คิกออฟฉีดวัคซีน! หมอหนูยันทุกจังหวัดไมมี่พลิ้ว/‘บิ๊กตู่’ตรวจ‘บางซื่อ-ดินแดง’


เพิ่มเพื่อน    

 

“อนุทิน” สยบปมเลื่อนฉีดย้ำคิกออฟ 7 มิ.ย. หลังสั่ง สสจ.เคลียร์ทุกจังหวัดแล้ว มั่นใจคนไทยได้วัคซีนตามเป้า แจงหลักควบคุมโรคต้องจัดสรรให้โซนสีแดงมากกว่าพื้นที่อื่น กทม.การันตีลงทะเบียนไทยร่วมใจได้ฉีด 100% ลุยวันละ 7 หมื่นคน 7-14 มิ.ย.ได้แอสตร้าฯ สปสช.เผยจ่ายอาการไม่พึงประสงค์แล้ว 393 ราย 3 ล้านบาท ทั่วประเทศคึกคักพร้อม Kick off

    เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีโรงพยาบาลจำนวนหนึ่งประกาศเลื่อนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ว่าได้ให้สำนักสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ของแต่ละจังหวัดเข้าไปทำความเข้าใจแล้ว โดยวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ต้องให้บริการวัคซีนแก่ประชาชน ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขสถานการณ์ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือหน่วยบริการเร่งฉีดให้เร็วจนไม่สอดคล้องกับจำนวนที่ได้รับ เมื่อหมดต้องรอล็อตใหม่เข้ามา นับเป็นความหวังดี ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติของวัคซีนที่จะทยอยมาต้องจัดสรรให้ดี มิเช่นนั้นจะหมด ก่อนที่ล็อตต่อไปจะลงมาถึง แต่ขอย้ำว่าคนไทยได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงตามเป้าของรัฐบาลแน่นอน
    “ซึ่งบางคนก็ได้ฉีดช้า บางคนก็ได้ฉีดเร็ว เพราะวัคซีนจะเข้ามาเป็นล็อตๆ ไม่ได้เข้ามารวดเดียวหมด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้บริการเสร็จภายใน 1 เดือน ตรงนี้ต้องขอให้ประชาชนเข้าใจความเป็นจริง ทั้งนี้ การให้บริการได้มีการวางแผนไว้หมดแล้ว อย่างที่ผ่านมาให้บริการกลุ่มเสี่ยง และคนมีโรคประจำตัว ในอนาคตจะให้บริการอย่างกว้างขวางขึ้น สำหรับการจัดสรรวัคซีนลงแต่ละพื้นที่ มีการคำนวณที่ตายตัว ด้วยการนำจำนวนวัคซีนที่มีมาหารจำนวนจังหวัด จากนั้นจะมาคำนวณกับจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่ ไปจนถึงสถานการณ์ของแต่ละจังหวัด ขอย้ำว่าหากเป็นพื้นที่สีแดง จะต้องได้วัคซีนมากกว่าพื้นที่อื่นแน่นอน เพราะเป็นหลักในการควบคุมโรคทั่วไป” นายอนุทินระบุ
    เมื่อถามถึงการกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ไทยเพิ่งได้รับมา 1.8 ล้านโดส นายอนุทินกล่าวว่า กระจายลงพื้นที่ต่างๆ แล้ว เพราะมีความต้องการสูง จากนี้ทางผู้ผลิตมีหน้าที่ส่งมอบให้ทันตามสัญญา และต้องหารือกับกรมควบคุมโรค เพื่อวางแผนการให้บริการแก่ประชาชนให้สอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับ เมื่อวัคซีนลงไปถึงพื้นที่ ให้เป็นบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด และ สสจ.ในการกระจายวัคซีนในพื้นที่ ซึ่งแต่ละจังหวัดล้วนมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ระหว่างนั้น สธ.ต้องรอให้ผู้ผลิตส่งวัคซีนเข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยอย่างละเอียด จึงจะเข้าสู่การให้บริการประชาชนตามขั้นตอน
    สำหรับวัคซีนทางเลือกนั้น ทาง สธ.สนับสนุนให้เกิดขึ้น โดยจะช่วยเหลือเรื่องการขึ้นทะเบียน หากมีขอเข้ามา จากนั้นให้เป็นหน้าที่ของเอกชนในการหารือกับผู้ผลิต เพื่อนำมาให้บริการในประเทศ ซึ่งภาครัฐสนับสนุนการนำเข้าวัคซีนที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน
นายกฯ เยี่ยมศูนย์วัคซีนบางซื่อ
    นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ และศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในวันจันทร์ที่ 7 มิ.ย.นี้ โดยศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้อย่างน้อยวันละประมาณ 10,000 คน  ซึ่งดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย จากที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. เป็นต้นมา ส่วนการเปิดบริการจริงเต็มรูปแบบในวันที่ 7 มิ.ย. จะเปิดให้บริการประชาชนที่ลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้าก่อนแล้วเท่านั้น เพื่อความชัดเจนว่าประชาชนที่เดินทางมาที่สถานีกลางบางซื่อจะได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดที่นัดหมายอย่างแน่นอน และเป็นการลดความแออัดของสถานที่ฉีดวัคซีนอีกด้วย
    "สำหรับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับการนัดหมายไว้ก่อนแล้วนั้น สามารถดำเนินการได้ทั่วประเทศตามแผนเดิมที่กำหนดไว้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ทุกจังหวัดทั้งในส่วนของแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การจัดส่งวัคซีนจากส่วนกลางไปยังสถานที่ฉีดวัคซีนต่างๆ ทั่วประเทศนั้น มีการปรับเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยจากเดิมที่ส่งให้จังหวัดเป็นรายเดือน ได้ทำการปรับเปลี่ยนเป็นแบบรายสัปดาห์ตามสถานการณ์แทน” โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
    น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีที่สถานพยาบาลบางแห่งประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนวันที่ 7 มิ.ย.นั้น ปลัด สธ.ได้ประชุมสื่อสารทำความเข้าใจกับทุกจังหวัดถึงแนวทางการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกันเกี่ยวกับการจัดส่งวัคซีน ขณะนี้รัฐบาลยืนยันจะมีการทยอยจัดส่งอย่างต่อเนื่อง ไม่เป็นปัญหาต่อเป้าหมายการฉีดวัคซีน จากนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามที่กำหนดต่อไป
    ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ผู้ประกันตนมาตรา 33 อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังลงพื้นที่ดูขั้นตอนการรับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการบริการฉีดในวันที่ 7 มิ.ย.ว่า ทุกจุดให้บริการมีความพร้อมเต็มที่ ซึ่งใช้เวลาโดยรวมทุกจุดประมาณ 40 นาทีต่อคน ศักยภาพฉีดได้วันละ 1,500 คน โดยมีทีมบุคลากรจากโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นเนล สมุทรสาคร มาให้บริการฉีด เมื่อรวมทุกศูนย์แล้วจะมีศักยภาพในการฉีดได้วันละ 50,000 คน
    พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า จุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ณ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เขตหลักสี่ ซึ่งเป็น 1 ใน 25 "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย" เป็นความร่วมมือการให้บริการระหว่าง กทม. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลธนบุรีซึ่งตั้งเป้าหมายในการให้บริการฉีดวัคซีน 1,000-2,000 คน/วัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยวันนี้ได้ทดสอบระบบโดยทำการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรด่านหน้า  อาสาสมัคร โดยมีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอน มีการเตรียมระบบให้วัคซีนที่ปลอดภัยและครบถ้วนจนถึงการดูแลและสังเกตอาการ
กทม.ลุยฉีดวันละ 7 หมื่นคน
       สำหรับหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอก รพ.ทั้ง 25 จุด ขณะนี้มีความพร้อมให้บริการประชาชนทุกแห่ง ทั้งในด้านระบบบริการ ด้านการบริหารจัดการวัคซีนในแต่ละจุด และการวางแผนการฉีดวัคซีน มีความพร้อมให้บริการแก่ประชาชนที่ลงทะเบียนจองฉีดวัคชีนโควิด-19 ในผ่านระบบ "ไทยร่วมใจ" ขอให้ประชาชนมาตามวัน เวลาสถานที่ที่นัดหมาย ตามที่ระบบส่ง sms ไปให้ ไม่ต้องกังวลว่ามาแล้วจะไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ยืนยันว่าหากมาตามนัดจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน 100% โดยในวันที่ 7-14 มิ.ย.64 จะได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ด้านศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนของ กทม. จากเดิมที่ตั้งเป้าการบริการฉีดวัคซีนทั้ง 25 แห่ง ให้สามารถบริการได้ 38,000-50,000 คน/วัน ขณะนี้สามารถเพิ่มศักยภาพรองรับประชาชนได้ 70,000 คน/วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่จะได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข
        ด้านการบริการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่อายุเกิน 60 ปี และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรคที่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนกับ "หมอพร้อม" ซึ่งหยุดรับการลงทะเบียนไปแล้ว ทำให้มีประชาชนตกค้างโครงการ "ไทยร่วมใจ" จะนำประชาชนกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบโดยให้สามารถลงทะเบียนผ่านระบบ "ไทยร่วมใจ" ได้พร้อมทั้งขอจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข หากได้รับการจัดสรรวัคซีนประชาชนกลุ่มนี้จะได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน
    นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนงานโครงการที่รัฐจัดให้ฟรีว่า หลังจาก สปสช.เปิดให้ยื่นขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้นประมาณ 3 สัปดาห์ ขณะนี้มีผู้ยื่นขอเข้ามา 344 ราย และคณะอนุกรรมการทั้ง 13 เขตพื้นที่มีมติจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้ว 239 ราย ไม่จ่าย 44 ราย รอข้อมูล 61 ราย โดยการช่วยเหลือขณะนี้เป็นเงิน 3,016,700 บาท ซึ่งมีกรณีที่เสียชีวิตที่คณะอนุกรรมการฯ มีมติจ่ายเงินช่วยเหลือขณะนี้ 4 รายคือ ที่ จ.ปทุมธานี 1 ราย, จ.แพร่ 1 ราย, จ.สงขลา 1 ราย และ จ.ตาก 1 ราย ทั้งนี้อาการไม่พึงประสงค์ที่มีการจ่ายชดเชยส่วนใหญ่จะนอนโรงพยาบาล โดยเกินกว่า 50% จะมีอาการชา มีบางส่วนที่มีอาการชานานเกิน 2 เดือน นอกนั้นก็มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียจนต้องนอนพักในโรงพยาบาล
    ทั้งนี้ ในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งจะช่วย เหลือจำนวนเท่าใดนั้น เป็นการพิจารณาของอนุกรรมการฯ ตามภาวะความรุนแรง โดยสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับ สปสช.ได้ที่ โรงพยาบาลที่ฉีด หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่ สปสช.สาขา เขตพื้นที่ทั้ง 13 เขต โดยมีระยะเวลายื่นคำร้องได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. โทร.1330
    ที่โรงพยาบาลปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายพิษณุ ประเภทธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี, นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 แอสตร้าฯ จำนวน 39,500 โดส และซิโนแวค 9,380 โดส ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรคหลักที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” โดยเริ่มฉีดในวันจันทร์ที่ 7 มิ.ย. พร้อมกันทุกหน่วยบริการ ทั้งจังหวัด โดยจังหวัดได้จัดสรรวัคซีนวัคซีนให้โรงพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชน รวม 23 แห่ง ทั้งนี้ นพ.สุรินทร์กล่าวว่า ที่ผ่านมาปทุมธานีได้รับวัคซีนซิโนแวคและได้ฉีดไป 10,000 คน และวันนี้มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 39,500 โดส โดยจะดำเนินการฉีดให้กับผู้ที่จองผ่านหมอพร้อมก่อน คาดว่าภายในวันที่ 7-19 มิ.ย. จะได้รับการฉีดทั้งหมด
ทั่วไทยพร้อมคิกออฟ 7 มิ.ย.
    ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้การบริหารจัดการฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย โดยวันที่ 7 มิ.ย.เตรียมสถานที่ฉีดที่โรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่ง ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่า? ประชาชนทุกคนที่ได้ลงทะเบียนไว้จะได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน แต่จะเป็นไปตามคิวการจัดสรรวัคซีนจาก สธ. โดย? 8 เดือนต่อจากนี้ไป จังหวัดเชียงใหม่จะฉีดให้ได้ถึงร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด
    นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มียอดการจองแล้วกว่า 1.9 แสนราย แยกเป็นผ่านระบบหมอพร้อม? 78,862 คน? จากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ?(อสม.) และเจ้าหน้าที่? 117,974 คน? โดยขณะนี้มีหน่วยฉีดแล้ว 46 หน่วย ครอบคลุมทั้งจังหวัด สำหรับในรอบเดือน มิ.ย.นี้ ได้รับการจัดสรรวัคซีนรวม 110,000 โดส โดยจะจัดส่งเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งจะเพียงพอต่อผู้ลงทะเบียนรับวัคซีนในเดือน มิ.ย.ผ่านระบบหมอพร้อมกว่า 64,000 รายอย่างแน่นอน ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ได้รับวัคซีนแล้วทั้งหมด 76,390 ราย แบ่งเป็นฉีดเข็มแรก 53,768 ราย และฉีดทั้งสองเข็ม 22,622 ราย และถึงขณะนี้มียอดการจองวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อม เครือข่าย อสม.และเว็บไซต์  "ก๋ำแปงเวียง" หรือกำแพงเมือง แล้วทั้งหมด 295,845 ราย จากจำนวนประชากรเป้าหมายทั้งหมด 1,324,449 คน
    ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่าน โดยการฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย. ได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าฯ 7,500 โดส สัปดาห์แรก 3,600 โดส และสัปดาห์ที่สอง 3,900โดส โดยจะจัดสรรให้กับผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อมทั้งหมดก่อน โดยยอดผู้จองลงทะเบียนหมอพร้อมมี 3,908 ราย จึงยังคงเหลือวัคซีนอีก 4,197 โดส สำหรับจัดสรรตามความเสี่ยงของกลุ่มเสี่ยง โดยจังหวัดน่านมีกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 167,665 คน มีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนกว่า 390,000 คน จากประชากรกว่า 400,000 คน
    ที่ จ.ตราด นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าฯ ตราด เปิดเผยว่า ได้รับวัคซีนมา 6,500 โดส จะทำการฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงวันละ 1,800 โดส ซึ่งจะใช้เวลา 4-5 วัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการควบคุมโรค แต่กลุ่มที่ทางจังหวัดจะดำเนินการฉีดด้วยก็คือกลุ่มครูอาจารย์จำนวนกว่า 1,000 ราย เพื่อให้ทันก่อนเปิดเทอมในวันที่ 14 มิ.ย. ทั้งนี้ จะใช้ศาลาประชาคมจังหวัดตราดเป็นสถานที่ในการฉีด โดยผู้ว่าฯ ตราดจะเป็นผู้ฉีดวัคซีนคนแรก หลังจากนั้นจะมีหัวหน้าส่วนราชการและกลุ่มผู้สูงอายุเข้าทำการฉีดวัคซีน
    ที่ห้องโคราชฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ร่วมตรวจความพร้อมการฉีดวัคซีน “คิกออฟ วัคซีน โคราช” นอกจากนี้ได้ตรวจจุดตั้งอุปกรณ์ระบบการถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งในวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 08.30 น. นายกรัฐมนตรีจะมีการประชุมมอบนโยบายผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มายังศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เพื่อสอบถามความพร้อมและการชมบรรยากาศการฉีดวัคซีนของชาวนครราชสีมา ทั้งนี้ นพ.นรินทร์รัชต์ยืนยันว่า วัคซีนแอสตร้าฯ ไม่มีปัญหา ไม่ขาดแน่นอน ทุกคนที่มีการนัดหมายการฉีดไว้ล่วงหน้าได้ฉีดครบหมด
    ที่ จ.สงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ระบุว่า มีประชากรกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้ลงทะเบียนไปแล้วรวมกว่า 349,002 คน โดยมีการจองวัคซีนแล้ว 180,433 คน คิดเป็นร้อยละ 51.69  และในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ มีกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มดังกล่าว เข้ารับการฉีดวัคซีนประมาณ 7,387 คน และจากนั้นไปจนถึงวันที่ 13 มิ.ย. จะมีกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนอีกราว 27,480 คน โดยได้กำหนดจุดฉีดวัคซีนรวมทั้งสิ้น 34 แห่ง โดยเป็นนอกโรงพยาบาล 11 แห่ง ในโรงพยาบาล 23 แห่ง และโรงพยาบาลชุมชนในแต่ละอำเภออีก 15 จุด ขณะที่ทีม อสม.ย่านเมืองเก่าสงขลา นำโดยคุณอารณีย์ ศุปการ ประธาน อสม.ย่านเมืองเก่าสงขลา จัดขบวนรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกไปรับการฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย. ที่โรงยิมเนเซียม สนามกีฬาติณสูลานนท์ สงขลา ตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป โดยมีนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการฉีดวัคซีน.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"