจนเจอรถตู้พาหนะจอดทิ้งไว้ในวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี หมู่ 9 ต.นางาม อ.เรณูนคร ก่อนจะจู่โจมล็อกตัวสีกา จ. คาด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 (นครพนม-คำม่วน) ฝั่งขาเข้า ขณะเดินทางกลับประเทศไทย
ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า “สีกา จ.” เปิดปากรับสารภาพแล้ว โดยเล่าว่าใช้รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมาด้วยกัน 3 คน มีอดีตพระพรหมเมธี คนขับรถและตน มุ่งหน้าไปยังภาคเหนือของไทย ก่อนจะล่องลงมาที่จังหวัดนครพนม
จากนั้นโทรศัพท์ติดต่อ ”นางจัน” หญิงชาวลาว ให้มารับข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว โดยอ้างกับนางจันว่าอดีตพระพรหมเมธีอยากเดินทางไปเที่ยวที่เมืองเชียงขวาง อยู่ทางภาคเหนือของลาว นางจันพาซื่อจึงข้ามมารับบุคคลทั้งสามไป เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาสีกา จ. บอกกับนางจันว่าเป็นห่วงรถตู้ที่จอดตากแดดตากฝนทางฝั่งไทย ให้ใครก็ได้ไปขับไปไว้ที่วัดใดวัดหนึ่ง นางจันอาสาให้ลูกชายข้ามแม่น้ำโขงมาขับรถคันดังกล่าวไปจอดที่ข้างโรงครัววัดป่าสุคนธรักษ์ เหตุที่ให้ไปจอดวัดนี้ นางจันเล่าว่าเพราะรู้จักกับ ”พระหนุ่ม” เจ้าสำนักมาก่อน เพราะพระรูปนี้ข้ามไปมาอยู่เป็นประจำ
กระทั่งทราบข่าวทางโทรทัศน์ว่าอดีตพระพรหมเมธีหนีหมายจับจากประเทศไทย จึงตกใจปรึกษากับญาติๆว่าจะทำอย่างไร หากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาเจอตนอยู่กับสีกา จ. อาจจะติดร่างแหไปด้วย นางจันจึงขอร้องสีกา จ.ให้กลับประเทศไทย โดยจะขับรถข้ามสะพานไทย-ลาว 3 (นครพนม-คำม่วน) มาส่งที่ฝั่งไทยในเช้าวันที่ 31 พ.ค. ปรากฏว่ามาถึงด่าน ตม.ก็ถูกเจ้าหน้าที่ล็อกตัวไปสอบสวน ก่อนจะปล่อยตัวนางจันพร้อมญาติกลับประเทศลาว หลังสอบปากคำแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนสีกา จ.ถูกเค้นสอบอย่างหนักจนเปิดปากรับสารภาพดังกล่าว
ล่าข้ามประเทศ
สำหรับอดีตพระพรหมเมธีพร้อมคนขับรถ สีกา จ. อ้างว่ามีคนมารับช่วงต่อ โดยไม่ทราบว่าไปหลบซ่อนอยู่แห่งใด ทางการข่าวทราบว่าสีกา จ. มีสามีซึ่งเป็นคนไทย ทำสัมปทานเหมืองแร่ทองคำอยู่แขวงสาละวัน ทางภาคใต้ของประเทศลาว อาจจะมีส่วนช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เดินทางไปจังหวัดนครพนม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ขณะเดียวกันเมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เตรียมขออนุมัติหมายจับคนขับรถของอดีตพระพรหมเมธีจากศาลจังหวัดนครพนม ซึ่งขณะนี้หลบหนีไปกับอดีตพระชื่อดัง จากนั้นก็จะประสานไปยังทางการประเทศลาว เพื่อล่าตัวบุคคลทั้งสองกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ มีความกังวลว่าอดีตพระพรหมเมธีพร้อมลูกศิษย์จะเดินทางหลบหนีต่อไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งจะทำให้ยากต่อการติดตามตัว อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีมั่นใจว่าจะได้ตัวอดีตพระพรหมเมธีมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน
ก่อนนี้มีรายงานว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงในการหลบหนี ทางตำรวจได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมเสนออนุมัติออกหมายจับทั้งหมด 5 ราย เป็นคนไทยจำนวน 3 ราย และเป็นชาวลาวอีก 2 ราย ซึ่งพบว่ามีเบาะแสเชื่อมโยงที่ช่วยเหลือในการหลบหนี และหนึ่งในจำนวน 5 ราย เป็นสีกาคนสนิทของเจ้าคุณจำนงค์ ซึ่งรอเพียงพยานหลักฐานชัดเจน ทางตำรวจจะมีการเสนอออกหมายจับ
ด้านพระอธิการพรเทพ จักรวโร เจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ ที่พักรถตู้ต้องสงสัย ยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการหลบหนีของพระจำนงค์ และพร้อมให้ความร่วมมือตำรวจในการติดตามจับกุมตัว ส่วนรถตู้คันดังกล่าวยืนยันว่ามีโยมมาฝากจอดไว้ในช่วงงานทำบุญวิสาขบูชา แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่มีส่วนรู้เห็นในการช่วยหลบหนี แต่เท่าที่ทราบ เจ้าคุณจำนงค์มีลูกศิษย์ใน สปป.ลาวจำนวนมาก ที่อาจมีส่วนช่วยในการหลบหนี
วันเดียวกันนี้ เกิดกระแสข่าวลือว่า พระราชรัตนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ซึ่งถูกกล่าวหาในคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 2 ว่าได้หนีและลาสิกขาไปแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังวัดดังกล่าว โดยยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ แต่มีการระบุตรงกันว่าไม่เจอท่านมา 2-3 วันแล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามกว่า 10 นาย เข้าค้นกุฏิภายในคณะ 4 ซึ่งเป็นกุฏิของอดีตพระเมธีสุทธิกร หรือนายสังคม สังฆะพัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรืออดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่ได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ยึด CPU จ่อจับพระเกย์
ภายหลังการเข้าค้นนานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดซีพียูของคอมพิวเตอร์จำนวน 1 เครื่อง พร้อมเอกสาร ก่อนที่จะนำขึ้นรถไปโดยไม่ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ใด
นอกจากนี้ จากการตรวจค้นครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความลำบากใจ เนื่องจากว่าภายในกุฏิมีความเรียบร้อย ข้าวของจัดวางเป็นที่ ซึ่งเชื่อว่าได้มีการเข้ามาเก็บของไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถามหา พระวิสุทธิศาสนวิเทศ (กวีศิลป์ วิสุทธิกุโล) เจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เพื่อขอสอบปากคำเพิ่มเติมแต่ไม่พบตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เตรียมขอหมายค้นกุฏิพระอีก 1 รูป หลังพบภาพลามกอนาจาร ระหว่างพระรูปหนึ่งกับฆราวาสชาย
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ บก.ป.อยู่ระหว่างประสานไปยัง บก.ปอท. เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีการนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่
นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการดูแลอดีตพระผู้ใหญ่ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำว่า ขณะนี้อดีตพระผู้ใหญ่สามารถปรับตัวได้บ้างแล้ว โดยเรือนจำได้เริ่มให้อดีตพระผู้ใหญ่เปลี่ยนจากสวมกางเกงขาสั้นสีขาว เป็นกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน แต่ยังให้สวมเสื้อสีขาว มีเพียงนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระเท่านั้น ที่ยังคงสวมใส่เสื้อสีขาวและกางเกงขาสั้นสีขาว
"ตอนนี้ผู้ต้องขังทุกคนไม่มีอาการเครียด และเริ่มปรับตัวเข้ากับผู้ต้องขังอื่นๆ ได้แล้ว ซึ่งผู้ต้องขังที่เป็นอดีตพระทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ กิจกรรมที่ทำจึงเป็นการสวดมนต์และปฏิบัติธรรม ส่วนอาการป่วยของนายธงชัย สุขโข หรืออดีตพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ซึ่งมีอาการท้องเสียตั้งแต่ก่อนเข้าเรือนจำก็เริ่มดีขึ้น โรคประจำตัวเดิมก็ไม่มีผล สามารถทำกิจวัตรได้เป็นปกติ ขณะที่อดีตพระพุทธะอิสระที่มีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้น ก็ยังต้องทำกายภาพทุกวัน ซึ่งล่าสุดไม่ได้มีอาการเจ็บปวดมากขึ้น" นายกฤชกล่าว
พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด คณะกรรมการราชทัณฑ์และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกกังวลกับกรณีที่พระชั้นผู้ใหญ่มีทรัพย์สินเงินทองเป็นจำนวนมาก พร้อมแนะให้แต่ละวัดมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลทรัพย์สินของวัด ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเช่นเดียวกับกรณีของเงินทอนวัด
พระธรรมสุธี (นรินทร์ นรินโท) เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ในฐานะรักษาการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องด้วยตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรวิหาร และเจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร ว่างลง อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5 วรรค 2 แห่งกฎหมายเถรสมาคม ฉบับที่ 19 (พ.ศ.2536) ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ดังนั้น จึงแต่งตั้งให้พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) อายุ 54 พรรษา 32 ปัจจุบันดำรงแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และเจ้าคณะภาค 12 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ
พร้อมกันนี้ ได้แต่งตั้งให้พระราชวิสุทธิดิลก (ละเอียด กิตติสุขุโม) อายุ 75 ปี พรรษา 54 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะแขวงวัดสามพระยา เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสามพระยา ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |