ภาพดวงชะตาและทักษาเดิม-จรเมือง
กำเนิดวันอาทิตย์ อายุเมืองเต็ม 236 ย่าง 237 ปี
ทักษาจรตกภูมิพระจันทร์ (๒)
พระอาทิตย์ (๑) เป็นกาลกิณีจร-พระเสาร์ (๗) เป็นศรีจร
มฤตยูจร (0) ในเมษ/พระราหูจร (8) กรกฎ/พระเสาร์จร (7) ธนู/พฤหัสบดีจร (5) พิจิก
ชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ก็เหมือนชีวิตคน ที่พื้นฐานเดิมมีทั้งดี-ร้ายเป็นหลัก (ไม่มีดวงชะตาใดที่ดีทั้งหมด-ร้ายทั้งหมด) หลังจากนั้นก็เป็นจังหวะ-ลีลาของชีวิตตามอาการ หรือผลของดาวจรที่เดินมาทำมุมดี-ร้ายกับดวงเดิมดวงเมือง
และในบรรดาสิ่งดี-ร้าย-กลางๆ ของเมืองที่เกิดได้ตลอดเวลานั้น ทักษาจรเมืองรัตนโกสินทร์ที่ ถือกำเนิดวันอาทิตย์ (ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 นาที) อายุครบ 236 ปีไปเมื่อ 21 เมษายน 2561 และอายุกำลังย่าง 237 ปี ตกภูมิจันทร์ ๒ (ดังภาพ พระอาทิตย์ ๑เป็นกาลกิณีจร และพระเสาร์ ๗ เป็นศรีจรไปถึงวันที่ 21เมษายน 2562
เอาแค่ทักษาเดิมประกอบทักษาจรนี้ เมื่อพลิกตำราแล้วสามารถใช้ทำนายบอก ภาพใหญ่ๆ (ส่วนหนึ่ง) ในเมืองระหว่าง 21 เมษายน 2561-21 เมษายน 2562 ได้ แถมบางอย่างเกิดขึ้นแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ และบางอย่างทำท่าจะเป็นไปตามคำทำนายที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้คือ
1.พระอาทิตย์ ในทางโหราศาสตร์การเมืองหมายถึง การเมือง นักการเมือง ผู้มียศ มีตำแหน่งในกิจการแผ่นดิน ผู้นำองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ-เอกชน เช่น หากเป็นรัฐบาลก็คือนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็นข้าราชการประจำ ก็ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้อำนวยการต่างๆ ฯลฯ เมื่อเป็นกาลกิณีในระยะหนึ่งปีตามรอบวันเกิดเมืองหนึ่งปีนี้จะออกอาการไม่ดี หรือออกแนวร้ายเป็นพื้นอยู่ทั้งปี (มีบางช่วงที่จะพลิกกลับเป็นดี เช่น หากพระอาทิตย์จรเดินเข้าภพวินาสน์ดวงเมือง-กาลกิณีเข้าวินาสน์-ลาภเหมือนมาดที่หวังไว้ ฯลฯ)
ทั้งนี้ เป็นเพราะ กาลกิณี นั้น ในทางโหรถือเป็นสิ่งเลวร้าย โดยอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ท่านให้นิยามไว้ว่าหมายถึง ศัตรู อุปสรรค ความทุกข์ยาก รายจ่าย สิ่งที่จะเกิดเป็นความชั่วร้ายคอยล้างผลาญ ทำลาย ฯลฯ เมื่อพระอาทิตย์ทักษาเดิมกลายเป็นกาลกิณีจร ผู้เขียนจึงพยายามส่งสัญญาณมาตลอด สรุปว่า การเมืองที่พระอาทิตย์เป็นตัวแทน (ตามหลักจากหนังสือโหราศาสตร์เศรษฐกิจและการเมือง โดยยอดธง ทับทิวไม้-สำนักพิมพ์เดลฟี่) จะวุ่นวาย-ยุ่งตาย…ทั้งนี้ รวมทั้งตัวบุคคลที่เป็นผู้นำองค์กรต่างๆด้วย
แล้วเราก็ได้เห็นกันมาแล้วระยะนี้ ทั้งการเกิดของพรรคการเมืองต่างๆ - การรวมกันถล่ม คสช.แบบแนวร่วมมุมกลับ - เลือกหรือไม่เลือกตั้ง - เลือกเมื่อใด ฯลฯ
2.ขณะที่ก่อนหน้านี้เรื่องการเลือกตั้งยังแกว่งไกวไม่แน่นอน และหลายคนไม่มั่นใจว่าจะไม่มีการเลือกตั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับกฎหมายเลือกตั้งทั้งหลาย ขนาดบางคนท้าพนันกับผู้เขียน แต่ผู้เขียนยังมั่นใจ และทำนายเหมือนเดิม (หลังจากเคยทำนายพลาดมาแล้วสองครั้งเกี่ยวกับกำหนดการเลือกตั้ง) ว่าระหว่าง 5 ตุลาคม 2561-31 ตุลาคม 2562 จะมีการเลือกตั้ง (เกณฑ์พฤหัสบดีจรที่ราศีพิจิก ถึงพระราหูดวงเดิมที่สถิตมีน)
3.และแล้วระยะที่เริ่มเป็นจริงเป็นจังก็ออกมาจากปากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่บอกว่าจะเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 ตามมาด้วยกฎหมายเลือกตั้งแผ่นทุกฉบับแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อประมวลทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ผู้เขียนจึงขอตีกรอบกว้างๆ จากโหราศาสตร์ตามน้ำคือ กำหนดการเลือกตั้งรอบนี้น่าจะเป็นประมาณระหว่าง 5 ตุลาคม 2561-22 กุมภาพันธ์ 2562 (เกณฑ์พฤหัสบดีจรที่พิจิก ร่วมธาตุกับพระราหูจรที่กรกฎ)
4.การเลือกตั้งคราวนี้คาดว่าจะมีปรากฏการณ์ประหลาดๆ-พลิกผัน-ล้อคถล่ม-อาถรรพ์-อาเพศ ฯลฯ ในระดับที่ผู้เขียนไม่กล้าทำนายผลการเลือกตั้ง หรือการได้รัฐบาล เพราะมฤตยูเจ้าของอาเพศจรยังทับลัคนาและพระอาทิตย์ ๑ ดวงเดิมดวงเมืองรออยู่ตั้งแต่มีนาคม 2559-กรกฎาคม 2565 รวมทั้ง
5.เป็นระยะที่ประชาชนของเมือง จะเปลี่ยนแปลง มากและไม่นิ่ง ด้วยหลักทักษาคือ เมื่อทักษรตกภูมิจันทร์(21 เมษายน 2561-21 เมษายน 2562) หากเป็นชะตาคนมีคำทำนายว่าจะแปรปรวนมากเช่นเป็นพระต้องสึก เป็นคนธรรมดาจะอยากบวช ฯลฯ
ถ้าจะให้ เสี่ยงอ่านลึกลง ไปว่าอะไรคือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงคราวนี้ ผู้เขียน คาดว่าส่วนหนึ่ง น่าจะเป็นพวกบัตร-เงินพลาสติก (พระราหู-ของปลอม-ของเทียม) อันได้แก่ บัตรสวัสดิการคนจนที่รัฐบาล คสช.พยายามทำมาตลอดน่าจะมีส่วนสำคัญ
และเพราะพระราหูที่ทับประชาชนอยู่นี้เป็นตัวแทนแก๊ส-เชื้อเพลิงอยู่ด้วย จึงคาดว่าราคาพลังงานจะเป็นส่วนหนึ่ง ในการตัดสินใจของประชาชนด้วย
6.ส่วนผลการเลือกตั้งจะกระทบรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างไรนั้น
6.1 แน่นอนว่าผลการเลือกตั้งย่อมกระทบต่อรัฐบาล คสช.ที่ครองอำนาจในขณะนี้ ด้วยต้องเปลี่ยนรัฐบาล นี่เป็นเรื่องกำปั้นทุบดินรู้ๆ กันอยู่แล้ว (ทางโหรคือพระราหูจรที่กรกฎเล็งใส่ราศีมังกรขอบเขตรัฐบาล-การบริหารประเทศ)
6.2 แต่ที่ผู้เขียนสนใจมากคือ ขอบเขต-อาณาเขตของฝ่ายค้าน หรือกลุ่มคนที่ยังไม่มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง-ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ซึ่งในทางโหราศาสตร์การเมืองตามตำรา ที่ อาจารย์ยอดธง ทับทิวไม้ ครูโหรผู้ล่วงลับให้หลักไว้ในหนังสือ โหราศาสตร์เศรษฐกิจและการเมือง (สำนักพิมพ์เดลฟี่) ว่าคือภพที่สี่ดวงเมือง อันได้แก่ ราศีกรกฎ นั้น
เป็นเพราะขณะนี้พระราหูตัวร้ายเปรียบได้กับ ตัวด้วงมอด เบียดเบียนทุกดวงชะตา การโกง ทำสิ่งผิดหรือตรงข้ามกับกฎหมาย ฯลฯ เดินอยู่ในราศีกรกฎ(ระหว่าง 4 สิงหาคม 2560-22 กุมภาพันธ์ 2562) ผู้เขียนเกรงว่า พลพรรคฝ่ายค้านหรือฝ่ายที่ยังไม่มีอำนาจในบ้านเมืองขณะนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่โต
ยิ่งเห็นปรากฏการณ์กรรมเก่าแรงในวงการพระสงฆ์(พระเสาร์จรทับพระเสาร์ดวงเดิมที่ราศีธนู) จึงมีโอกาสที่กรรมเก่าที่นักการเมืองทำไว้จะโผล่ขึ้นมาถูกเช็กบิลจนเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ชนิดชวนตะลึง-ตาค้าง-คาดไม่ถึง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |